สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

.
(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/md/2024/08/SZfwfHtS5aE6s3v2PKcO.webp?x-image-process=style/LG-webp)


“บึงกาฬ” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ “ถ้ำนาคา หินสามวาฬ ตำนานพญานาค”

  “บึงกาฬ” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีทั้งเรื่องราวของความเชื่อความศรัทธา เเละความอัศจรรย์ของธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สายมูสายธรรมชาติต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง

     “บึงกาฬ” จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนสุดของไทย แยกจากการปกครองของจังหวัดหนองคายเมื่อราวๆ ปี  2554  ที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคอีสานที่เต็มไปด้วยมนขลัง เรื่องราวความเชื่อ ความศรัทธา และความอัศจรรย์ของธรรมชาติ  จากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องบอกว่ามาได้ตลอดทั้งปี เที่ยวได้ตลอดทั้งฤดูจริงๆ 

     ซึ่งครั้งนี้ทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลน์มีโอกาสลงพื้นที่จึงเก็บบรยากาศบึงกาฬหน้าฝน มาฝากแฟนเพจที่ขอบอกเลยว่าสวย เหมือนอยู่ในมนขลัง  ได้เติมพลังศรัทธา ใครสายมู สายธรรมชาติบอกเลยต้องไป
 
(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/IkiaJo1uvpYzMV8wCT8Z.webp?x-image-process=style/lg-webp)

“ถ้ำนาคา” อุทยานแห่งชาติภูลังกา เที่ยวหน้าฝนเหมือนรับน้ำมนต์จากฟ้า

     ถ้ำนาคา แหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่เกิดจากการที่พื้นผิวของหินเกิดการกัดกร่อนไปตามปรากฎการณ์ซันแครก (sun crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงู ประกอบกับการโค้งตัวของหินทำให้รูปร่างโดยรวมคล้ายกับการขดตัวของงูใหญ่หรือพญานาค

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/YbXfejOPRQdKvcmKdTot.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/qg6nlbTG7CWdSTHoJu4w.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     จากข้อมูลบอกว่า ถ้ำนาคาเป็นถ้ำที่ถูกค้นพบเมื่อราว พ.ศ. 2563 โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์วินิจ สุเมโทร จากวัดถ้ำชัยมงคล ได้บันทึกภาพกลุ่มหินที่เกิดการกัดกร่อน มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงู ประกอบกับการโค้งตัวของหินทำให้รูปร่างโดยรวมคล้ายกับการขดตัวของงูใหญ่หรือพญานาค และโพสต์รูปภาพเหล่านั้นขึ้นบนสื่อโซเชียล และเกิดการกระจายข่าวไปตามความเชื่อส่วนบุคคลจนเป็นที่โด่งดัง

     โดยถ้ำนาคาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมากมาจนถึงปัจจุบัน   

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/kNXOWZkeCxNBG2gboheu.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     โดยวันที่เราไปฝนตกตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งการขึ้นไปบนถ้ำนาคาจะมีไกด์นำขึ้นไป ครั้งนี้เราได้ไกด์ชื่อว่าไกด์บอลเป็นคนนำทาง ซึ่งต้องบอกเลยว่าไกด์บอลเป็นไกด์ที่แนะนำสถานที่ วิธีการปฏิบัติ นำสวดมนต์ ได้แบบคล่องแคล่วและเก่งมากๆ

     ซึ่งก่อนขึ้นต้องจ่ายค่าบริการขึ้นถ้ำนาคารวมค่าประกันอุบัติเหตุคนละ 40 บาท ค่าไกด์นำทางขึ้นอยู่กับการตกลง

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/pAytx0Q0dtVaGSjAhLh2.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/ULIF34iZGEvkBZIuhblo.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     ทั้งนี้ระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปถึงถ้ำนาคาประมาณ 1,400 เมตร ทางเดินเป็นทางเดินธรรมชาติ ประกอบด้วย บันไดเป็นช่วง ๆ สลับกับพื้นดิน มีบางจุดจะต้องดึงเชือกเพื่อช่วยพยุงตัวทั้งตอนขึ้นและลง ใช้เวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 4-5 ชั่วโมงเหมาะแก่ผู้ที่มีสภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ตั้งครรภ์ และไม่มีโรคประจำตัว

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/ypbGXTA7yywZr3CzRIKb.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/zzq88VzesZmosq0d6Pvn.webp?x-image-process=style/lg-webp)

ซึ่งเส้นทางที่เดินขึ้นถ้ำนาคาเราจะเจอกับจุดต่างๆ ทั้ง
- ประตูเต่า
- หินหัวเรือ
- หัวนาคา หัวที่ 3
- น้ำตกตาดวิมานทิพย์
- หัวนาคา หัวที่ 1
- ถ้ำหลวงปู่วัง
- เจดีย์หลวงปู่วัง
- ถ้ำนาคา
- เจดีย์หลวงปู่เสาร์

ซึ่งใครอยากเก็บให้ครบแนะนำให้ขึ้นช่วงเช้า เวลา 07.00-12.00 น. 

