สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เวลานั่ั่งภาวนาไปแล้ว เห็นแสงสว่างที่กลางกระหม่อม เป็นแสงสีขาว ติด ๆ ดับ ๆ ควรทำอย่างไรคะ

เป็นอาการที่เมื่อทำสมาธิแล้วมักจะไปจบหยุด อยู่นิ่งตรงนี้คะ
 :25:

พระอาจารย์เคยสอนไว้ว่า อย่าติดรู้ ให้ติดนิมิตทั้งสามไว้ เดี๋ยวจะทราบเองคร้า...

 :bedtime2:

เป็นได้หลายประการ ต้องพิจารณากันเฉพาะหน้า

 ประการที่ 1 โอภาส แสงสว่างเมื่อจิตเริ่มเข้าอัปปนาจิต เป็นธรรมดา ไม่พึงสนใจ หรือ ไปข้องเกี่ยว

สิ่งที่ต้องทำคือภาวนาต่อไป

 ประการที่ 2 รัศมี ของแต่ละฐานจิต

 ประการที่ 3 นิมิต


  อันนี้คงตอบรายละเอียดไม่ได้ ขอให้ถามมาใหม่ในข้อความส่วนตัวนะจ๊ะ

  ;)

นั่งภาวนาแล้วไม่เห็นอะไรเลยคะ เห็นแต่ลมหายใจเข้า และออกคะ
การที่เราภาวนาแล้วไม่เห็นอะไร แสดงว่าเราไม่มีบุญในการภาวนใช่หรือไม่คะ

 :c017:

เวลานั่งกรรมฐาน แล้วเห็นพระมากมาย ในสมาธิ อันนี้หมายถึงอะไรครับ

ผมถามเพื่อน ๆ บอกว่าผมเริ่มบ้าแล้วครับ ผมเองก็เกรงใจว่า ผมจะเป็นบ้าเหมือนกัน

ก็แปลกใจครับ

 :17:

อันนี้น่่าจะเป็นโอภาสแสงสว่างเมื่อจิตรวมลง แล้วครับจึงเห็นสภาวะแสงส่ว่าง ในที่ต่าง ๆ ตามร่างกายครับ

เมื่อจิตรวมศูนย์มีภาพปรากฏแล้ว ผมว่านับเป็นโอกาสในอัปนาจิตครับ ต้องระมัดระวัง อย่าให้ติดในโอภาสครับ

วางจิตในภาวนาไปเรื่อย ๆ ครับเดี๋ยวก็รวมลงเป็นสภาวะครับ

 :67:

อยากทำได้บ้างจัง เลย

ก็พยายามทำอยู่ แต่ทำไม่ได้สักที ทำไมเขาเห็นกันได้ง่าย ๆ จัง

ทำไมเราทำมาหลายปีแล้ว ไม่ไปไหนเลย ไม่เห็นอะไรเลย นอกจาก ไปหยุดแต่นิ่ง ๆ

 :021:

     ท่านพึงละความสนใจจากแสงนั้นก่อน ถึงทําไม่สน ยังไงมันก็ตามเรามา วางอารมณ์แค่รู้ว่ามันมี แสงนั้นมันไม่ได้อยู่ท่ีกลางกระหม่อม มันเกิดที่ดวงตา จะส่องไปทางใดมันก็ไปติดให้มีได้เป็นได้ ตามจิตเรา ถือว่าท่านมีพื้นฐาน อาโลกกสิน มาจากของเก่า
 
