หัวข้อ: นางมณีเมขลาพา "พายุเอนเจลล่า" ไปเขาพระสุเมรุ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 09, 2011, 12:42:16 pm 'ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป' นั่นเป็นได้แค่ 'ข้ออ้าง' ? ก่อนที่จะกล่าวว่าภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นเป็นแค่เพียงข้ออ้าง ลองสังเกตแม้ตัวเราเองนั้นตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะทำอะไร เมื่อใด ยังมีบางครั้งที่ต้องเลื่อนออกไป มีสาเหตุจากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ถามว่าเหตุผลของเราอันนั้นเป็นข้ออ้างหรือไม่ ก่อนจะถามว่าภัยพิบัตินั้นเลื่อนได้หรือไม่ ต้องถามก่อนว่าใด ๆ ในโลกนี้เที่ยงหรือไม่ หากใด ๆ ในโลกล้วนไม่เที่ยง ก็ภัยพิบัตินั้นรวมอยู่ในใด ๆ แล้วเหตุใดภัยพิบัติจึงจะเที่ยง ไม่เที่ยง คือไม่แน่นอน มีความแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัย การเลื่อนภัยพิบัติคืออะไร กรณีที่ 1. การแก้ไขบรรเทาภัยพิบัติผ่อนหนักหนักให้เป็นเบา กรณีที่ 2. การเลื่อนภัยพิบัติโดยการแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น ภัยพิบัตินั้นย่อมมีปัจจัยทำให้เกิด ถ้ามองในทางอุตุนิยมวิทยา ก็จะมองเห็นปัจจัยอันหนึ่ง ก็ต้องแก้ด้วยความรู้แบบวิทยาศาสตร์ เช่น การทำฝนเทียมเป็นกำแพงกั้นพายุ แต่หากมองความรู้ทางจิตก็จะเห็นปัจจัยอีกอันหนึ่งก็ต้องแก้ด้วยการทำความดี สวดมนต์ การแผ่เมตตา ลองดูกรณีตัวอย่างของพายุนากรีส อาจทำให้เราเข้าใจเรื่องการเลื่อนภัยพิบัติและปัจจัยในการเกิดภัยพิบัติมากยิ่งขึ้น 1. กรณีพายุไซโคลนนากรีส พายุไซโคลน "นาร์กีส" ที่มีความเร็วลม 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซัดถล่มเมืองย่างกุ้งและบาสเซน แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี ของประเทศพม่า เมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 พฤษภาคม 2551จัดเป็นมหันตภัยครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะจู่โจมประเทศบังกลาเทศก่อน แต่ก็เปลี่ยนทิศทางลมมาที่ประเทศพม่าแทน สำหรับความรุนแรงของไซโคลนนาร์กีสพัดหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั่วเมือง ในขณะที่ทางภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศไทยก็เจอหางเลขอิทธิพลนาร์กีสเล็กน้อยซึ่งทำให้หลายจังหวัดเกิดฝนตกชุก มีน้ำท่วมขัง มีข้อมูลเล่าว่าช่วงเกิดพายุนาร์กีส 1 อาทิตย์ลูกค้าของเค้ามาคุยให้ฟังว่า ทหารองครักษ์กลับบ้านไม่ได้เลย เพราะในหลวงทรงขอให้ทุกคนที่ถวายงานพระองค์ท่านช่วยกันนุ่งขาวห่มขาวสวดมนต์ทั้งวันทั้งคืนอยู่กับท่าน เพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นภัยจากพายุใหญ่ที่จะเข้า ตอนนั้นคนรู้จักฟังยังนึกภาพไม่ออกว่าพายุจะหนักขนาดไหน พอผ่านไป 1 อาทิตย์มาดูข่าวจากทีวีก็ตกใจมาก จึงนึกขอบคุณในหลวงที่ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศอีกครั้ง นอกจากนี้ในหลวงยังรับสั่งให้ทำฝนเทียมสกัดพายุไว้ด้วย มีเรื่องเล่าว่า.... เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึก ทหารของค่ายนเรศวร วันแรกที่เข้าไปกะบรรยากาศครึ้มๆ ผมก็ว่า เอ... แปลกๆนะ ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝน แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ พอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว อาจารย์ เอกราช ท่านได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า "ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกับฝนเทียม รีบทำฝนเทียม เพื่อเป็นแนวกันลมพายุดีเปรสชั่น ซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่องนี้ก่อน ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม๊ ... ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศพม่าด้วยซ้ำ พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จ ด้วยความสำเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทำ ก็ก่อให้เกิดผล เมื่อเกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย และสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศพม่า จนทำให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศ ... แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก " พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซู่ กับ สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเรา อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?...#ixzz1LML0B1Gg (http://www.dek-d.com/board/view.php?...#ixzz1LML0B1Gg) ดังนั้นแม้ในปี 2551 ได้มีผู้ออกมาเตือนว่าจะมีภัยพิบัติ แต่เมื่อปัจจัยต่าง ๆ คลี่คลายตัว ภัยพิบัติจึงไม่เกิด แต่ในอีกมุมมองของบางท่าน ท่านถือว่าเป็นเพียงการเลื่อนออกไป เพราะปัจจัยที่จะทำให้เกิดภัยพิบัตินั้นยังมีอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านมองว่าภัยพิบัติเกิดจากอะไร ถ้ามองแบบวิทยาศาสตร์ก็ว่าภัยพิบัติเกิดจากภาวะโลกร้อน การทำลายธรรมชาติ หากมองแบบทางจิตก็ว่าภัยพิบัติเกิดจากศีลธรรมที่ตกต่ำ ไม่ว่ามองแบบใดก็ต้องถือว่าภัยพิบัติต่าง ๆ เพียงแค่เลื่อนออกไป เพราะปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยดังที่กล่าวมาแล้วยังคงมีอยู่ 2. กรณีพายุเอนเจลล่า ขอยกพระราชดำรัสของในหลวง ทุกวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เอาปี 38 มาให้อ่านเฉพาะตอนสำคัญ นางมณีเมขลา วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2538 พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล พายุเอนเจลล่า....