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/hjIY5cQmZwNukPdUHVcu.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/aSGx9BglHakxfRQCHQWX.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/Po4b9LiJuDevTKT6bq3E.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/Pd3BfyBDMW9CUQS1XQLq.webp?x-image-process=style/lg-webp)

ภูสิงห์  “หินสามวาฬ”   ภูเขาหินทรายอายุกว่า 75 ล้านปี และจุดชมวิวสุดปัง

     “หินสามวาฬ” จุดชมวิวที่สวยงาม อลังการ เห็นธรรมชาติสุดลูกหูลูกตาทั้งป่าและหาดทรายแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีเนื้อที่ 12,000 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายทอดตัวไปตามแนวเหนือ-ใต้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬและอำเภอศรีวิไล ภูสิงห์

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/kNF1vyZiwAHl1NymdUg8.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกในลักษณะต่าง ๆ เกิดการเรียงตัวของก้อนหิน เกิดหน้าผา ถ้ำ ลานหิน และกลุ่มหินรูปทรงต่าง ๆ กระจายอยู่โดยทั่ว สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนภูเดียวกัน

     แน่นอนว่าสถานที่น่าสนใจของภูสิงห์ คือ หินสามวาฬ หินทรายขนาดใหญ่ ติดหน้าผาสูง สามก้อน มองไกล ๆ หรือมองจากภาพถ่ายทางอากาศ มีรูปร่างคล้ายวาฬพ่อแม่ลูก

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/zYwSaa6dP5ex8I32hGuw.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     หากใครขึ้นไปถ่ายรูปต้องใช้ความระวังปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะขณะเดินไปถ่ายภาพหรือชื่นชมธรรมชาติห้ามเลยเส้นสีเหลืองเด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติได้ค่ะ ที่นี่ดีตรงมีให้บริการถ่ายภาพด้วยโดรนซึ่งก็แนะนำนะคะเพราะถ้าได้ภาพมุมสูงจะดีๆมากๆ มาทั้งทีต้องได้ภาพมุมสูงค่ะ

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/waaidnO87Se7smXJNza3.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/MDSFJwW9KvbrUg3YFAqX.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/sKFt78XaBO4YuysySHE9.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     การมาเที่ยว “หินสามวาฬ”  ต้องนำรถไปจอดที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยว และต้องเช่ารถซึ่งเป็นรถกระบะของเจ้าหน้าที่คันละประมาณ 500 บาท สามารถเหมาหรือรวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นได้คันหนึ่งนั่งได้ประมาณ 10 คน โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้พาไปยังจุดต่างๆ ใกล้เคียงกัน ทั้ง  ลานธรรม,จุดชมวิวถ้ำฤาษี,หินช้าง,ส้างร้อยบ่อ,ประตูภูสิงห์ เป็นต้น

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/aZVTLYxZJUJfJ9Szx6ci.webp?x-image-process=style/lg-webp)

"ตำนานปู่อือลือ" เรื่องเล่าศักดิ์สิทธิ์  ณ บึงโขงหลง

ตำหนักองค์เจ้าปู่อือลือนาคราช

     ตำหนักองค์เจ้าปู่อือลือนาคราช หรือที่เรียกกันว่า ศาลปู่อือลือ สถานที่แห่งความศรัทธาที่ชาวบ้านมักจะบนบานศาลกล่าวหรือขอพรจากท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้งที่ออกไปหาปลาในบึง หรือแม้แต่เรื่องหน้าที่การงาน เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้สมปรารถนา

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/hIFAlKHW66vskLHuOyz8.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/k93AAHau0aRsI8rcEDWZ.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/egyJfWgKh7RzpoyvMlPw.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     ตามตำนานกล่าวว่าบึงโขงหลงเกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ โดยต้นเหตุคือ พระอือลือราชาทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย พร้อมกับคำสาปของพญานาคราชให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาคเฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพญานาคราชได้

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/B98d3eKuTcVvBIO1vVIj.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/ERpntkQPGELdmzYaS3lG.webp?x-image-process=style/lg-webp)

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/hG5CdsjvaCWYHA41fWnd.webp?x-image-process=style/lg-webp)

