หัวข้อ: วันอัฏฐมีบูชา ความศรัทธาก่อนการสูญสิ้นใน “ปฐมสมโพธิกถา” เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 20, 2025, 07:25:19 am .
(https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2025/05/Cover-14-696x364.jpg) พระพุทธเจ้า ประทับสีหไสยา เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน วันอัฏฐมีบูชา ความศรัทธาก่อนการสูญสิ้นใน “ปฐมสมโพธิกถา” วันอัฏฐมีบูชา เป็นหนึ่งในวันที่ปรากฏเหตุการณ์สำคัญในพุทธศาสนา เนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงแด่พุทธสรีระพระพุทธเจ้า หลังเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานได้ 8 วัน ซึ่งตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 (เดือนวิสาขะ) หรือวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 ในปีอธิกมาส ซึ่งวันอัฏฐมีบูชา พ.ศ. 2568 ตรงกับวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม ความสำคัญของ “วันอัฏฐมีบูชา” นอกจากจะเป็นวันที่แสดงความระลึกถึงองค์พระศาสดา อีกแง่หนึ่งก็ยังเป็นการสร้างความตระหนักให้แก่บุคคลที่ยังคงมีชีวิตอยู่ให้ดำรงชีวิตโดยตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ดังปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์ที่ได้ตรัสไว้ก่อนเสด็จปรินิพพาน เนื่องด้วยทุกสรรพสิ่งนั้นมิมีความเที่ยงแท้ สามารถกำเนิดขึ้น ดำรงอยู่และสูญสลายไปได้โดยตลอด เฉกเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าที่พระพุทธสรีระของพระองค์ก็มีวันเสื่อมสูญ แม้จะหลงเหลือพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้ แต่กระนั้นพระบรมสารีริกธาตุเหล่านั้นก็ย่อมมีวันที่จะสูญไปได้เช่นกัน ดังที่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในเหตุการณ์การอันตรธานของพระบรมสารีริกธาตุ ในวรรณคดีเรื่อง ปฐมสมโพธิกถา ปริเฉทที่ 29 ปฐมสมโพธิกถา เป็นพระนิพนธ์ของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ ที่ทรงแปล ชำระจากต้นฉบับภาษาบาลี ซึ่งต้นฉบับนี้มิได้มีการระบุให้ทราบว่าใครเป็นผู้แต่ง หรือแจ้งว่าแต่งตั้งแต่เมื่อใด ทราบเพียงแค่มีต้นฉบับอยู่เพียง 2 ฉบับ มีเนื้อหาอยู่ 22 ตอน @@@@@@@ เมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงนำมาชำระใหม่ ได้มีการตัดบางเรื่องออกและเขียนเพิ่มเสริมลงไป จึงทำให้ปฐมสมโพธิกถานี้ มีทั้งสิ้น 29 ตอน หรือ 29 ปริเฉท เหตุที่ ปฐมสมโพธิกถา ซึ่งถือได้ว่าเป็นคัมภีร์ที่ให้ความรู้ในเรื่องของพระพุทธเจ้าและพุทธศาสนา ได้รับการยกย่องเป็น “วรรณคดีในประเภทพระพุทธศาสนา” เนื่องด้วยภาษาที่ใช้ในพระนิพนธ์นั้น เป็นภาษาที่ได้มีการขัดเกลา เลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดี ทำให้เกิดความไพเราะจับใจแก่ผู้อ่าน ทั้งยังเป็นประโยชน์ในแง่ของการให้ความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปฐมสมโพธิกถา เป็นหนึ่งในวรรณคดีที่มีคุณค่ามากเรื่องหนึ่ง ในจำนวน 29 ตอน หรือ 29 ปริเฉทนั้น จะมีอยู่ปริเฉทหนึ่งที่กล่าวถึงการเสื่อมสูญ 5 ประการ อันประกอบไปด้วย ความเสื่อมสูญแห่งปริยัติ 1 ความเสื่อมสูญแห่งปฏิบัติ 1 ความเสื่อมสูญแห่งปฏิเวธ 1 ความเสื่อมสูญแห่งเครื่องหมายภิกษุสงฆ์ 1 และ ความเสื่อมสูญแห่งพระบรมสารีริกธาตุ 1 เรื่องที่ปรากฏใน ปริเฉทที่ 29 อันตรธานปริวรรต อันเป็นปริเฉทสุดท้ายนั้น จะกล่าวถึงการเสื่อมสูญ 5 ประการ ซึ่งเกิดขึ้นในภายหลังการถวายพระเพลิงพุทธสรีระของพระพุทธเจ้าได้เป็นระยะเวลานานแล้ว โดยจะมีการเกิดขึ้นอย่างเป็นลำดับขั้น ใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากจึงจะถึงยังขั้นสุดท้ายที่เป็นการอัตรธานหมดสิ้นซึ่งทุกสิ่ง (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2018/06/02.jpg) “โทณพราหมณ์จัดแบ่งพระบรมธาตุ” จิตรกรรมฝาผนังวัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ ภายหลังจากถวายพระเพลิงพุทธสรีระของพระพุทธเจ้าแล้ว “โทณพราหมณ์” ก็ได้จัดแบ่งพระบรมธาตุออกเป็น 8 ส่วนเท่าๆกัน มอบให้แด่กษัตริย์ เจ้าผู้ครองนครต่างๆที่ได้มาอัญเชิญไปบูชา แต่ก็มีบางส่วนที่ไปอยู่ภายในเมืองเทวดา พรหม และนาคด้วยเช่นกัน ทว่าต่อมา “พระมหากัสสปเถระ” เกรงว่าพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ยังนครต่างๆ ในอนาคตอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ จึงปรึกษากับ “พระเจ้าอชาตศัตรู” อัญเชิญพระธาตุจากเมืองต่างๆ มารวมกันด้วยฤทธิ์ แล้วนำไปประดิษฐานยังเจดีย์ที่พระเจ้าอชาตศัตรูสร้าง กระทั่งพระศาสนาได้ล่วงไป 218 ปี ถึงรัชสมัยของ “พระเจ้าธรรมาโศกราช” หรือ “พระเจ้าอโศก” พระองค์นั้นทรงมีศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงสร้างพระเจดีย์ไว้ทั่วชมพูทวีปและทรงต้องการที่จะได้พระบรมธาตุมาประดิษฐาน จึงได้ออกค้นหาอยู่นานจนพบในที่สุด และได้ทรงจัดสมโภชพระบรมธาตุตามที่ตั้งพระทัยไว้ พระบรมสารีริกธาตุจึงยังคงดำรงอยู่ควบคู่ไปกับความศรัทธาที่มีมาอย่างยาวนานผ่านหลายยุคหลายสมัย @@@@@@@ ด้วยระยะเวลาที่ผันผ่านมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ในที่สุดก็บังเกิดความเสื่อมสูญขึ้น ทั้งความศรัทธา ความเชื่อต่างๆ ที่ไหลผ่านกาลเวลาจนถึงจุดที่เสื่อมสลายลง การเสื่อมสลายนั้นล้วนเป็นไปตามลำดับขั้นอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงขั้นท้ายสุดที่มนุษย์นั้นไร้ซึ่งความศรัทธาในพุทธศาสนาแล้ว พระบรมสารีริกธาตุก็จะมารวมกันและเผาไหม้อัตรธานไปในที่สุด การเสื่อมสูญที่ปรากฏนี้ จึงเป็นการสะท้อนถึงหลักธรรม “ความไม่ประมาท” “ความไม่เที่ยงแท้” ได้เป็นอย่างดีว่าสรรพสิ่งในโลกนั้นล้วนแต่ไม่จีรัง ล้วนมีความเสื่อม จนกระทั่งอันตรธานไปในที่สุด แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ยังต้องเผชิญกับความเสื่อมสูญนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเป็นการเสื่อมสูญทางสังขารก็ดี หรือกระทั่งความเสื่อมสลายของศรัทธา ความเชื่อในพระธรรม คำสั่งสอนก็ดี ทุกสิ่งนี้ล้วนเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์คือ มีการเกิดขึ้น การคงอยู่ และการสูญไป แม้ในช่วงของการเกิดขึ้นและคงอยู่นั้นจะมีความแตกต่างกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วปลายทางของทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนเหมือนกันคือ “ความเสื่อมสลายและอันตรธานหายไป” (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2017/06/1-51-964x1024.jpg) พระพุทธเจ้า ประทับสีหไสยา เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน อ่านเพิ่มเติม :- • “สนทนากับเทวดา” วัตรปฏิบัติประจำวันของ “พระพุทธเจ้า” หมายถึงกิจอะไร? (https://www.silpa-mag.com/culture/article_23482) • “สูกรมัททวะ” พระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้า คืออะไรแน่ ?!? (https://www.silpa-mag.com/culture/article_104651) • “พระพุทธเจ้า” ปรินิพพานที่ใด ใช่ตามที่มหาปรินิพพานสูตรว่าไว้จริงหรือ? (https://www.silpa-mag.com/history/article_128458) ขอขอบคุณ :- ผู้เขียน : พร่างพนานต์ ช่วงพิทักษ์ เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2568 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 6 มิถุนายน 2561 website : https://www.silpa-mag.com/culture/article_17624 (https://www.silpa-mag.com/culture/article_17624) |