หัวข้อ: พื้นที่อีสานเมื่อเกือบ 150 ปีก่อน เมืองไหนสังกัด “มณฑลลาว” อะไรบ้าง.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 28, 2025, 11:25:10 am .
(https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/Cover-photo-UdonThani-696x364.jpg) กรมหลวงประจักษ์ฯ เคลื่อนกำลังจากหนองคายมาสร้างเมืองอุดรธานี ภาพสีน้ำมันฝีมือครูสุนทร พรรณรัตน์ จัดแสดงภายในห้องพระประวัติกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ณ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี (ภาพจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2555)8 พื้นที่อีสานเมื่อเกือบ 150 ปีก่อน เมืองไหนสังกัด “มณฑลลาว” อะไรบ้าง? กรมหลวงประจักษ์ เสด็จมาสร้างเมือง อุดรธานี เดิม คือ บ้านเดื่อหมากแข้ง เมืองอุดรธานี มณฑลลาว พื้นที่อีสาน กรมหลวงประจักษ์ฯ เคลื่อนกำลังจากหนองคายมาสร้างเมืองอุดรธานี ภาพสีน้ำมันฝีมือครูสุนทร พรรณรัตน์ จัดแสดงภายในห้องพระประวัติกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ณ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี (ภาพจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2555) ก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของสยามนับว่าห่างไกลจากศูนย์กลางพระราชอำนาจอย่างยิ่ง จะมีข้าราชการจากส่วนกลางไปปฎิบัติงานก็เป็นครั้วคราวเท่านั้น เช่น ทำศึกสงคราม ระงับข้อพิพาทระหว่างเมือง เร่งรัดส่วยจากกลุ่มอำนาจท้องถิ่น กระทั่งในยุครัชกาลที่ 5 ตั้งแต่กลางทศวรรษ 2420 เป็นต้นมา มีการส่งเจ้านายและข้าราชการจากกรุงเทพฯ ไปประจำการโดยตรง เพื่อวางรากฐานอำนาจการปกครองของรัฐบาลให้เข้มแข็ง ลดการพึ่งพากลุ่มอำนาจท้องถิ่น มีการปรับรูปแบบการปกครอง แล้วมณฑลลาว พื้นที่อีสาน แต่ละมณฑลมีเมืองอะไรบ้าง.? (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2017/12/แคน2.jpg) แคนวงใหญ่ของทหารเมืองอุบลราชธานี สมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจากหนังสือ ร้องรำทำเพลง : ดนตรีและนาฏศิลป์ชาวสยาม) ทั้งนี้ แคนถือเป็นเครื่องดนตรีร่วมระหว่างไทยกับลาว ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน “เสียงแคนของลาว” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หัวเมืองลาวทั้งสี่ ก่อนจะเป็นมณฑลลาว พื้นที่อีสานมีการปกครองในรูปแบบ “หัวเมืองลาว” ซึ่ง ประวิทย์ สายสงวนวงศ์ เล่าไว้ในผลงาน เปลี่ยนอีสานให้เป็น “ไทย”: อุดมการณ์รัฐชาติกับสำนึกการเมืองของคนที่ราบสูง (สำนักพิมพ์มติชน) ว่า รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ใน พ.ศ. 2425 สยามส่ง พระยามหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น ศรีเพ็ญ) และข้าราชการจากกรุงเทพฯ ไปกำกับราชการที่ เมืองจำปาศักดิ์ ในฐานะข้าหลวงใหญ่ และในปีเดียวกัน หลวงภักดีณรงค์ (ทัด ไกรฤกษ์) ปลัดบัญชีกระทรวงมหาดไทย ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นข้าหลวงปฏิบัติการที่ เมืองอุบลราชธานี ที่เป็น 2 เมืองนี้ เพราะล้วนเป็นศูนย์กลางที่ทรงอิทธิพลมากสุดของอำนาจท้องถิ่นบริเวณฝั่งขวาแม่น้ำโขงทั้งสิ้น (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2019/07/ESAn-1024x602.jpg) ชาวอีสาน ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2449 สมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ) ต่อมาใน พ.ศ. 2433 หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกและบริเวณเขมรป่าดงถูกจัดระเบียบเข้าด้วยกัน และแบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 4 กองใหญ่ มีข้าราชการจากสยามเป็นผู้ปกครองสูงสุดในพื้นที่ ได้แก่ 1. หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออก มีพระพิศนุเทพ (ช่วง) เป็นข้าหลวง ตั้งกองว่าราชการอยู่เมืองจำปาศักดิ์ 2. หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ มีพระยาราชเสนา (ทัด ไกรฤกษ์) เป็นข้าหลวง ตั้งกองว่าราชการอยู่เมืองอุบลราชธานี 3. หัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ มีพระอนุชิตบริหาร (จันทร์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา) เป็นข้าหลวง ตั้งกองว่าราชการอยู่เมืองหนองคาย 4. หัวเมืองลาวฝ่ายกลาง มีพระพิเรนทรเทพ (ทองคำ สีหอุไร) เป็นข้าหลวง ตั้งองว่าราชการอยู่เมืองนครราชสีมา พื้นที่รับผิดชอบทั้ง 4 กอง อยู่ในการกำกับดูแลของพระยามหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น ศรีเพ็ญ) ข้าหลวงใหญ่ซึ่งปฏิบัติราชการอยู่จำปาศักดิ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2425 @@@@@@@ มณฑลลาว พื้นที่อีสาน กับการมาถึงของเจ้านาย 3 พระองค์ ใน พ.