สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: ทินกร ที่ พฤศจิกายน 24, 2009, 09:21:05 am



หัวข้อ: ธาตุสัมปยุต เข้าถึงปิติ
เริ่มหัวข้อโดย: ทินกร ที่ พฤศจิกายน 24, 2009, 09:21:05 am
ธาตุสัมปยุต เข้าถึงปิติ

๑.พระขุททกาปีติ (ธาตุดิน) มี ๒๑ จุด

   ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ สำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ มันสมอง เยื่อมันสมอง
   มีลักษณะ ๔ ประการ
มึนตึง เวียนหัว แลหนัก แลเย็น ไม่ใช่ ขนลุกขนพองบนศรีษะและกาย

๒.พระขณิกาปีติ (ธาตุไฟ) มี ๖ จุด

   วัตถุทางตา วัตถุทางหู วัตถุทางจมูก วัตถุทางลิ้น วัตถุทางกาย วัตถุทางใจ
   มีลักษณะ ๖ ประการ
เกินในจักขุทวารเป็นเหมือนดังสายฟ้าแลบ เกิดในทวารอื่นเป็นดังปลาตอด เกิดเหมือนเอ็นชักก็มี เกิดเหมือนแมลงบินไต่ตามตัว เกิดร้อนทั่วตัว และเกิดในหัวใจ สั่น ไหว เกิดดังไฟไหม้ลามไป

๓.พระโอกกันติกาปีติ (ธาตุน้ำ) มี ๑๒ จุด

    น้ำดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำลื่นหล่อข้อ น้ำเมือก น้ำมูตร
    มีลักษณะ ๖ ประการ
เกิดดังฟองน้ำเป็นน้ำกระเพื่อม เกิดดังขี่เรือบนระลอกคลื่น เกิดดังไม้ปักไว้ที่กลางสายน้ำไหลสั้นระรัวอยู่ก็มี เกิดดังหัวใจและท้องน้อยผัดผันก็มี เกิดเป็นลมพัดทั่วกายก็มี

๔.พระอุพเพงคาปีติ (ธาตุลม) มี ๗ จุด

    อารมณ์ร่วมทางจักษุ อารมณ์ร่วมทางหู อารมณ์ร่วมทางจมูก อารมณ์ร่วมทางลิ้น อารมณ์ร่วมทางกาย
อารมณ์ร่วมทางจิต อารมณ์ร่วมทางใจ
    มีลักษณะ ๗ ประการ
ให้กายสูงขึ้น ให้กายเบาขึ้น ให้กายลอยขึ้น ให้กายเยิบๆแยบๆ ให้กายเหมือนไรไต่ก็มี ให้ลงท้องบิด ให้รู้สึกว่าเป็นไข้อยู่

๕.พระผรณาปีติ (ธาตุอากาส) มี ๑๐ จุด

    ช่องตาซ้าย ช่องตาขวา ช่องจมูกซ้าย ช่องจมูกขวา ช่องหูซ้าย ช่องหูขวา ช่องทวารหนัก ช่องทวารเบา ช่องปาก ช่องหทัย
    มีลักษณะ ๖ ประการ
ให้กายนั้นพร่างพรายก็มี เกิดให้กายเย็นประดุจอาบน้ำ ให้กายเย็นซาบซ่านไปทั่วกาย ให้กายเย็นเหมือนลงแช่น้ำ ให้รู้สึกว่าเป็นดังว่างๆดุจอากาศ ให้รู้สึกความเย็นแผ่ขึ้นแผ่ลง



ลักษณะของพระธรรมปีติ

    พระปีติ หมายถึง ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง ความบันเทิง ความร่งเริง ความรื่นเริง ความตื่นเต้น ความชื่นชมยินดี


ภาวนาธาตุสัมปยุต (เบื้องต้น)
    กายนี้ไม่ใช่เรา เรานี้ไม่ใช่กาย กายนี้ไม่ใช่เรา เรานี้ไม่ใช่กาย กายนี้ไม่มีในเรา เรานี้ไม่มีในกาย มีแต่จิตล้วนๆ


คัดลอกจากหนังสือ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ (ฉบับสำหรับขึ้นกรรมฐาน)


