หัวข้อ: “พระตัณหังกร” พระอดีตพุทธเจ้า ตรัสรู้ใต้ต้น “ตีนเป็ด”.!? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 06, 2024, 06:22:29 am .
(https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/Cover-photo-2-1-696x364.png) พระตัณหังกรพุทธเจ้า “พระตัณหังกร” พระอดีตพุทธเจ้า ตรัสรู้ใต้ต้น “ตีนเป็ด”.!? เมื่อล่วงถึงช่วงนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ลมหนาวหอบพัดเอากลิ่นหอม (ฉุน) ที่หลายคนคุ้นเคยและจำนวนหนึ่งรู้สึกแขยงเข้าไส้อย่างกลิ่นดอกพญาสัตบรรณ หรือ “ตีนเป็ด” ให้ตลบอบอวลไปทั่ว และกลิ่นรุนแรงนี้ดูจะเป็นข้อพิพาทประจำปลายปีระหว่างคนกับต้นไม้ไปเสียแล้ว (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/IMG_5352-728x970-1.jpg) ดอกตีนเป็ด (ภาพจาก มติชนออนไลน์, 9 พฤศจิกายน 2565) แต่รู้หรือไม่ว่า ต้นไม้เจ้าปัญหาข้างต้นมีบทบาทโดดเด่นอยู่ในคัมภีร์พุทธศาสนา ระดับเดียวกับ “ต้นโพธิ์” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เพราะ “พญาสัตบรรณ” คือต้นไม้ที่พระอดีตพุทธเจ้าประทับตอนตรัสรู้เช่นกัน คัมภีร์บาลีพุทธวงศ์ อธิบายถึง “พระอดีตพุทธเจ้า” ว่าเป็นพระพุทธเจ้าก่อนพระศากยโคดมพุทธเจ้า (พระสิทธัตถะ) พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ประกอบด้วยพระพุทธ 27 องค์ (พระโคดม ลำดับ 28) (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/322547741_404343055191701_6657141086751127637_n-1024x683.jpg) จิตรกรรมสีฝุ่นภาพพระโพธิ์สัตว์ประทับริมฝั่งแม่น้ำ ลอยถาดไปยังวิมานของนาคนามว่าพญากาฬ ซึ่งขดตัวอยู่ในปราสาทและเบื้องหน้ามีพานรองรับถาดของพระอดีตพุทธเจ้า, ศิลปะรัตนโกสินทร์ จิตรกรรมบนพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (ภาพจาก เว็บไซต์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร) ใน ชินกาลมาลีปกรณ์ ที่พระรัตนปัญญาเถระรจนาเป็นภาษาบาลี และ ร.ต.ท. แสง มนวิทูร แปลเป็นภาษาไทย เป็นตำราเล่มสำคัญที่เล่าถึงพระอดีตพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ระบุว่า ใน “สารมัณฑกัป” มีพระพุทธเสด็จอุบัติ 4 พระองค์ ได้แก่ พระตัณหังกร พระเมธังกร พระสรณังกร และพระทีปังกร สำหรับ พระตัณหังกรพุทธเจ้า พระอดีตพุทธเจ้าลำดับแรก ได้รับการพรรณนากาลตรัสรู้ของพระองค์ไว้ ดังนี้ “ในพระพุทธ ๔ พระองค์นั้น พระโพธิ์สัตว์ตัณหังกร บำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยแสนกัปมาแล้ว ทรงเกิดเป็นพระราชโอรสของพระนางสุนันทา อัครมเหสีของพระเจ้าอานันท ในนครปุปผวดี ครองฆราวาสอยู่ ๑๐,๐๐๐ ปี เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ ทรงกระทำความเพียรอยู่ ๗ วัน ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธที่โคนต้น ‘พญาสัตบรรณ’ (ต้นตีนเป็ดขาว) ดำรงพระชนม์อยู่ ๑๐๐,๐๐๐ ปี จึงปรินิพพาน” กล่าวคือ พระตัณหังกรพุทธเจ้า ตรัสรู้ใต้ต้น “ตีนเป็ด” นั่นเอง (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/01-Buddha-Tanhankara-under-Milkwood-Tree-Original-1024x793.jpg) ภาพวาดในศิลปะพม่า พระตัณหังกรพุทธเจ้า ตรัสรู้ที่โคนต้นพญาสัตบรรณ หรือตีนเป็ด (ภาพถ่ายโดย Jana Igunma ต้นฉบับจาก British Library) แล้วพระอดีตพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ ตรัสรู้ใต้ต้นอะไรบ้าง.? ชินกาลมาลีปกรณ์ระบุพฤกษชาติที่พระอดีตพุทธเจ้าเสด็จประทับก่อนตรัสรู้แตกต่างกันไปในแต่ละพระองค์ เช่น พระเมธังกร ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้น “กิงสุกะ” หรือต้นทองกวาว พระสรณังกร ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้น “ปาตลี” หรือต้นแคฝอย พระทีปังกร ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้น “ปิบผลิ” หรือต้นเลียบ และ พระโกญฑัญญะ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้น “สาลกัลยาณี” หรือต้นขานาง ไม่พบหลักฐานชี้ชัดว่า เหตุใดคัมภีร์พุทธศาสนาจึงให้ความสำคัญกับต้นพญาสัตบรรณ ถึงขั้นให้เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระอดีตพุทธเจ้าลำดับที่ 1 อย่างพระตัณหังกร มีเพียงร่องรอยความเชื่อในอินเดียที่นิยามว่า ต้นไม้นี้คือสัญลักษณ์การ “ตื่นรู้” เพราะกลิ่นฉุนของมันทำให้มนุษย์เกิดสมาธิจดจ่อ และเกิดสภาวะ “ตระหนักรู้” (หากผู้อ่านมีข้อมูลเพิ่มเติม แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนไว้จะเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง) ถึงอย่างนั้น สำหรับคนแพ้กลิ่นดอกตีนเป็ดคงไม่ใช่แค่ “ตระหนัก” อย่างเดียว แต่จะพา “ตระหนก” เอาด้วย @@@@@@@ อ่านเพิ่มเติม :- • “ตีนเป็ด” มาจากไหน? ความย้อนแย้งของต้นไม้ที่ส่งกลิ่นหอม (ฉุน) ว้าวุ่นไปทั่วเมือง (https://www.silpa-mag.com/culture/article_122239) • รู้จัก “ต้นทำมัง” ต้นไม้ถิ่นใต้ ที่ให้กลิ่น “แมลงดานา” ในน้ำพริกที่หลายคนชื่นชอบ (https://www.silpa-mag.com/culture/article_137748) • ทาเบบูย่า ต้นไม้นำเข้า ที่ชอบเอาชื่อ”หม่อมราชวงศ์” มาตั้งเป็นชื่อ (https://www.silpa-mag.com/culture/article_103006) อ้างอิง :- - พระรัตนปัญญาเถระ, แสง มนวิทูร แปล. (2501). ชินกาลมาลีปกรณ์. พระนคร : กรมศิลปากร. - พรสวรรค์ อัมรานนท์. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาพจิตรกรรมฝาผนังของไทย เรื่องพระอดีตพุทธเจ้ากับวรรณกรรมพุทธศาสนา. ดำรงวิชาการ. (PDF Online) ขอขอบคุณ :- ผู้เขียน : ธนกฤต ก้องเวหา เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2567 website : https://www.silpa-mag.com/culture/article_142489 (https://www.silpa-mag.com/culture/article_142489) |