ศ. 2434 การดูแลกำกับพื้นที่อีสานทวีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงส่งเจ้านายชั้นสูง 3 พระองค์ไปปฏิบัติราชการในฐานะข้าหลวงต่างพระองค์ นับเป็นเจ้านายชั้นสูงกลุ่มแรกๆ ที่เสด็จไปประจำการในอีสาน ประวิทย์เล่าอีกว่า ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่การปกครองอีกครั้ง คราวนี้แบ่งเขตการปกครองเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2025/03/พระเจ้าบรมวงศ์เธอ_กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์-192x300.jpg) พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ (ภาพ : Wikimedia Commons) 1. มณฑลลาวกลาง (หัวเมืองลาวกลางเดิม) ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนครราชสีมา ประกอบด้วย 3 เมืองใหญ่ คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ และ บุรีรัมย์ มี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ ดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ระหว่าง พ.ศ. 2434-2436 ภายหลังเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น มณฑลนครราชสีมา ในช่วงต้นทศวรรษ 2440 (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2024/11/Cover-photo-UdonThani-696x364.jpg) กรมหลวงประจักษ์ฯ เคลื่อนกำลังจากหนองคายมาสร้างเมืองอุดรธานี ภาพสีน้ำมันฝีมือครูสุนทร พรรณรัตน์ จัดแสดงภายในห้องพระประวัติกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ณ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี (ภาพจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2555)8 2. มณฑลลาวพวน (หัวเมืองลาวพวนเดิม) ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองหนองคาย ภายหลังย้ายกองบัญชาการไปยังบ้านหมากแข้ง และยกฐานะขึ้นเป็นเมืองอุดรธานี ประกอบไปด้วยเมืองส่วนหนึ่งทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง (ภายหลังเป็นเขตปกครองของฝรั่งเศส หลังวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112) และเมืองในพื้นที่อีสานอีก 6 เมือง คือ อุดรธานี ขอนแก่น นครพนม สกลนคร เลย และ หนองคาย มี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม เป็นข้าหลวงต่างพระองค์ ระหว่าง พ.ศ. 2434-2442 ภายหลังเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น มณฑลอุดร ช่วงต้นทศวรรษ 2440 (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2025/03/Prince_Phichit_Prichakon-216x300.jpg) พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร (ภาพ : Wikimedia Commons) 3. มณฑลลาวกาว (หัวเมืองลาวกาวเดิม) ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอุบลราชธานี ประกอบไปด้วยเมืองใหญ่ 7 เมือง คือ อุบลราชธานี จำปาศักดิ์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และ กาฬสินธุ์ มี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ระหว่าง พ.ศ. 2434-2436 และ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสิทธิประสงค์ ระหว่าง พ.ศ. 2436-2453 ภายหลังเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น มณฑลอีสาน @@@@@@@ ใน พ.ศ. 2455 มีประกาศแยกการปกครองออกมาเป็น 2 มณฑล คือ มณฑลอุบล และ มณฑลร้อยเอ็ด มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองร้อยเอ็ด ต่อมา พ.ศ. 2456 โปรดเกล้าฯ ให้ราชการเปลี่ยนชื่อหน่วยการปกครองจากคำว่า “เมือง” เป็น “จังหวัด” การเปลี่ยนพื้นที่เป็นมณฑลลาว พื้นที่อีสาน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอำนาจเดิมผู้มากบารมีในพื้นที่เท่านั้น เพราะต่อมาเมื่อมีการวางรากฐานระบบมณฑลเทศาภิบาล ชาวบ้านโดยทั่วไปก็ต้องปรับตัวเช่นกัน อ่านเพิ่มเติม :- • 18 มณฑล ประเทศสยาม เมื่อก่อนแต่ละจังหวัดอยู่ในมลฑลไหน? (https://www.silpa-mag.com/history/article_147602) • “สุดบรรทัด-เจนจบทิศ” สู่ “ถนนมิตรภาพ” ช่วยย่นเวลาเดินทางกทม.-โคราชจาก 10 เหลือ 3 ชม (https://www.silpa-mag.com/history/article_25179). • รู้ไหมว่า “มหาสารคามเคยมีสนามบิน”…แล้วทำไมถึงเปลี่ยนไป? (https://www.silpa-mag.com/history/article_7628) ขอขอบคุณ :- ผู้เขียน : สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2568 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 24 มีนาคม 2568 website : https://www.silpa-mag.com/history/article_150198 (https://www.silpa-mag.com/history/article_150198) อ้างอิง : ประวิทย์ สายสงวนวงศ์. เปลี่ยนอีสานให้เป็น “ไทย”: อุดมการณ์รัฐชาติกับสำนึกการเมืองของคนที่ราบสูง. กรุงเทพฯ: มติชน, 2568. สั่งซื้อหนังสือได้ที่นี่ |