หัวข้อ: โรคจิตหลงผิด คิดไปเองแบบนี้ ต้องพบแพทย์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 11, 2024, 07:10:02 am .
(https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/wp-content/uploads/2018/12/บทความ-ธ.ค.61_๑๘๑๒๐๖_0006.jpg.webp) โรคจิตหลงผิด คิดไปเองแบบนี้ ต้องพบแพทย์ ข้อมูลโดย : ผศ. พญ.ดาวชมพู นาคะวิโร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และตำราจิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4 โรคจิตหลงผิด คือ การมีความเชื่อ หรือความคิดไม่ตรงกับความเป็นจริง เรียกว่า อาการหลงผิด (delusion) ตั้งแต่ 1 เรื่องนานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป โดยอาการหลงผิดที่พบบ่อยที่สุดคือ ระแวงว่าตนถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกปองร้าย ผูกเรื่องเชื่อมโยงไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนใหญ่ไม่พบว่ามีประสาทหลอน เช่น หูแว่ว ผู้ป่วยมักจะยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ ยกเว้นบางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความหลงผิด เช่น ถ้าหลงผิดว่าเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้งก็อาจจะขอลาออกจากที่ทำงาน ทั้ง ๆ ที่ยังทำงานด้านนั้นได้ตามปกติ ทั้งนี้ผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ตัวว่ามีอาการหลงผิด ญาติหรือผู้ใกล้ชิดจึงควรสังเกตอาการและแนะนำให้มารักษา เพื่อให้ผู้ป่วยปรับตัวและอยู่ในสังคมได้ ประเภทของโรคจิตหลงผิด สามารถแบ่งออกเป็น • หลงผิดว่าบุคคลอื่นมาหลงรักตัวเอง โดยบุคคลนั้นมักเป็นผู้ที่มีความสำคัญหรือมีชื่อเสียง (Erotomanic Type) • เชื่อว่าตนเองมีความสามารถเหนือกว่าผู้อื่น มีความหยั่งรู้พิเศษ (Grandiose Type) • หลงผิดคิดว่าคู่ครองของตนนอกใจ (Jealous Type) • ระแวงว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง สะกดรอย หมายเอาชีวิต (Persecutory Type) • หลงผิดเกี่ยวกับร่างกายของตนเอง เช่น บางส่วนของร่างกายผิดรูปร่าง หรือ อวัยวะไม่ทำงาน (Somatic Type) @@@@@@@ ผลกระทบของโรคจิตหลงผิด โดยทั่วไปจะกระทบถึงการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม เช่นการระแวงว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง สะกดรอย หมายเอาชีวิต อาจทำให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมแยกตัวออกจากสังคม เพราะไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้น ต่อมาจะส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตได้ หากเป็นอาการหลงผิดคิดว่าคู่ครองของตนนอกใจ อาจส่งผลให้เกิดการทำร้ายคู่ครองนำไปสู่ปัญหาครอบครัวในที่สุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง • ปัจจัยด้านจิตใจ อาจเกิดจากการเลี้ยงดู ที่ไม่ได้รับความอบอุ่น ทำให้ไม่เชื่อใจใคร และมีความรู้สึกไวต่อท่าทีของผู้อื่น • ปัจจัยด้านสังคม เกิดจากสังคมที่มีความเครียด กดดัน การแข่งขันสูง การเอารัดเอาเปรียบ ทำให้รู้สึกว่าถูกผู้อื่นคุกคาม หรือรู้สึกว่าได้รับการกระทำที่ไม่ดีจากผู้อื่น จึงมีความระแวงได้มากขึ้น • ปัจจัยด้านชีวภาพ ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่พบว่าสัมพันธ์กับสมองส่วนที่ควบคุมความเป็นเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึก (https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/wp-content/uploads/2018/12/บทความ-ธ.ค.61_๑๘๑๒๐๖_0006.jpg.webp) กลุ่มเสี่ยงโรคจิตหลงผิด ผู้ที่เป็นโรคนี้ สามารถพบได้ในคนที่มีความเครียดสูง ผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน มีฐานะไม่ดี ทำให้มีการปรับตัวที่ผิดปกติ และเกิดความหวาดระแวงได้ ซึ่งสามารถพบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 18-90 ปี และพบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ความแตกต่างของจิตหลงผิดกับประสาทหลอน • อาการหลงผิด เป็นความผิดปกติในเนื้อหาของความคิด • อาการประสาทหลอน เป็นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่ผิดปกติ โดยไม่ได้มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น หูแว่ว ได้ยินเสียงพูดคุยเป็นเรื่องราว ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครพูด การบำบัดรักษาโรคจิตหลงผิด • เน้นที่สัมพันธภาพในการรักษา ความสัมพันธ์ที่ดีสามารถช่วยผู้ป่วยได้ โดยรับฟังด้วยความเข้าใจ ไม่โต้แย้งคัดค้านอาการหลงผิดว่าไม่จริง ในขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุนความเชื่อของผู้ป่วย • การรักษาด้วยยา ด้วยยารักษาโรคจิตโดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ • รับตัวรักษาในโรงพยาบาล หากอาการรุนแรง เช่น มีความเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง หรือผู้อื่น ขอขอบคุณ :- URL : https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคจิตหลงผิด-คิดไปเองแบ/ (https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคจิตหลงผิด-คิดไปเองแบ/) บทความสุขภาพ : โรคจิตหลงผิด คิดไปเองแบบนี้ ต้องพบแพทย์ | ธันวาคม 6, 2018 ข้อมูลโดย : ผศ. พญ.ดาวชมพู นาคะวิโร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และตำราจิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4 คลิกชมคลิปรายการ - “โรคหลงผิด” อาการทางจิต ที่ปักใจเชื่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง : พบหมอรามา ช่วง Big Story ได้ที่นี่ YouTube : https://youtu.be/456konSA2-4 (https://youtu.be/456konSA2-4) |