สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 29, 2011, 10:50:58 pm



หัวข้อ: พระโพธิสัตว์อสุรินทราหู
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 29, 2011, 10:50:58 pm

พระโพธิสัตว์อสุรินทราหู

(http://www.horolive.com/wordpress/wp-content/uploads/2010/07/rahu.jpg)

อสุรินทราหู ก็คือพระราหูนั่น แหละ เป็นเทวดา เทวดาที่ตัวใหญ่ อัตภาพปกติขนาดทั่วๆ ไปของเทวดาคือ ๓ คาวุต คาวุตหนึ่งนี่ ๑๐๐ เส้น คือ ๔ กิโลเมตร ๓ คาวุต ก็ ๑๒ กิโลเมตร เดินมาซักองค์หนึ่งวิ่งกันตับแล่บ สูง ๑๒ กิโลเมตร นั่นขนาดเล็กสุดน่ะ มีแต่ใหญ่กว่านั้น อสุรินทราหูแกใหญ่เป็นพิเศษ ประเภทอังเดร เดอ ไจแอนท์รึ เปล่าก็ไม่รู้ นักมวยปล้ำตัวเท่าตึก

อยากจะไปกราบพระพุทธเจ้าใจจะขาด แต่ด้วยความที่เคารพพระพุทธเจ้ามากเป็นพิเศษ ก็ว่าตัวเราใหญ่เหลือเกิน ถ้าไปพบพระสมณโคดมแล้วต้องก้มลงมอง มันจะเป็นการไม่เคารพ พระพุทธเจ้าท่านทราบความคิดก็เลยเสด็จไปหา พอเสด็จไปหาอสุรินทราหูแล้วท่านก็นอนลักษณะสีหไสยาสน์ ปรากฏว่าสูงเลยหัวอสุรินทราหูไปไม่รู้กี่เท่า นี่ขนาดนอนนะ อสุรินทราหูท่านก็เลยยอมกราบลงตรงนั้นแหละ พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดท่าน

เพราะฉะนั้นปางไสยาสน์ ถ้าหากว่าลืมพระเนตรเขาเรียกว่า พระปางโปรดอสุรินทราหู อสุรินทราหูนี่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ความ ใหญ่ของร่างกาย ท่านบอกไม่ถูก เขาบอกรอยต่อระหว่างคิ้วท่านกว้างโยชน์หนึ่งพอดี โยชน์หนึ่งนี่ ๑๖ กิโลเมตร แล้วตัวท่านใหญ่แค่ไหน หลวงพ่อถามว่าทำไมไปอมดวงจันทร์ล่ะ ราหูท่านบอกว่าจ้างผมก็ไม่ไปอมขี้ดินเล่น ดวงจันทร์ในสายตาท่านก็ก้อนดินก้อนหนึ่งใช่มั้ย ? แล้วถามท่านว่า แล้วมาเพื่ออะไร ?

ท่านบอกว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว พระโพธิสัตว์เขาถือว่าเป็นพวกกันหมด เป็นเพื่อนกันหมด มีอะไรจะให้ช่วยบ้างมั้ยล่ะ หลวงพ่อก็เลยให้ช่วยสงเคราะห์เกี่ยวกับกำลังใจของญาติโยมที่จะเข้าถึงธรรม

อสุรินทราหูนี่ในภัทรกัปป์หน้าจะตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนาม ว่า นารทะ สมเด็จพระพุทธนารทะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คืออสุรินทราหูนี่แหละ

สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนธันวาคม ๒๕๔๕(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

ที่มา เว็บพลังจิต


หัวข้อ: Re: พระโพธิสัตว์อสุรินทราหู
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 29, 2011, 10:53:25 pm

ไหว้พระราหู

(http://www.hotvariety.com/wp-content/uploads/2011/05/%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B9.jpg)

ถาม : ช่วงนี้ท่านบอกว่าราหูแรง ?

ตอบ : ท่านให้ใช้ของดำ คือจะมีธูปดำ ๑๒ ดอก เทียนดำ ๑๒ ต้น จำง่าย ... ๑๒ ทั้งหมดเลย เพราะ พระราหูกำลัง ๑๒ นะ ธงดำ ๑๒ อัน ธงดำนี่ทำง่ายตัดกระดาษเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆ ทำเป็นธง ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นทำตามก็ได้ง่ายออก ธูปดำ เทียนดำ ธงดำ อาหารสีดำอย่างเช่นว่าพวกอะไรล่ะ (พวกขนมเปียกปูน เฉาก๊วย) ได้จ๊ะ อย่างนั้นล่ะ อย่างละ ๑๒ แล้วก็สตางค์ ๑๒ บาทเอาไปถวายพระ และก็ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้พระราหูท่านว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะร้ายจะดีอย่างไร เราขอดีอย่างเดียว (หัวเราะ) ตำราอื่นเขาใช้ ๘ ไอ้ ๘ นี่มันกำลังพระอังคารไม่ใช่พระราหู จริงๆ แล้วมันต้อง ๑๒ ถึงจะถูก

ถาม : คราวนี้มันมีเครื่องรางที่เป็นพระราหูติดตัวไว้จะดีมั้ย ?