แต่ เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้ำท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อน ตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้ และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเราที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมีสิ่งที่ช่วยเมื่อน้ำท่วมอยู่แล้วจวนจะแห้ง ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่งพยากรณ์อากาศมาให้ แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับพยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ เขาบอกว่า ถวาย แล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา ดูแล้ว ก็หนักใจอยู่เพราะว่าดูในแผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้ำม่ำ อ้วนเหมือนในการ์ตูน เอนแจลล่าไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือเปล่า เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกำลังมาเป็นอริกับเรา แล้วก็คุณสมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า ผ่านมาแล้ว มาในทะเลจีนใต้ ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอนบ่าย ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทำอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี 1 แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology) เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้วรู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผยให้ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา เพราะว่าเดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลยบอกไปตอนตี 1 ว่า ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก 2 วัน จะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะอยู่แถวๆ ไหหลำ ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่ำ ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูกพอสมควร แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง แต่ดูไม่รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ บินไปที่โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง ก็ได้บอกว่าให้นางมณีเมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม และเข้ามาในเมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่ สำนักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสำนักงานมณีเมขลานี้ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึกสำนักงานนี้เป็นอะไรแน่ เป็นสำนักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้ มีสำนักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสำนักงานมณีเมขลา แต่ที่จริงสำนักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. ท่านคงยังไม่เคยทราบว่าสำนักงาน ฝล. นี้คืออะไร สำนักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสำนักงาน ฝล. ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็คงไม่เห็น แต่อีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก สำนักงาน ฝล. นี้ สำนักงานมณีเมขลาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสำคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกในโอกาส 50 ปีกาญจนาภิเษก เป็นหนังสือที่กำลังทำ หวังว่าจะทำเสร็จทันสำหรับฉลอง คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทางราชการลับ หนังสือติโต เป็นหนังสือทเกี่ยวข้องกับสงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้ แต่หนังสือใหม่นี้ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่า ควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จำเป็น เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่เชิงแต่ว่าเป็นตัวสำคัญ ในรูปนี้จะเห็นว่ามีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้นที่เกี่ยวข้องกับลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ 15 เมษา 2537 ที่ตอนนั้นแห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้ำแห้ง แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้ำ แต่ว่าไปติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาล ให้มีฝนแล้ว ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้จริงๆ คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสำหรับวันที่ 15 แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ 15 เมษายน อันนี้เป็น 2537 แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ 2537 ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน แล้วก็นางมณีเมขลา เป็นผู้ที่เป็นตัวสำคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้ำท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้องกัน ป่านนี้คงยังจมน้ำอยู่ เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูดสักเล็กน้อย แต่พูดมามากแล้ว พูดทุกวัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร คือว่า ในเขตพระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา http://www.youtube.com/watch?v=5K_AkC9jIkU# (http://www.youtube.com/watch?v=5K_AkC9jIkU#) นาทีที่ 4.00 ดร.สมิทธกล่าวถึงในหลวงและกรณีพายุ เอนเจลล่า ในบางกรณีภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นก็ยากที่จะพิสูจน์ บางทีคำถามที่ว่่าภัยพิบัติที่ถูกเลื่อนออกเป็นข้ออ้างหรือไม่ อาจไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่าเราจะเลื่อนภัยพิบัติออกไปได้อย่างไร อย่าปล่อยให้การเลื่อนภัยพิบัติกลายเป็น 'หน้าที่' ของในหลวง หรือพระอริยะสงฆ์ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ความดี ความสามัคคี และเมตตาต่อกันคือพลังสำคัญในการเลื่อนภัยพิบัติ มีผู้กล่าวว่าภัยพิบัตินั้นแม้จะเลื่อนออกไปแต่ในที่สุดก็ต้องเกิด เพราะมนุษย์โลกส่วนใหญ่ยังคงประมาทและมัวเมาในกิเลสความชั่ว หากในที่สุดถึงเวลาที่ภัยพิบัติต้องเกิด อย่างน้อยๆ ก็ช่วยกันทำความดี และเตรียมพร้อมระวังป้องกัน เพื่อเลื่อนภัยพิบัติให้พ้นจากตัวเราและครอบครัว ให้ตัวเราและครอบครัวเราปลอดภัยหรือบอบช้ำจากภัยพิบัติน้อยที่สุด ถ้าทุกคนในประเทศมีความดี มีการเตรียมพร้อม ไม่ประมาท ยิ่งคนจำนวนมากปลอดภัยเท่าไหร่ ประเทศไทยก็ยิ่งปลอดภัยมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น ที่มา http://board.palungjit.com/f178/ (http://board.palungjit.com/f178/)ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป-นั่นเป็นได้แค่-ข้ออ้าง-290338.html |