สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

.
(https://i.pinimg.com/736x/6c/ba/65/6cba651fb3a320cd09bf40af5820be3a.jpg)


การกระทำกรรมของพระอรหันต์

พระอรหันต์ตามหลักพุทธจริยศาสตร์ คือ บุคคลที่ปราศจากกิเลสแล้ว แต่การกระทำของพระอรหันต์นั้น ยังมีเจตนาอยู่ หากพิจารณาตามเงื่อนไขของกรรมตามหลักพุทธจริยศาสตร์นั้น กรรมจะส่งผลเป็นวิบากของการกระทำกรรมได้นั้น ถือว่า เป็นการกระทำของบุคคลที่มีกิเลสอยู่ จะต้องเวียนอยู่ในวัฏฏะตามอำนาจของ "กิเลส กรรม วิบาก" (พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต, 2551)

เป็นกรรมที่อยู่เหนือกรรม แม้ยังมีเจตนาก็ตาม แต่เจตนาของพระอรหันต์มีความแตกต่างไปจากเจตนาของบุคคลที่ยังมีกิเลส เจตนาในการกระทำของพระอรหันต์เป็นเจตนาที่ไม่จัดเป็นกรรม เพราะเป็นเจตนาที่เกิดกับวิบากจิตและกิริยาจิต พระอรหันต์มีจิต 2 ชาติ กล่าว คือ วิบากจิตและกิริยาจิตเท่านั้น โดยจะไม่ให้ผลเป็นวิบากอีกต่อไป

การกระทำกรรมที่จะให้ผล คือ วิบากได้นั้น ต้องเป็นกุศลจิตและอกุศลจิตเท่านั้น แต่เจตนาของพระอรหันต์นั้นพ้นจากความเป็นกุศลจิตและอกุศลจิตแล้ว

ดังนั้น การกระทำของพระอรหันต์จึงไม่มีความขัดแย้งกับพุทธพจน์ข้างต้น และการกระทำกรรมในกรณีเช่นนี้ของพระอรหันต์ จึงไม่ต้องรับผิดชอบทางศีลธรรมโดยประการทั้งปวง

ยกเว้นในบางกรณี แม้จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ก็ตาม ตราบใดกรรมที่พระอรหันต์เคยทําไว้ก่อนจะบรรลุเป็นพระอรหันต์นั้นยังไม่ให้ผล ตราบนั้นพระอรหันต์ก็ยังต้องได้รับเศษวิบากกรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้

@@@@@@@

วิบากกรรมของพระอรหันต์

การกระทำกรรมของพระอรหันต์ หลังจากบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ตามหลักพุทธจริยศาสตร์นั้นถือว่า การกระทำกรรมของพระอรหันต์ไม่ต้องมีความรับผิดชอบทางศีลธรรม แต่ที่พระอรหันต์ยังต้องได้รับกรรมวิบากนั้น ซึ่งเป็นเศษกรรมในอดีตที่ยังไม่ให้ผล พอถึงคราวสมัยอันควร เศษกรรมก็จักส่งผลให้พระอรหันต์

หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าต้องได้รับผลของกรรมในอดีตที่เคยกระทำไว้ โดยที่กรรมวิบากนี้ไม่สามารถจะแก้ไขได้ เพราะใครทำกรรมอะไรไ ว้ก็จะได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ ไม่สามารถข้ามได้

ดังกรณี กรรมวิบากของพระพุทธเจ้าที่เกิดในชาติปัจจุบัน หลังจากได้ตรัสรู้แล้วพระพุทธเจ้ายังได้เสวยวิบากกรรมในวาระต่างกัน เช่น การถูกศิลากระทบ การเสวยเวทนาจากสะเก็ดหิน การถูกปล่อยช้างนาฬาคิรี การถูกผ่าตัดด้วยศาสตรา

เหล่านี้ล้วนเป็นกรรมวิบากที่ส่งผลให้พระพุทธเจ้าได้รับผลของกรรม จึงเป็นที่แน่ชัดว่า แม้พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์จะหมดกิเลสตัณหาก็จริง แต่ไม่สามารถข้ามพ้นวิบากกรรมไปได้ จักต้องเสวยวิบากกรรมที่ได้ทำไว้ในอดีต




ขอบคุณที่มา :-
สารนิพนธ์เรื่อง "เจตนากับความรับผิดชอบทางศีลธรรมในมุมมองพุทธจริยศาสตร์"
โดย นคร จันทราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วารสาร มจร พุทธปํญญาปริทรรศน์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 (มกราคม-เมษายน 2559)
ขอบคุณภาพจาก pinterest