หัวข้อ: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ เมษายน 05, 2011, 04:05:30 pm เพราะ
1.ความฟุ้งซ่านน้อย 2.เมื่อจิตเอาเพียงแค่งานที่ฝึก ก็เหมือนถือของที่หนักไว้น้อยกว่า 3.เพราะไม่รู้อะไรจิต จึงไม่มีสัญญาที่รู้ๆมารบกวน 4.แค่เชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็เพียงพอ 5.เข้าสู่สมาธิ ได้ไวโดยไม่รู้ตัว 6.ความรู้มากๆเป็นของหนัก 7.แค่จับงานในสมาธิ (งาน3อย่าง)ให้ถูกก็เพียงต่อการเข้าถึง 8.ปล่อยอุเบกขาเป็น 9.บริกรรมเป็น 10.วางจุด(ปัคคะหะ)เป็น 11.มีครูบาอาจารย์ที่เป็นกัลยาณมิตร หัวข้อ: Re: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: pongsatorn ที่ เมษายน 05, 2011, 07:21:17 pm จากหัวข้อ ก็น่าจะจริง นะครับเพราะ เข้าตำรา รู้มากชักอยากนาน
การภาวนาถ้ารู้น้อยจะดีหรือไม่ หนอ หรือว่ารู้มากแล้ว จะไปได้ช้าครับ.... :035: หัวข้อ: Re: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ เมษายน 06, 2011, 05:37:18 am อาจจะจริง ก็ได้คร้า... เพราะรู้มากแล้ว เพียงรู้เพื่อประดับความรู้ ไม่ใช่รู้เพื่อภาวนา นะคร้า..
กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เน้นการสอนแบบให้รู้ตามปฏิเวธ จึงเรียนเพิ่มเติม... รู้ พอ ละ ดับ ปล่อย วาง ทุกข์ เสียบ้างก็ดีคร้า.. :25: หัวข้อ: Re: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ เมษายน 06, 2011, 05:06:51 pm รู้น้อยก็อาจจะไม่สำเร็จ นะคะ เพราะรู้น้อยก็เลยโดนหลอกอีก สมัยนี้มีหลอกกันมากด้วยเรื่องการภาวนา
ตุ๊เจ้า ทางเหนือท่านมีหลายแบบ น่อ ตุ๊เจ้าตาบอด จูงตุ๊เจ้าตาดี (http://www.dhammadelivery.com/images/webboard/webboard-topic4589.jpg) ถ้าเราไม่รู้ ก็เหมือนคนตาบอดคลำช้าง หรือป่าวจ๊ะ หัวข้อ: Re: ผู้ที่ไม่รู้อะไร เรื่องภาวนา อาจไปได้ไวกว่าผู้ที่รู้ เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ เมษายน 06, 2011, 06:42:10 pm (http://www.srisuk.com/tourist/playfortune.jpg)
การปฏิบัติภาวนาแต่แรกเริ่มนั้น ผมศึกษาเรียนรู้เอาเองไม่มีครูเรียกว่าไม่รู้อะไรเลยมีเพียงหนังสือรายปักษ์เท่านั้น เป็นข้อมูลเริ่มต้น ในความไม่รู้นั้นก็สงสัยในลำดับอารมณ์ว่า นี่อะไร แต่ก็ใช่ว่าไม่ขวนขวายหาคำตอบ แม้ได้คำ ตอบก็ไม่เข้าใจในศัพท์สำนวน ผมมิได้ลดละหากแต่พยายามเก็บหาข้อมูลเรื่อยมากระทั่งเรียนจบมัธยม มาฟ้า แจ้งจางปางเอาเมื่อพบพระอาจารย์นี่แหละครับ มาวันนี้แม้พิสูจน์ประจักษ์หลายสิ่งหลายอย่างแล้ว แต่พอมา ภาวนาเอาเข้าจริงจิตกลับยึดอารมณ์ภาวนาเดิมๆ ทำให้ล่าช้า นี่ละครับกิเลสมันทันเราเสมอ ดังนั้นผมเองเท่ากับ ต้องนับหนึ่งใหม่อยู่ร่ำไป เพราะพ่ายแพ้กิเลสตัวเอง วิธีแก้ก็หยั่งกุศลอยู่เนืองๆ อย่าละอย่าขาดสู้อยู่กับอารมณ์ หยาบๆทุกวัน การจะก้าวไปสู่วิถีแห่งนักภาวนามันยากก็ต้องทน เพราะวิจยธรรมเห็นทุกข์อยู่ทุกขณะอารมณ์ที่จร เข้ามา วันนี้ผมเบื่อโลก เบื่อผู้คน เบื่อที่จะแสวงหา หัวใจไม่อยากทะยานสู่ความคาดหวังใดใด คงหนีไม่พ้นได้ ง่ายๆ แน่ มีเพียงสิ่งเดียวคือ ภาวนาให้มากเท่านั้นเป็นดีที่สุด.....สวัสดี http://www.kroobannok.com/blog/35168 |