สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 26, 2025, 09:50:37 am



หัวข้อ: "ธรรมะไร้กรอบศาสนา" สำรวจแนวคิดพุทธแบบใหม่ ใช้เทคโนโลยีของใจ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 26, 2025, 09:50:37 am
.
(https://image.posttoday.com/uploads/images/md/2025/07/Z5OmpUrPyMBuUfFlpYt5.webp?x-image-process=style/lg-webp)


"ธรรมะไร้กรอบศาสนา" สำรวจแนวคิดพุทธแบบใหม่ ใช้เทคโนโลยีของใจ



KEY POINTS

   • อะไรคือกระแส "พุทธแบบไม่มีศาสนา" ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ทั้งในโลกตะวันตกและโลกตะวันออก
   • บางคนมองว่า “พุทธ” เป็นวิถีชีวิต ไม่ใช่ศาสนา และเป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าใจความจริงของชีวิต ไม่ใช่เรื่องของการบูชา
   • Secular Buddhism เกิดขึ้นภายใต้ความพยายาม “ลอกเปลือกพิธีกรรม ความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ และอำนาจของศาสนจักร” ออกไป เพื่อรักษา “แก่น” ที่ยังมีความหมายในยุคแห่งวิทยาศาสตร์และเหตุผล



 :25: :25: :25:

“ธรรมะไม่ใช่ศาสนา... แต่เป็นจริยธรรมเชิงปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนความจริงของชีวิต”

บางคนมองว่า เวลานี้คือวิกฤตของศาสนาพุทธ แต่หัวขบวนทางปัญญา มองว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้เรามองศาสนาในมุมใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่การประกอบพิธีกรรมแต่คุณธรรมที่แท้กลับถูกละเลย เพราะตราบใดที่เราเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในยูนิฟอร์มใด “บททดสอบความดี” มีอยู่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่เสมอ ทุกวินาทีที่มีชีวิต และพร้อมจะดับมนุษย์ผู้นั้นได้ทุกเมื่อ เพราะยูนิฟอร์มหาใช่เกราะหรือโล่ห์กำบังกาย หากคือการบอกสถานะทางสังคม ไม่ต่างจากมนุษย์คนอื่น

เรามาดูกันว่า ในเมื่อศาสนาเจอการท้าทายอยู่ตลอดเวลา มนุษย์ที่ฉลาดขึ้นทุกวันกำลังแสวงหาอะไร ในเมื่อ "ความทุกข์" ก็ยังอยู่ที่เดิมในเรื่องเดิมๆ มาอย่างยาวนานตราบเท่าที่ยังมีเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่บนโลก

อะไรคือกระแส "พุทธแบบไม่มีศาสนา" ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ทั้งในโลกตะวันตกและโลกตะวันออก โพสต์ทูเดย์ชวนมาหาคำตอบกัน

@@@@@@@

เพราะบางคนมองว่า “พุทธ” เป็นวิถีชีวิต ไม่ใช่ศาสนา และเป็นเครื่องมือสำหรับการเข้าใจความจริงของชีวิต ไม่ใช่เรื่องของการบูชา...

พวกเขาปฏิเสธความเชื่อทางไสยศาสตร์ เช่น การกราบไหว้เทพ เจ้าที่ การทำบุญสะเดาะเคราะห์ หรืออิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ แต่กลับมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติแบบจับต้องได้ เช่น การฝึกสติ (Mindfulness) สมาธิ และการรู้จักตนเอง

ยิ่งกว่านั้นยังเปิดกว้างทั้งในทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยา เห็นว่าธรรมะสามารถกลมกลืนกับการค้นคว้าทางสมอง จิตใจ และพฤติกรรม สามารถนำมาปรับใช้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา ผู้ไม่ได้นับถือพุทธก็สามารถฝึกและใช้หลักธรรมะในชีวิตได้

    "แท้แล้ว “พุทธแบบไม่มีศาสนา” หรือ Secular Buddhism คือการเคลื่อนไหวเพื่อรักษาแก่นพุทธ (สติ ปัญญา การดับทุกข์) โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบศาสนา พิธีกรรม หรือความเชื่อเหนือธรรมชาติ"

แนวทางนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่เป็น “สะพานเชื่อม” ที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่ และคนในโลกตะวันตกสามารถเข้าถึงพุทธธรรมในแบบที่เรียบง่าย ลึกซึ้ง และไม่ขัดกับวิถีชีวิตสมัยใหม่

จุดเริ่มต้น

ในปี 1997 หนังสือเล่มหนึ่งได้เปลี่ยนวิธีที่ชาวตะวันตกมองพุทธศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง นั่นคือ Buddhism Without Beliefs โดย Stephen Batchelor อดีตพระชาวอังกฤษผู้เคยศึกษาพุทธศาสนาในอินเดีย ทิเบต และศรีลังกา ก่อนจะถอดจีวรและเขียนบทวิเคราะห์ที่กล้าหาญที่สุดในรอบศตวรรษ

เขาเสนอว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นศาสดาในความหมายแบบศาสนายุคหลัง แต่เป็นนักคิดและนักปฏิบัติที่ชี้ทางออกจาก “ความทุกข์” ผ่านการสังเกต การภาวนา และการเข้าใจความจริง

   “ธรรมะไม่ใช่ศาสนา... แต่เป็นจริยธรรมเชิงปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนความจริงของชีวิต”
    Stephen Batchelor กล่าวไว้เช่นนั้น


(https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/2zXMJkWA6Tr8145RU27P.webp?x-image-process=style/lg-webp)


การลอกเปลือกศาสนาออกจากพุทธ และ “การฝึกสติคือเทคโนโลยีของจิตใจ ไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนา”

Secular Buddhism จึงเกิดขึ้นภายใต้ความพยายาม “ลอกเปลือกพิธีกรรม ความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ และอำนาจของศาสนจักร” ออกไป เพื่อรักษา “แก่น” ที่ยังมีความหมายในยุคแห่งวิทยาศาสตร์และเหตุผล

พุทธแบบนี้ ไม่พูดถึงสวรรค์-นรก ชาติหน้า พรหมลิขิต หรือเทพเทวดา แต่มุ่งไปที่คำสอนที่จับต้องได้ เช่น การเจริญสติ (Mindfulness) การเฝ้าสังเกตอารมณ์และความคิด ความเข้าใจ “ไตรลักษณ์” (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) และการใช้ปัญญาในการเผชิญความทุกข์ในชีวิตประจำวัน

@@@@@@@

จากห้องสมาธิ… สู่ห้องประชุม

หลังจากแนวคิดนี้เริ่มเติบโตในกลุ่มนักปรัชญาและนักปฏิบัติในยุโรปและอเมริกา Secular Buddhism ได้แทรกซึมเข้าสู่วงการจิตวิทยา การแพทย์ และแม้กระทั่งธุรกิจระดับโลก

Jon Kabat-Zinn ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์จาก MIT พัฒนาโปรแกรม MBSR (Mindfulness-Based Stress Reduction) โดยดัดแปลงการเจริญสติแบบพุทธให้เหมาะกับผู้ป่วยโรคเครียดเรื้อรังและโรคซึมเศร้า ผลลัพธ์คือโรงพยาบาลในอเมริกานำไปใช้จริงอย่างแพร่หลาย

Sam Harris นักประสาทวิทยาและนักคิดอิสระ เปิดตัวแอป “Waking Up” ให้คนทั่วโลกฝึกสมาธิโดยไม่ต้องเชื่อเรื่อง “ศาสนา” เขากล่าวว่า “การฝึกสติคือเทคโนโลยีของจิตใจ ไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนา”

องค์กรระดับโลกอย่าง Google, Apple, Nike, Intel นำการฝึกสติแบบ “Secular” เข้าสู่การพัฒนาภาวะผู้นำ ลดความเครียดในองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

เหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนกระแสนี้ตัวอย่างชัดๆ คือโรงเรียนในอังกฤษ-อเมริกา บรรจุการฝึกสติลงในหลักสูตร นักเรียนฝึกสติแทนการลงโทษพฤติกรรม

