สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

บันทึกอาการเนสัชชิกธุดงค์ วันที่ 1 (21 - 22 ก.ค.67)
=======================
มีอาการอยากนอนหลับ สัปปะหงก แต่อย่างไรก็หลบเข้าสมาธิก็พอแก้ได้อยู่ มีอาการตาลาย เกิดดาวตาพร่า น้ำตาไหลแก้ด้วยพักสายตาไม่ต้องดูไม่ต้องมอง หลับตาลงก็พอช่วยได้
เข้านั่งสมาธิตั้งแต่ 21/7/67 18:00 -22/7/67 10:00 ( รวม 16 ชม )

บันทึกอาการเนสัชชิกธุดงค์ วันที่ 2 (22 - 23 ก.ค.67)
=======================
อาการง่วงนอนก็ต้องนอนแต่ต้องนั่งหลับ การนั่งหลับก็ไม่ค่อยสบายนักเพราะว่ารู้สึกปวดหลังความรู้สึกก็คืออยากนอนแต่อย่างไรก็ต้องอดทนเพื่อเป้าหมายเป็นการชำระพฤติกรรม
เข้านั่งสมาธิ ตั้งแต่ 22/7/67  18:00 - 23/7/67 11.00 ( รวม 17 ชม )
ตอนนี้มีอาการตาพล่า อ่านหนังสือไม่ค่อยเห็นน้ำตาไหล
มีอาการปวดหลัง ปวดเอว อยากนอน

บันทึกอาการเนสัชชิกธุดงค์ วันที่ 3 (23 - 24 ก.ค.67)
=======================
มีอาการปวดคอเสริม เพราะนั่งหลับคอตก นั่งหลับบ่อยครั้ง แต่อย่างไรก็ยังสู้ได้ ก็พยายามนั่ง ดีที่ว่าเก้าอี้มีคุณภาพ นั่งได้ดี แต่อย่างไรเวลาเข้าสมาธิชอบนั่งบนที่นอนมากกว่า
อาการตาพล่า ยังมีอยู่ด้านซ้ายเกิดแสงรุ้งแตกด้านซ้าย เหมือนมองผ่านกระจกแล้วเกิดแสงหักเห
ดื่มน้ำน้อยลง ทานน้อยลง เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เท้าบวม

เข้านั่งสมาธิตั้งแต่ 23/7/67 18:00 - 24/7/67 10:00 ( รวม 16 ชม )

บันทึกอาการเนสัชชิกธุดงค์ วันที่ 4 (24 - 25 ก.ค.67)
=======================
ปัจจุบันการทำธุดงค์กรรมฐาน ไม่ได้ยากอย่างครั้งพุทธกาล เช่น ปวดคอ ก็มีปลอกมาดานคอไม่ให้ล้ม ปวดหลังก็มีหมอนอิง
ส่วนการฉันก็ค่อนข้างจะตรงเวลา ถ้าไม่นั่งกรรมฐานเพลินไป ก็ยังพอสู้ได้ในสุขภาพ

เข้านั่งสมาธิตั้งแต่ 24/7/67 18:00 - 25/7/67 12:00 ( รวม 18 ชม )

