สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

.
(https://www.madchima.org/forum/gallery/2_22_02_25_7_18_13.png)


สมเด็จพระญาณสังวร
ราชทินนามและคำแปล ใน สมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราชองค์ที่ ๑๙

---

 :25: :25: :25:

ในอภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระสาสนโสภณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ วิหาร อายุ ๕๙ พรรษา ๓๙ ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระญาณสังวร

     มีนามตามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า
    "สมเด็จพระญาณสังวร บรมนริศธรรมนิติสาธก ตรีปิฎกปริยัตติธาดา สัปตวิสุทธิจริยา สมบัติ อุดมศีลาจารวัตรสุนทร ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี"

     อันมีความหมายว่า
    "ผู้สํารวมในญาณ คือ ความรู้ แนะนําแนวธรรมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรอบรู้ปริยัติ คือ พระไตรปิฎก สมบูรณ์ด้วยความประพฤติตามวิสุทธิ ๗ ประการ งามด้วยศีลและมารยาทอันสูงส่ง เป็นใหญ่ในคณะธรรมยุต สถิตในอารามอันประเสริฐ ฝ่ายคามวาสี และฝ่ายอรัญวาสี"

ราชทินนามสมเด็จพระญาณสังวรนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ทรง โปรดฯ ให้ตั้งขึ้นใหม่เพื่อพระราชทานสถาปนาพระญาณสังวร (สุก) พระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนา เป็นสมเด็จพระราชาคณะครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๙ สมเด็จพระญาณสังวรจึงเป็นตําแหน่งพิเศษที่จะโปรดฯ พระราชทานสถาปนาแก่พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสสนาธุระเท่านั้น

@@@@@@@

ฉะนั้น นับแต่ พ.ศ. ๒๓๖๓ เมื่อ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก) ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราชแล้ว (บางครั้งเรียกพระนามโดยลําลองว่า “สมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน” ด้วยเลื่องลือว่าทรงแผ่เมตตาให้ไก่ป่าเชื่องได้) ก็ไม่เคยมีการพระราชทานสถาปนาตําแหน่งที่ สมเด็จพระญาณสังวร ให้แก่พระเถราจารย์รูปใดอีกเลย กระทั่ง พ.ศ. ๒๕๑๕ นับเป็นเวลาถึง ๑๕๒ ปี

นับแต่นั้นมาในเทศกาลเข้าพรรษา สมเด็จพระญาณสังวรจะไปถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระสังฆราช(สุก) ที่วัดราชสิทธาราม(วัดพลับ) เป็นประจําทุกปี ด้วยความกตัญญูรู้คุณว่าหากไม่มี สมเด็จพระญาณสังวร(สุก) เป็นรูปแรกก็ย่อมไม่มีสมเด็จพระญาณสังวร รูปที่ ๒

นอกจากนั้น สมเด็จพระญาณสังวรยังมอบหมายให้อาจารย์สุเชาวน์ พลอยชุม ศึกษาค้นคว้า พระประวัติอดีตสมเด็จพระสังฆราชพระองค์นั้น แล้วจัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณด้วย ปรากฏ เป็นหนังสือ พระประวัติและพระนิพนธ์ สมเด็จพระอริยวงษญาณฯ พระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) จัดพิมพ์โดยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐




ขอบคุณที่มา : หนังสือ "พระผู้สำรวมพร้อม" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดย ศรัณย์ ทองปาน