แอปฝึกสมาธิอย่าง Calm, Headspace ติดอันดับยอดดาวน์โหลดทั่วโลก โดยใช้วิธีพูดถึง “การหายใจ” “ความรู้สึก” และ “การอยู่กับปัจจุบัน” โดยไม่ใช้คำศัพท์พุทธใด ๆ ที่เข้าใจยาก

พระอาจารย์ในไทย เช่น พระไพศาล วิสาโล, พระชยสาโร ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่เพราะสอน “ธรรมะ” โดยไม่เน้นพิธีกรรม

@@@@@@@

ความเปลี่ยนแปลงในโลกพุทธทั่วโลก

พุทธกำลังเปลี่ยนจาก “ศาสนา” เป็น “วิถีชีวิต” มนุษย์เริ่มศึกษาโลกตามความเป็นจริง โดยใช้ปัญญามากกว่าการท่องจำตามๆ กันมา ในขณะที่วัดและสถาบันศาสนาหลายแห่งสูญเสียศรัทธาจากพฤติกรรมสงฆ์ ที่ผู้คนทั่วไปมองว่าทำให้ศาสนาแปดเปื้อน

    "ความจริงคือ ศาสนาหรือพุทธ ยังอยู่ที่เดิม และบริสุทธิ์ดุจเดิม แต่มนุษย์ที่พ่ายแพ้ต่อกิเลสตัณหาในขณะที่กำลังเดินทางอยู่บนเส้นทางสู่ธรรมสูงสุดต่างหากที่แปดเปื้อนจนต้องอัปเปหิตัวเองออกมาจากโลกแห่งกฎระเบียบอันเคร่างครัด"

เขาเหล่านั้นกลับทำให้คนรุ่นใหม่ มี “สติ” ในเรื่องของศาสนามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากเริ่มไม่เข้าวัด ไม่สนพิธีกรรม ก็ยิ่งทำให้ คนในวัดเองก็ไม่สนในเรื่องของคุณธรรมเช่นกัน หากวัดกลายเป็น ธุรกิจในเรื่องของพุทธพาณิชย์เป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ทุกวัดแต่หลายวัด แสวงหาโอกาส ในกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังศรัทธาในทาง โชคลาภ ทรัพย์สิน มากกว่ามุ่งแสวงหาธรรมะที่แท้

การตีความใหม่ของ “ศรัทธา”

Secular Buddhism ไม่ได้ปฏิเสธ “ศรัทธา” แต่แปรความหมายศรัทธาใหม่เป็นการเปิดใจทดลองปฏิบัติ
    “ฉันยังไม่รู้ว่าจริงไหม แต่ฉันจะลองทำดู”

ต่างจากศรัทธาแบบเก่าที่ว่า
    “ฉันเชื่อ เพราะพระบอกมา หรือเพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์”


(https://image.posttoday.com/uploads/images/contents/w1024/2025/07/2zXMJkWA6Tr8145RU27P.webp?x-image-process=style/lg-webp)


ทำไม “พุทธแบบไม่มีศาสนา” ถึงเติบโต?

เพราะสังคมสมัยใหม่ต้องการทางออกทางใจ แต่ไม่ต้องการศาสนา ผู้คนเหนื่อยล้า เบื่อหน่ายจากพิธีกรรมที่ไร้ความหมาย โลกเชื่อในวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่ยังโหยหาความสงบ พุทธมีจุดแข็งตรง “การปฏิบัติ” ที่ไม่ต้องมีศรัทธาล่วงหน้า

“การถอดเปลือกศาสนาออกจากพุทธศาสนา อาจไม่ใช่การทำลาย แต่คือการคืนพุทธธรรมให้คนธรรมดา”

Secular Buddhism ไม่ใช่การปฏิเสธพุทธศาสนา แต่คือความพยายามแยก “สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน” ออกจาก “สิ่งที่สังคมเติมแต่งขึ้น” สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมากับเทคโนโลยีและเหตุผล แต่ยังต้องเผชิญความทุกข์ ความกลัว และความไม่แน่นอน นี่อาจเป็นพุทธที่เขาเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา

