สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 12, 2025, 09:00:21 am



หัวข้อ: รู้แบบ "วิญญูชน" | รู้อะไรก็ไม่วิเศษ เท่ากับรู้แล้วทำกิเลสให้สิ้นไปได้จริง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 12, 2025, 09:00:21 am
.
(https://dhamtara.com/wp-content/uploads/2021/04/1-750_pages-to-jpg-0698-1024x441.jpg)


รู้แบบ "วิญญูชน" | รู้อะไรก็ไม่วิเศษ เท่ากับรู้แล้วทำกิเลสให้สิ้นไปได้จริง
วิญญูชน (บาลีวันละคำ 1,696)



วิญญูชน อ่านว่า วิน-ยู-ชน ประกอบด้วย วิญญู + ชน

(๑) “วิญญู”

บาลีเขียน “วิญฺญู” (มีจุดใต้ ญ) อ่านว่า วิน-ยู รากศัพท์มาจาก วิ (คำอุปสรรค = วิเศษ, พิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + ญา (ธาตุ = รู้) + รู ปัจจัย, ซ้อน ญฺ ระหว่างอุปสรรคและธาตุ (วิ + ญฺ + ญา), ลบ ร ที่ รู (รู > อู) และ “ลบสระหน้า” คือ อา ที่ ญา (ญา > ญ) : วิ + ญฺ + ญา = วิญฺญา > วิญฺญ + รู > อู : วิญฺญ + อู = วิญฺญู แปลตามศัพท์ว่า “ผู้รู้สิ่งวิเศษเป็นปกติ” หมายถึง ผู้รู้, ผู้คงแก่เรียน, ผู้ฉลาด (intelligent, learned, wise)

บาลี “วิญฺญู” สันสกฤตเป็น “วิชฺญู”

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า

“วิชฺญู : (คำคุณศัพท์) ฉลาด, คงแก่เรียน; wise, learned.”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า

“วิญญู : (คำนาม) ผู้รู้แจ้ง, นักปราชญ์. (ป.; ส. วิชฺญู).”

@@@@@@@

(๒) “ชน”

บาลีอ่านว่า ชะ-นะ รากศัพท์มาจาก ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + อ ปัจจัย : ชนฺ + อ = ชน แปลตามศัพท์ว่า

(1) “ผู้ยังกุศลหรืออกุศลให้เกิดได้” เป็นคำแปลที่ตรงตามสัจธรรม เพราะธรรมดาของคน ดีก็ทำได้ ชั่วก็ทำได้

(2) “ผู้ยังตัวตนให้เกิดตามกรรม” หมายความว่า นอกจากทำกรรมได้แล้ว ยังทำ “ตัวตน” (คน) ให้เกิดได้อีก

“ชน” หมายถึง บุคคล, สัตว์, คน (an individual, a creature, person, man)

(https://dhamtara.com/wp-content/uploads/2021/04/1-750_pages-to-jpg-0698-1024x441.jpg)


วิญญู + ชน = วิญญูชน

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า

“วิญญูชน : (คำที่ใช้ในกฎหมาย) (คำนาม) บุคคลผู้รู้ผิดรู้ชอบตามปรกติ.”

@@@@@@@

อภิปราย

คำว่า “สิ่งวิเศษ” ในคำแปลตามศัพท์ข้างต้น ไม่ได้หมายถึงของวิเศษหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่หมายถึง ความรู้อย่างพิเศษ อันมีลักษณะ คือ

    1. รู้แล้วทำให้เป็นคนพิเศษต่างจากคนที่ไม่รู้
    2. รู้อย่างแจ้งกระจ่าง ต่างจากคลุมเครือหรือมืดมิดมัวมน
    3. รู้จักแยกแยะถูก-ผิด ดี-ชั่ว ควร-ไม่ควร ได้อย่างเด็ดขาด

และความรู้อย่างพิเศษดังว่านี้เป็นความรู้คงที่คงตัวตามปกติ คือรู้ตลอดไป ไม่กลับเป็นไม่รู้ หรือบางเวลารู้ บางเวลาไม่รู้ หรือรู้บ้างไม่รู้บ้าง

มีคำที่พูดกันว่า “เรื่องเช่นนี้วิญญูชนควรรู้” หมายความว่า การกระทำใดๆ ก็ตามที่คนปกติทั้งหลายควรจะต้องรู้ว่าถูกผิด ดีชั่ว ควรไม่ควรประการใด เช่นการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย เป็นต้น

คนปกติจะอ้างว่า ตนไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด เป็นสิ่งไม่ดี ดังนี้ ย่อมฟังไม่ขึ้น เพราะ “เรื่องเช่นนี้วิญญูชนควรรู้”

@@@@@@@

ดูก่อนภราดา.! รู้อะไรก็ไม่วิเศษ เท่ากับรู้แล้วทำกิเลสให้สิ้นไปได้จริง


                               25-1-60






Thank to : https://dhamtara.com/?p=6510
25 มกราคม 2017 | tppattaya2343@gmail.com