หัวข้อ: แพทย์ห่วง“หลวงพ่อคูณ”ปอดติดเชื้อ-มีน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: Lux ที่ พฤษภาคม 06, 2011, 09:39:30 am แพทย์ระบุ"พ่อคูณ"น่าห่วงปอดติดเชื้อ-มีน้ำ ส่งทำกายภาพเพื่อขับเสมหะ ระบุไม่ได้ผลต้องเจาะปอดเอาน้ำออก
(http://www.dailynews.co.th/content/images/1105/04/w85.jpg) (http://www.dailynews.co.th/content/images/1105/05/o7.JPG) เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานอาการอาพาธ ของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดังเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่ลูกศิษย์นำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อเวลา 20.30น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า หลวงพ่อคูณตื่นจากจำวัด เวลา 07.30 น. ก่อนที่จะปฏิบัติกิจส่วนตัวและฉันอาหารที่ลูกศิษย์คนสนิทนำมาถวายประกอบด้วย น้ำพริก ผัดบวบใส่ไข่ แกงจืด ปลาทอด และหมูทอด ซึ่งหลวงพ่อคูณสามารถฉันท์มาก และยังฉันมะละกอสุกได้อีกตั้งหลายชิ้น จากนั้นเวลา 10.00 น. คณะแพทย์ที่ทำการรักษา ได้เข้าตรวจอาการพบว่าอาการโดยรวมดีขึ้นจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่มีไข้ แต่ยังไม่มีแรง และพบว่ายังมีเสมหะอยู่ จึงให้นอนพักภายในห้องและให้งดเยี่ยม พร้อมกับให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ และให้ฉันยาละลายเสมหะ พร้อมกับให้ยาพ่นขายหลอดละทุก 6 ชั่วโมง นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัว เปิดเผยว่า จากการตรวจโดยหมอผู้เชี่ยวชาญพบว่ามีภาวะปอดติดเชื้อและมีน้ำในปอดทั้งสองข้าง ซึ่งต้องต้องให้หมอเฉพาะทางดูแลในเรื่องดังกล่าว โดยการเข้ารักษาของหลวงพ่อคูณในทุกครั้งที่ผ่านมาเมื่ออาการดีขึ้นจนอนุญาตให้กลับวัดได้ ท่านก็จะกลับไปพักเพื่อฟื้นฟูร่างกายที่วัดโดยท่านก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นมาเอง แต่ในครั้งนี้หลังจากที่กลับวัดได้ไม่นานก็ต้องนำท่านมารักษาที่โรงพยาบาลอีกโดยสาเหตุเบื้องต้นอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากสภาพแวดล้อมที่วัด ที่ไม่เหมือนอยู่ที่โรงพยาบาล จึงทำให้เกิดการติดเชื้อจนต้องกลับมารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง “การกลับมาครั้งนี้น่าห่วง พบมีการติดเชื้อเพิ่มเติมในปอดจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องที่จะต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่กรุงเทพหรือไม่นั้น ขณะนี้ทางเราคิดว่าการให้ท่านรักษาต่อที่นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องส่งตัวต่อแต่อย่างใด ส่วนการรักษาในครั้งนี้คงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะให้พักรักษานานแค่ในจึงยังไม่มีกำหนดให้กลับ”นพ.พินิศจัย กล่าว ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการทำงานของปอด เปิดเผยว่า จากการตรวจพบว่ามีอาการปอดติดเชื้อและมีน้ำในปอดทั้ง 2 ข้าง โดยเป็นมากในปอดข้างซ้าย ซึ่งแนวทางรักษาในขณะนี้ก็ให้ฉันยาละลายเสมหะ และให้ยาพ่นขยายหลอดลม แต่การให้ยาก็ไม่ได้มีผลที่ดีที่สุด ซึ่งทางที่ดีที่สุดที่จะต้องทำควบคู่กันไปก็คือการทำกายภาพบำบัดเพื่อให้ท่านแข็งแรงจนสามารถไอ และขับเสมหะออกมาได้เอง ซึ่งหากไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ และพบว่ามีน้ำในปอดมากก็อาจจะต้องมีการเจาะปอดเพื่อเอาน้ำออกต่อไป ขอบคุณภาพและข่าว http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=136969 (http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=38&contentID=136969) หัวข้อ: Re: แพทย์ห่วง“หลวงพ่อคูณ”ปอดติดเชื้อ-มีน้ำ เริ่มหัวข้อโดย: VongoleX ที่ พฤษภาคม 09, 2011, 09:20:50 am หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ รักษาอาการอาพาธ อยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 8 พ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รอง ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา ยัน “หลวงพ่อคูณ” อาพาธเป็น “วัณโรค”ระบุ ไม่ร้ายแรง สามารถรักษาหายขาดได้ วันที่ 8 พ.ค. เมื่อเวลา 19 .00 น. พญ.สุวรรณี ตั้งวีระพรพงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 พ.ค. ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะแถลงอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อย่างเป็นทางการในเวลา 11.00 น. โดยภาพรวมอาการของหลวงพ่อคูณ ณ วันที่ 8 พ.ค. ดีขึ้น ฉันภัตตาหารได้ แขนขาที่เคยอ่อนแรงก็ดีขึ้นทรงตัวได้ ส่วนภาวะปอดติดเชื้อนั้นคณะแพทย์ที่ทำการรักษาได้วินิจฉัยโรคและสรุปว่า หลวงพ่อคูณอาพาธเป็นวัณโรค แต่อาการไม่ร้ายแรง ซึ่งเรียนว่า โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามียารักษาให้หายได้ พญ.สุวรรณี กล่าวว่า หลวงพ่อคูณคงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 3 - 4 สัปดาห์ หรือประมาณหนึ่งเดือน และต้องฉันยาติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้โรคหายขาด ซึ่งขณะที่ทำการรักษาแพทย์ต้องดูเรื่องอาการแทรกซ้อนด้วยเพราะหลวงพ่อคูณ มีอายุมากร่างกายอ่อนแอ สำหรับการติดเชื้อของหลวงพ่อนั้นยังระบุสาเหตุไม่ได้แต่โรคนี้ติดต่อทางเดิน หายใจ น้ำลายและเสมหะ ขณะที่หลวงพ่อเป็นคนของประชาชนมีศิษยานุศิษย์ทั้งผู้ที่ร่างกายแข็งแรงและ ผู้ที่เจ็บป่วยไปกราบท่านในวันหนึ่งๆ เป็นจำนวนมากประกอบกับท่านอายุมากถึง 88 ปี และเคยผ่านการผ่าตัดสมองและมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ทำให้ร่างกายอ่อนแอภูมิต้านทานโรคลดน้อยลงทำให้ท่านอาจติดเชื้อโรคต่างๆได้ ง่าย “แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้วางแผน ให้ยารักษาอาการอาพาธของท่านแล้วและหลวงพ่อก็แข็งแรงมากขึ้น”พญ.สุวรรณี กล่าว |