หัวข้อ: Re: ธาตุสัมปยุต เข้าถึงปิติ
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ธันวาคม 01, 2011, 09:17:29 am
สำหรับส่วนนี้จัดได้ว่า เป็นเคล็ดวิชา พื้นฐาน สำหรับผู้ที่ เริ่มต้นฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เริ่มต้นด้วย พุทธานุสสติ มี นิมิต 3 ประการ

    1. ปัคาคาหะ นิมิติ ก็คือ ที่ตั้งฐานจิต ( มีความสำคัญมาก ในห้องที่ 4 ใช้ชื่อเรีกว่่า ฐปนา )

    2. บริกรรมสมาธิ หรือ บริกรรม นิมิต ใช้คำว่าภาวนาว่า "พุทโธ"

    3. อุเบกขานิมิต คือการวางอารมณ์ให้เป็นกลาง


  ในห้อง พุทธานุสสติ แบ่ง  ออกเป็น 3 ห้อง ฝึก

     1. ห้องพระธรรมปีติ มี 5 ขั้น และ 2 ระดับ

            ระดับที่ 1 มี 5 ขั้น เรียกว่า พระลักษณะ

            ระดับที่ 1 มี 5 ขั้น เรียกว่า พระรัศมี

     สนับสนุน สมาธิ ด้วยการเข้าสะกด กรรมฐาน ชำระปฏิปักษ์ ชื่อว่า เสียง 2 ประเภท
       
          ประเภทที่ 1 สะกดเสียงภายนอก
         
          ประเภทที่ 2 สะกดเสียงภายใน
 
     เมื่อผู้ฝึกมีความชำนาญ ก็จะมีการเดินจิต กรรมฐาน 3 แบบ

        เรียกว่า เข้าวัดออกวัด สะกด เดินจิต เป็น อนุโลม และ ปฏิโลม

                 เข้าคืบ  สัมปยุตธาตุ
                 
                 เข้าสับ  สัมปยุตธาุตุ

     ในห้องนี้เรียกว่า กายเทวดา

     2. ห้องพระยุคคลธรรมหก มี 6 ขั้น สอง ส่วน

     ในห้องนี้เรียกว่า กายพรหม
 
     3. ห้องพระสุขสมาธิ มี 3 ส่วน และ กายพุทธะ 1
     
     ในห้องนี้เรียกว่า พุทธกาย หรือ กายพุทธะ

     ฝึกสำเร็จ พระพุทธานุสสติ  3 ห้องนี้ มี ผล ดังนี้ ( มีในพระสูตร และ พระอภิธรรม )

           1. ได้สำเร็จ อุคคหนิมิต
           
           2. ได้สำเร็จ อุปจาระฌาน

           3. ได้สำเร็จ เป็นพระโสดาบัน มีดวงตาเห็นธรรม


     ต่อจาก 3 ห้องนี้ คือ พระอานาปานุสสติ กรรมฐาน มี ปฏิภาคนิมิต เป็นอารมณ์

     เท่านี้ก่อนนะจ๊ะ

     เจริญธรรม

     ;)




หัวข้อ: Re: ธาตุสัมปยุต เข้าถึงปิติ
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ธันวาคม 01, 2011, 10:27:35 am
ห้องอุปจาระ สมาธิ ก็เป็นพื้นฐานสำคัญ ( ถอดจิตได้ แยกกายทิพย์ได้ ) (http://index.php?topic=1126.msg4604#msg4604)อ่านเพิ่มเติม ส่วนนี้ นะจ๊ะ เกี่ยวกับผู้ถาม ชื่อ เรื่อง กาย ต่าง ๆ นั้นมาอย่างไร
ทำไมไปซ้ำ กับธรรมกาย

  ก็จะขอพูดตรง ๆ ว่า หลวงพ่อสด ก็มาเรียน วิชานี้ด้วย นะจ๊ะ

  หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ ก็ มาเรียน ขึ้นกรรมฐาน สมัยก่อน

 สำหรับ เรื่องพระให้ไปดูที่ลิงก์ นี้

 http://www.madchima.org/forum/index.php?board=20.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?board=20.0)