“ธรรมะจะไร้ค่า ถ้ามันอยู่แต่ในวัด และอยู่ไกลจากชีวิตจริง” นักศึกษานิรนามคนหนึ่งกล่าวหลังฝึก MBSR

สรุป คือ “พุทธแบบไม่มีศาสนา” เป็นการคืนแก่นพุทธสู่ชีวิต โดยไม่ต้องแบกเปลือกศาสนาเหมาะสำหรับคนที่ต้องการ ทางออกทางจิตใจ โดยไม่ต้องยึดติดพิธีกรรม เป็นประตูเปิดให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมะอย่างง่าย ไม่รู้สึกถูกบังคับ

และอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับทุกคน หากแต่ช่วย “ต่อชีวิตให้พุทธธรรม” ในโลกที่ศรัทธาแบบเดิมกำลังเสื่อมลง...

@@@@@@@

แล้วเหตุการณ์ของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบันทำให้ศาสนาเสื่อมหรือไม่?

หากมองว่า “ศาสนา = คำสอนของพระพุทธเจ้า”
คำตอบ คือ ศาสนาไม่เสื่อม คำสอน เช่น อริยสัจ 4 ไตรลักษณ์ มรรคมีองค์ 8 ฯลฯ ยังคงเป็นสัจธรรมที่ใช้ได้ในทุกยุค

แต่ปัญหา คือ คำสอนเหล่านี้ “ไม่ถูกปฏิบัติ” หรือ “ถูกบิดเบือน” โดยบางส่วนของสถาบันสงฆ์ในปัจจุบัน

และหากมองว่า “ศาสนา = ระบบองค์กรสงฆ์”
คำตอบ คือ ความเสื่อมปรากฏชัดเจน และกระทบศรัทธาในวงกว้าง

ตัวอย่างเหตุการณ์ในประเทศไทยที่สะท้อน “วิกฤตศรัทธา”

คดีเงินทอนวัด -ข้าราชการร่วมกับพระชั้นผู้ใหญ่ยักยอกงบประมาณพัฒนาวัด

พระใช้ชีวิตหรูหรา เช่น พระครอบครองรถหรู, ของแบรนด์เนม, พักโรงแรมห้าดาว

พุทธพาณิชย์ การปลุกเสกวัตถุมงคลเชิงพาณิชย์ ทำให้บางวัดกลายเป็นธุรกิจ

กรณีล่วงละเมิดทางเพศ พระสงฆ์บางรูปถูกจับในคดีล่วงละเมิดสตรีหรือเด็ก

การเมืองภายในสงฆ์ เช่น ความขัดแย้งเรื่องตำแหน่งเจ้าคณะ การจัดสรรตำแหน่ง

@@@@@@@

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

คนรุ่นใหม่ห่างวัด ไม่เชื่อคำเทศน์ที่ไม่เชื่อมโยงชีวิตจริง บางคนเลือกเลิกนับถือศาสนาหรือหันไป “ทางเลือกใหม่” เช่น พุทธโลกวิสัย (Secular Buddhism), สมาธิแบบไม่อิงศาสนา และเกิดวาทกรรม “พุทธเสื่อม” ในสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น

แต่เราควรมาทำความเข้าใจใหม่ว่า

“พระบางรูป” ไม่เท่ากับ “พระพุทธศาสนา” และ

“ความเสื่อมของพระสงฆ์บางรูป ไม่เท่ากับการเสื่อมของพระธรรม”

ผู้รู้ ผู้ทรงปัญญาที่แท้หลายท่าน เช่น พระไพศาล วิสาโล หรือพระชยสาโร ย้ำว่า
 
“ศาสนาเสื่อมเพราะคนไม่ปฏิบัติตาม ไม่ใช่เพราะคำสอนไม่ดี”





Thank to :  https://www.posttoday.com/smart-life/727427 (https://www.posttoday.com/smart-life/727427)
19 กรกฎาคม 2568 | ศิวดี อักษรนำ