หัวข้อ: ดื่มกาแฟ vs ไม่ดื่มกาแฟ ใครมีอายุยืนกว่ากัน.? งานวิจัยพบคำตอบที่น่าแปลกใจ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 05, 2025, 11:20:05 am .
(https://s.isanook.com/ns/0/ud/1967/9838710/new-thumbnail1200x720_v2-20.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp) ดื่มกาแฟ vs ไม่ดื่มกาแฟ ใครมีอายุยืนกว่ากัน.? งานวิจัยพบคำตอบที่น่าแปลกใจ ดื่มกาแฟ vs ไม่ดื่มกาแฟ ใครมีอายุยืนกว่ากัน? งานวิจัยจากต่างประเทศหลายชิ้น เผยคำตอบที่น่าแปลกใจ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ใส่น้ำตาลหรือไขมันอิ่มตัวมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ไลฟ์สไตล์ อาหาร และพันธุกรรม ก็ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอายุขัย • งานวิจัยปี 2022 ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมโรคหัวใจยุโรป ระบุว่าผู้ดื่มกาแฟมีความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากทุกสาเหตุ ต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึง 14–27% • งานวิจัยปี 2025 ในกลุ่มคนอเมริกันกว่า 40,000 คน พบว่าผู้ดื่มกาแฟตอนเช้ามีความเสี่ยงเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ ต่ำกว่า 16% และความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจ ต่ำกว่า 31% แต่ในผู้ที่ดื่มกาแฟตลอดทั้งวัน ไม่พบประโยชน์ชัดเจน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการรบกวนนาฬิกาชีวภาพและการนอนหลับ (https://s.isanook.com/ns/0/ud/1967/9838710/istock-1303583671.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg) สารสำคัญและคุณประโยชน์ของกาแฟ กาแฟอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กรดคลอโรเจนิก เมลาโนอิดิน วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 แมงกานีส โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยลดการอักเสบและความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งตับ รวมถึงช่วยปรับอารมณ์และลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี • งานวิจัยในวารสาร European Journal of Preventive Cardiology ระบุว่า ดื่มกาแฟวันละ 2–3 แก้ว ลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ถึง 20% • งานวิจัยล่าสุดใน เกาหลีใต้ (กรกฎาคม 2025) พบว่ากาแฟไม่ใส่น้ำตาล ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 20–30% ยังมีความเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงโรคพาร์กินสันและอัลไซเมอร์ (https://s.isanook.com/ns/0/ud/1967/9838710/istock-2190516245.jpg?ip/resize/w728/q80/jpg) ใครไม่ควรดื่มกาแฟ? ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการดื่มกาแฟ ผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน มีความดันโลหิตสูง ภาวะวิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือมีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดผลข้างเคียง ทางเลือกสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ ผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟยังสามารถรับสารต้านอนุมูลอิสระจาก ชาเขียว ผลไม้ และผัก เช่น บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ผักโขม บรอกโคลี และดาร์กช็อกโกแลต ปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยยืดอายุ • นอนหลับคุณภาพ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน • หลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากหน้าจอก่อนนอน • ออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ • จัดการความเครียดและรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี • ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอเพื่อเฝ้าระวังโรคเรื้อรัง โดยรวมแล้ว กาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุได้ หากดื่มอย่างเหมาะสมและไม่เติมสารปรุงแต่งมากเกินไป แต่ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์และสุขภาพโดยรวมก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กัน ขอขอบคุณ :- ข้อมูล : sciencedaily.com,realsimple.com,dailycoffeenews.com,news-medical.net website : https://www.sanook.com/news/9838710/ (https://www.sanook.com/news/9838710/) S! News : สนับสนุนเนื้อหา | 03 ก.ย. 68 (13:33 น.) |