ศาลปู่อือลือ เกาะดอนโพธิ์ บึงโขงหลง

     หลังจากไปที่ ศาลปู่อือลือ แล้วสายมูต้องไปกันต่อที่ ศาลปู่อือลือ เกาะดอนโพธิ์ บึงโขงหลง ซึ่งเกาะแห่งนี้ตามตำนานเชื่อว่าเป็นวังพญาคาราช
      การเดินทางต้องขึ้นเรือเพื่อไปยังเกาะ ปัจจุบันมีท่าเรือให้บริการหลายเจ้ามากๆ แต่เรานั่งเรือที่ท่าเรือแม่ติ๋ม ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-10 นาทีถึงก็จะถึงเกาะดอนโพธิ์ ซึ่งทุกคนจะต้องเดินลุยน้ำเพื่อขึ้นเรือ และเมื่อลงเรือก็ต้องลุยน้ำเข้าไปหากฝนไม่ตกน้ำจะไม่สูงมากที่ท่าเรือจะมีรองเท้าบูทให้ยืม แต่วันที่เราไปกันนั้นก่อนหน้าฝนตกน้ำค่อนข้างสูง แต่ด้วยพลังศรัทธาเราไม่หวั่นกันอยู่แล้ว!

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/m9U2wskqD7niisjehq7b.webp?x-image-process=style/lg-webp)

ศาลเก่า๑๐๐ปี ปู่อือลือราชานาคราช บ้านโสกโพธิ์

     ที่นี่เป็นศาลเก่าอีกหนึ่งจุดที่ต้องมาสักการะปู่อือลือนาคราชให้ได้อีกหนึ่งที่  ตั้งอยู่ที่บ้านโสกโพธิ์ บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เมื่อถึงจากจุดจอดรถทางเข้าจะมีของสักการะขายอยู่บริเวณด้านหน้า ด้านในร่มรื่น มีต้นไม้ปกคลุม เป็นอีกหนึ่งที่ที่ให้บรรยากาศสงบ คล้ายมีมนขลังจริงๆ

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/kFYoiSOfpVsf3NEt9TSe.webp?x-image-process=style/lg-webp)

วัดถ้ำชัยมงคล จังหวัดบึงกาฬ สายมูต้องไม่พลาด

     "วัดถ้ำชัยมงคล" หรือ "ถ้ำหลวงปู่วัง" ตั้งอยู่ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ อยู่ห่างจากตัวอำเภอบึงโขงหลงประมาณ 13 กิโลเมตร เมื่อก่อนใช้เป็นเส้นทางขึ้นถ้ำนาคา โดยที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศภายในร่มรื่น สงบ

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/ZioSY3LU4TnBcJw33MaZ.webp?x-image-process=style/lg-webp)
 
     จากเรื่องเล่าบอกว่าสถานที่เเห่งนี้มี ปู่โพธิ์คำ หรือ นครินทราอธิบดีเดชานาคราช เป็นกษัตริย์แห่งภูลังกาที่เป็นผู้สาปปู่อือลือ

(https://image.thainewsonline.co/uploads/images/contents/w1024/2024/08/OL5kYAojeUTjmGGEYCeY.webp?x-image-process=style/lg-webp)

     และ แม่ย่าทองคำ หรือ นาคคิณีเทวีศรีปางตาล พญานาคสีดำและสีขาว ทำหน้าที่ปกปักรักษาทางขึ้นภูลังกา เชื่อกันว่าถ้าใครที่ได้มากราบไหว้ปู่โพธิ์ดำ จะต้องขอพรเรื่องหน้าที่การงาน การเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งจะประความสำเร็จดั่งที่ขอ และเรื่องสุขภาพจะหายป่วยไม่มีโรคไม่มีภัย

      ส่วนองค์ย่าทองคำ เชื่อว่าใครไปกราบไหว้ขอพร จะต้องขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทอง ค้าขายกำไรดี จะต้องขอพรองค์ย่าคำก็จะสมหวัง

     และนี่คือส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดบึงกาฬ  ดินแดนศักดิ์สิทธิ์  เมืองแห่งพญานาคที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความเชื่อ ความศรัทธา ความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ใครที่เป็นสายมูสายศรัทธาบอกเลยว่าที่นี่ต้องมาให้ได้จริงๆสักครั้ง รับรองคุณจะคล้ายได้รับพลังกลับไปอย่างแน่น


 

ขอบคุณ : https://www.thainewsonline.co/lifestyle/travel/874340 (https://www.thainewsonline.co/lifestyle/travel/874340)
20 สิงหาคม 2567