บันทึกอาการเนสัชชิกธุดงค์ วันที่ 3 - 11 ( 24  ก.ค.67 - 2 ส.ค. 67)
( รายละเอียด รายวันมีอยู่ในเฟส 3 แต่เฟสสาธารณะคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องโพสต์ให้ทราบเป็นรายวัน )
=======================
โดยรวม ก็ยังรักษา สมาทานอยู่ทุกวัน นั่งหลับ เป็นพัก ๆ แต่การนั่งหลับจะจำกัดเวลาไว้ตั้งแต่ 13.00 - 18.00 เท่านั้น ดังนั้น 10.00- 12.30 เป็นเวลาฉันภัตร แต่อาจจะฉันเกือบ 12.00 เพราะว่าการออกกรรมฐานจะมีอยู่ในช่วง 10.00- 12.00 ทุกวัน
10.00 - 12.30 เป็นเวลาฉันภัตรขึ้นอยู่กับเวลาออกกรรมฐาน
ส่วนเวลา 18.00 - 12.00 จะอยู่ในการเข้ากรรมฐาน ( นั่งสมาธิต่อเนื่อง )
ที่ต้องเข้านานขนาดนี้เพราะว่าต้องการหลบเวทนา ที่เกิดจากการสมาทานธุดงค์ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ตลอดวัน เพราะต้องฉัน ต้องขับถ่าย ต้องบริหารกายบ้าง แต่อย่างไร ก็จะมีการสมาทาน ตามแผนที่วางไว้คือ 3วัน 5วัน น่าจะสูงสุดแค่นี้ แต่คงจะทำช่วงกลาง ๆ พรรษา และ ปลายพรรษา คิดว่าจะทำแค่ 2 ครั้งที่นั่งกรรมฐานนานต่อเนื่อง
อันนี้คือกิจวัตรประจำวัน
ส่วนอาการที่เกิดในช่วงสมาทานมาหลายวันช่วงนี้หลัก ๆ ก็มีดังนี้
1. สายตาพล่า มองไม่ชัด
2. น้ำตาไหล บ่อยมาก
3. ปวดหลัง ปวดเอว
4. มีอาการปวดคอ เนื่องด้วยเผลอนั่งหลับคอพับด้านหน้า
5. พะอืดพะอมเวลาฉัน ( ทำให้ฉันได้น้อยมาก )
6. มีลมตีขึ้นออกทางปาก ออกอาการเรอบ่อย
สรุป ยังพอทนได้ และยังสมาทาน เนสัชชิกธุดงค์ ต่อไป
ส่วนคำถามที่ ว่า เนสัชชิกธุดงค์คืออะไร ก็ขอตอบสั้น ๆ ดังนี้
ตอบ เนสัชชิกธุดงค์ เป็นข้อสุดท้ายของธุดงค์ ธุดงค์ มี 13 อย่าง
คำว่า ธุดงค์ หมายถึง ข้อสมาทานเพื่อการทำตบะ ( เป้าหมายเพื่อลดสุข )
เนสัชชิกธุดงค์ หมายถึง การสมาทานไม่นอน หมายถึงมันนอนราบ แต่ไม่ได้ห้ามหลับ ท่านเพียงแต่สมาทาน ไม่นอน เท่านั้นคือรักษาอิริยาบถ 3 คือ ยืน เดิน นั่ง
ดังนั้น เนสัชชิกธุดงค์ จึงหมายถึง การไม่นอนราบ ไม่ใช่ ไม่นอนหลับ การหลับยังมีได้อยู่ แต่เป็นการ ยืน เดิน นั่งหลับ แต่จะหลับ ตอนยืน เดินนั้น ไม่ใช่จะทำได้ ท่าหลับก็จะเหลือท่าเดียวคือ ท่านั่ง ก็คือ นั่งหลับนั่นเอง
ข้อเสียของการไม่นอน
เลือดลอย ความดันเลือดไปสมองจะตึงมาก มีอาการผล๊อยหลับ
สุขภาพที่เสียในการสมาทานธุดงค์นี้
สายตาจะไม่ค่อยดี
ความดันโลหิตจะสูง
เป็นโรคเท้าบวมได้ง่าย
มีโรคแทรกซ้อน เช่น ปวดหลังปวดเอว ปวดคอ เป็นต้น
สิ่งที่ได้จากการสมาทาน
ลดความสุขของตนเองลง
ลดกรรมบางอย่างเบา ๆ กลาง ๆ ได้ ( เหมือนใช้หนี้กรรมภาพมันจะปรากฏตอนเข้าสมาธิ )
เพิ่มตบะแก่จิต ไปในเส้นทาง เจโตปริยญาณ ยิ่งขึ้น

บันทึกการเข้าเนสัชชิกธุดงค์
วันที่ 13 - 26 ส.ค. 67
=======================
13 - 23 เข้ากรรมฐานปกติ 18.00 - 11.00 โดยประมาณทุกวัน
23 - 26 เข้ากรรมฐานต่อเนื่อง
( ออกกรรมฐานมาก็ง่วงมากอยู่ เมื่อวานหลังจากออกแล้ว ก็นั่งหลับไปหลายรอบ )
ขอผลแห่งทานจงมีแก่ท่านที่ได้ สนับสนุนการภาวนา ของ พอจ เทอญ
#รายละเอียดประจำวันมีอยู่ในเฟส 3 ส่วนนี้แค่เล่าไว้คร่าว ๆ เท่านั้น

24 / 10 / 67
ก็ยังรักษา เนสัชชิกธุดงค์ อยู่
แต่มีสภาพขัดข้องทางกาย คือ เรื่องสายตา
มีอาการลืมตาไม่ค่อยได้ มองไม่ค่อยได้
อุปกรณ์หน้าจอคอมแตกพัง ยังไม่ได้เปลี่ยน
ก็ใช้อย่างพังๆ อยู่แต่ประเด็น อยู่ที่สายตายังไม่ปกติเลยยังไม่ได้ทำการเปลี่ยน
อุปกรณืมือถือก็พัง ก็ลำบากบ้าง