ตอบ : ตั้งใจนึกถึงท่านให้ดี พระราหูจริงๆ แล้วท่านเป็นพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้ในภัทรกัปนี้ด้วย จะเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่า นารทะ ท่านเคยช่วยงานหลวงพ่อสมัยอยู่วัดท่าซุงอยู่ ด้วย หลวงพ่อก็ถามท่านว่าทำไมท่านไปเที่ยวไล่อมพระจันทร์ ท่านบอกว่าใครจะไปอมขี้ดิน (หัวเราะ) คือพระจันทร์ในสายตาท่านก็ขี้ดินก้อนหนึ่ง คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแล้วคนไปบอกว่าราหูอมจันทร์ ท่านบอกว่าไม่ได้เกี่ยวกัน อสุริทราหูนี่ท่านก็ในสมัยพระพุทธเจ้า ก็เคยไปโปรดท่าน

ก็จะมีพระพุทธเจ้าปางหนึ่งคือ ปางไสยาสน์ ถ้าหากว่าเป็นปางไสยาสน์พระบาทเสมอกันนั้นเรียกว่า ปางปรินิพพาน แต่ถ้าพระบาทเหลื่อมกันเขาเรียก ปางโปรดอสุรินทราหู กายท่านใหญ่มาก คราวนี้ว่าถ้าเราบูชาเราก็บูชาพระราหูในแง่พระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตถ้าอย่างนี้จะได้ตรงกันจ้ะ

ถาม : บางคนเขาบูชาธรรมจักรกะลา ?

ตอบ : มันจะเป็นกะลาตาเดียวแบบนั้น ถ้าหากว่าเขาเอามาทำแล้วก็จะมีการปลุกเสกตามวิชาการของเขาก็เชื่อว่าจะตัด เคราะห์ได้ จริงๆ ก็คือว่าถ้าหากว่าราหูจริงๆ ก็เป็นดาวนพเคราะห์ดวงหนึ่ง คราวนี้บรรดาดาวนพเคราะห์ทั้งหมด จะมีเทวดาชั้นจาตุมหาราชเป็นผู้รักษา จริงๆ แล้วแขกเก่งตั้งเทวดาได้ คือเขาจะบอกว่าพระอาทิตย์เป็นอย่างนั้นมีอานุภาพอย่างนั้นๆ พระอังคารเป็นอย่างนั้นๆ พระนารายณ์ พระอิศวรเป็นอย่างนั้น เขาต้องหาเทวดาที่มีอนุภาพใกล้เคียงหรือความสามารถใกล้เคียงอย่างที่เขาว่า มาเพื่อมารับตำแหน่งนั้น

คราวนี้ราหูในดาวนพเคราะห์ก็จะเป็นเทวดาองค์หนึ่งในจาตุมหาราชที่ดูแลอยู่ คราวนี้ว่าในเมื่อเราจะตั้งใจบูชาท่านก็นึกถึงเทวดาชั้นจาตุมหาราชก็ได้ แต่ว่าถ้าจะเป็น อสุรินทราหู จริงๆ นั่นจะเป็นพระโพธิสัตว์

ถาม : เห็นบางคนบอกว่าคนบางวันบูชาไม่ได้ ?

ตอบ : จริงๆ การทำความดีมันได้ทุกวัน เรื่องหลักการต่างๆ เขากำหนดขึ้นมาทีหลังทั้งนั้น แล้วอีกอย่างเรื่องเคราะห์กรรมต่างๆ ที่จะบังเกิดขึ้นก็ต้องชมอีกเหมือนกันว่าแขกเขาเก่ง เขาช่างสังเกตและเก็บมาเป็นสถิติต่อเนื่องกันมาเป็นพัน ปีว่า คนที่เกิดในวันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ลักษณะแบบนี้ใกล้เคียงกันจะมีดีมีร้ายอะไรที่มันเข้ามาใกล้เคียงกันใน แต่ละระยะของชีวิต เขาก็เก็บสถิติมาจนกระทั่งจดจารเป็นตำราขึ้นมา

จริงๆ แล้ว ถ้า เปรียบทางพุทธศาสนาก็คือว่าคนที่เกิดในระยะเวลาใกล้เคียงกัน คือคนที่ทำบุญทำบาปมาใกล้เคียงกัน ถึงเวลาผลบุญผลบาปก็เลยส่งผลให้ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันด้วย ก็เป็นอันว่าของเขาใช้ได้เหมือนกัน

หลวงพ่อท่านบอกว่าตำราที่แม่นจริงๆ ได้ผลถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าไม่เลวเทีเดียว เพราะฉะนั้นพอถึงวาระถึงเวลาอย่างเช่นราหูเข้า ก็คือมันเป็นช่วงระยะที่กุศลกรรมของเราขาดช่วงลง อกุศลกำลังจะเข้า

ถ้าเรามีการทำบุญมันก็เหมือนกับเราเพิ่มกำลังในการหนีห่างเคราะห์กรรมนั้นไป ได้ เสร็จแล้วว่าเราประมาทเมื่อไร เคราะห์กรรมนั้นก็ตามใกล้เข้ามาอีก เราต้องหาทางทำบุญใหญ่เพื่อหนีไปอีกอย่างนั้น เคราะห์กรรมไม่สามารถจะล้างได้ คำว่าสะเดาะทำให้หลุดก็ไม่หลุด แล้วก็ไม่สามารถจะกลบได้ด้วยความดี หากแต่ว่าเราทำความดีเพื่อหนีห่างไปได้

ถาม : เรื่องวันนี้ก็ไม่ใช่สาระที่....?

ตอบ : อยู่ที่ว่าเราจะตั้งใจทำความดีมั้ย ? ถ้าอยากจะทำความดีวันไหนก็ได้ ถ้าหากว่าเรามั่นใจในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สิ่งที่เราทำมา เราทำความดีเอาไว้พอ คงจะไม่ตกระกรรมลำบากอะไรก็ตามสบายมันเลยจ้ะ


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนเมษายน ๒๕๔๕
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

ที่มา  เว็บพลังจิต