ท่านโดดไปเอาพระรัศมีเลย มันได้ไม่ละเอียด ไม่เนียน ไม่สุขจริง เพราะไม่หมดอาสวะ     
      สําหรับ เพื่อน กรรมฐานมัชชิมา ก็คงไม่ต้องกังวน ขอให้ตั้งใจเรียนตามลําดับไป ไปตามครูบาอาจารย์ กรรมฐาน มัชชิมา แบบลําดับ(เป็นของแท้)......เรื่องแสงต้องได้ทุกองค์ไม่ใช่มีแค่กลางกระหม่อม.....ส่วนเรื่องนิมิตหลอกต่างๆ....ก็ไม่ต้องไปสนของเทียม......ของแท้ต้องเห็นได้ทุกเวลา......เห็นแล้วหายกายจิตปรุงแต่งอย่าหลงพรํ่าเพ้อ โดนผี โดนเทวดา กักเอาไว้ดูหมอ...พวกนี้ไม่ได้มรรคผล เค้ากักเอาไว้เกิด....ไม่ให้ไป เสียเวลาเปล่า กลับเข้าที่กันได้แล้ว ตั้งใจ ตั้งใจ นับพุทโธกันต่อ.....ตรงนี้ของแท้...ฐานจิต อย่าให้หาย....อุเบกขา อย่าหาย....เพราะนี่คือของดี นี่คืองาน เครียดท้อ นึกถึงพระพุทธเจ้าขึ้นมา นึกหน้าพระอาจารย์ขึ้นมา ทําให้ได้ การปรุงแต่งอื่น มันจะ แน่นหนักกว่าพุทธานุสสติไปไม่ได้หลอก ดึงไว้ ดึงไว้ หลุดก็ดึงใหม่ ......พวกที่มีความเห็น ....นั้น...คือผู้ที่จับปัคคะหะไม่ได้(แล้วจึงมีวิตก วิจาร)......อีกพวก คือ พวกที่ยังเที่ยว สํานักนั้น บ้าง สํานักนี้บ้าง แล้วเอามาวิเคราะห์........สมาธิไม่ใช่วิชาวิทยาศาสตร์....พวกนี้ไม่ได้อะไร หลงอยู่ในลม ต้องกลับไปทําดิน(รูป)ให้แน่นก่อน......พวกหลังนี่ไม่ได้ทําจริง..หรือบางทีก็ทํา นั่งทําแต่ใจไมเชื่อ ยังไม่เคารพพระธรรม  มีกรรมเนื่องลงที่กาย และใจ พวกนี้ต้องขอขมาพระรัตนตรัย อย่างเดียวจึงจะทํากรรมฐาน ต่อไป ได้  แต่ไม่เป็นไร บัวยังมีตั้ง 4 เหล่า ศาสนาพุทธสอนอย่างเดียว ......สอนให้(ทํา)........ศิล สมาธิ ปัญญา.......ไดยินได้ฟังมาอย่างนี้แล.
       

ผมว่า การภาวนาเพื่อที่จะเห็นนั่น เห็นนี่ น่าจะทำให้เสียเวลานะครับ คือผู้ที่มีความต้องการอย่างนี้

ด้วยประสพการณ์ ที่ผ่านมาในกลุ่มเพื่อน ๆ แล้วไม่มีใครประสพความสำเร็จ เลยนะครับ

 :021:

ควรจะวางอารมณ์ให้ถูกในการภาวนานะครับ

 :19:

การภาวนา เป็นปัจจัตตัง นะคะ อารมณ์สภาวะน่าจะไม่เหมือนกัน คะ
บางท่านอาจจะไม่ต้องมีการเห็น ก็สำเร็จได้คะ

นิมิตยังไม่เหมือนกัน เลยคะ

 :hee20hee20hee:

ผมเองก็ไม่เคยมีประสพการณ์ในเรื่อง นิมิตอันเป็นภาพในจิต มีแต่ปีติในกายที่เกิดมองเห็นได้ง่ายมากกว่า

 :s_good:

ผมเองก็ไม่เคยมีประสพการณ์ในเรื่อง นิมิตอันเป็นภาพในจิต มีแต่ปีติในกายที่เกิดมองเห็นได้ง่ายมากกว่า

 :s_good:

ขอให้กําลังใจ ทุกท่าน ที่มาสู่เส้นทางนี้แล้ว ก็ยังดีกว่าเรื่องอื่น
    ผมก็ยังไม่ได้อะไรทั้งนั้น ทุกสิ่งต้องค่อยเป็น ค่อยไป เรื่องที่นํามา ก็มาจาก ที่ต่างๆ ฟังพระบ้าง ที่อื่นบ้าง จับต้นชนปลาย ก็ยังไม่ใช่ของจริง เพราะยังมีอุปทานมาก อย่าได้ยึดถืออะไรว่าไช่ หรือไม่ใช่อะไร ของแท้ควรฟังเอาจาก ผู้เป็นเนื้อนาบุญ
        แต่อย่างไรก็อย่าทิ้ง ฐานจิตที่1 คือฐานธาตุดิน ที่ใต้สะดือ 2 นิ้ว
  เพราะคือความมั่นคง คือทําให้มีวิตก วิตกทําให้แยกแยะองค์ปีติในขั้นอื่น ได้
  อย่าลืมแจ้งอารมณ์ต่อครูบาอาจารย์