สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: pamai ที่ สิงหาคม 01, 2011, 09:55:14 am



หัวข้อ: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: pamai ที่ สิงหาคม 01, 2011, 09:55:14 am
วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ

ตามหัวข้อเลยคะ เพราะส่วนใหญ่ จะท้อแท้ เบื่อหน่าย อยากหนี ออกจากที่ต่าง ๆ เสมอ คะ

ไม่รู้ว่าตั้งคำถาม ไ้ด้ถูกหรือไม่คะ

 ช่วยด้วยคะ

 :25:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 01, 2011, 12:51:22 pm
อารมณ์ในฌานประกอบด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา เรียกว่า องค์ฌาน
 หากหมายถึง ปิติ ตัวนี้ ก็ต้องเข้าฌานให้ได้ครับ

 ยังมีปิติอีกอย่าง คือ

 ปีติ ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำในใจ มี ๕ คือ

   ๑.ขุททกปีติ ปีติเล็กน้อยพอขนชันน้ำตาไหล
   ๒.ขณิกาปีติ ปีติชั่วขณะรู้สึกแปลกๆ ดุจฟ้าแลบ
   ๓.โอกกันติกาปีติปีติเป็นระลอกรู้สึกซู่ลงมาๆ ดุจคลื่นซัดฝั่ง
   ๔.อุพเพคาปีติ ปีติโลดลอย ให้ใจฟูตัวเบาหรืออุทานออกมา
   ๕.ผรณาปีติ ปีติซาบซ่าน เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์เป็นของประกอบกับสมาธิ

 ในกรรมฐานมัชฌิมาฯได้กำหนดฐานจิต ๕ ฐาน รองรับปิติทั้ง ๕ ไว้แล้ว
 หากปฏิบัติตามแนวของกรรมฐานมัชฌิมาฯได้ถูกต้องแ้ล้ว จะได้ปิติตามนั้นเลยครับ

 คำว่า "ท้อแท้ เบื่อหน่าย อยากหนี" ของคุณpamai ไม่ทราบว่าเกิดตอนไหน ก่อนหรือหลังภาวนา
 
 หากเกิดก่อน ผมเรียกว่า "ขี้เกียจ" ผมเองก็เกิดอยู่บ่อยๆ ทางแก้ก็คือ ต้องอดทน พากเพียร
 พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า "บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร"

 การที่จิตของคนเราต่อสู้กับอุปกิเลสไม่ได้ ก็เป็นเรื่องปรกติ วิีธีที่จะรับมือกับกิเลสได้
 จำเป็นต้องหากุศโลบาย ส่วนตัวผมจะฟังเพลงทีเนื่องด้วยธรรมะ ฟังจนจิตเกาะกับเพลงนั้น
 และมีความสุขระดับหนึ่ง จากนั้นผมจะเข้าสมาธิได้ครับ

 แต่ในกรณีที่เกิดขณะภาวนา อันนี้เรียกว่า นิวรณ์ การจะสู้กับนิวรณ์ได้นั้น กรรมฐานมัชฌิมาฯ
 จะใช้"อุเบกขานิมิต" วิธีการใช้อุเบกขานิมิต ผมอธิบายไว้ในลิงค์นี้ครับ

 "เวลาฟุ้งซ่าน มาก ๆ ควรทำอย่างไร ควรพิจารณาธรรม อย่างไรดีครับ"
 http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4733.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4733.0)

 หากคุณpamai ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาฯกับอาจารย์ท่่านใด
 วันที่ ๑๔ สิงหาคมที่จะถึง เชิญที่บ้านคุณจิตตรี สระบุรี เลยครับ


  :welcome: :49: ;)


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: tewada ที่ สิงหาคม 08, 2011, 05:40:22 pm
อนุโมทนาสาธุ กับเนื้อหา ด้วยคะ

 :93:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: lamai54 ที่ สิงหาคม 12, 2011, 09:28:02 pm
อ้างถึง
หากคุณpamai ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาฯกับอาจารย์ท่่านใด
 วันที่ ๑๔ สิงหาคมที่จะถึง เชิญที่บ้านคุณจิตตรี สระบุรี เลยครับ
น่าสนใจคะ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างคะ

 :s_hi:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 13, 2011, 09:51:55 am
อ้างถึง
หากคุณpamai ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาฯกับอาจารย์ท่่านใด
 วันที่ ๑๔ สิงหาคมที่จะถึง เชิญที่บ้านคุณจิตตรี สระบุรี เลยครับ
น่าสนใจคะ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างคะ

 :s_hi:

  ไม่มีครับ :welcome:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: pamai ที่ สิงหาคม 13, 2011, 05:59:18 pm
ที่พักทีี่่ใกล้ พักกันสัก 2 -3 คน ที่ใกล้ที่สุดตรงไหน ราคาเ่ท่าไหร่ ครับ

 :c017:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 13, 2011, 08:08:17 pm
ที่พักทีี่่ใกล้ พักกันสัก 2 -3 คน ที่ใกล้ที่สุดตรงไหน ราคาเ่ท่าไหร่ ครับ

 :c017:

             คุณนาฏนพิทย์ 081-6890220
             คุณกมลพรรณ 082-1997474  (พี่แขก)
             และคุณจิตตรี(เจ้าของบ้าน)089-7450417

             รายชื่อสามท่านนี้เป็นคนสระบุรี รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี น่าจะให้คำตอบได้
             :welcome: :49:


หัวข้อ: Re: วิธีทำจิตให้ร่าเริง มีปีติ ในการภาวนา ควรทำอย่างไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ สิงหาคม 13, 2011, 10:31:33 pm
วิธีทำจิตภาวนา ควรทำอย่างไร คะ เพราะส่วนใหญ่ จะท้อแท้ เบื่อหน่าย อยากหนี ออกจากที่ต่าง ๆ เสมอ คะ

 ช่วยด้วยคะ
(http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/577/201/original_100_0482.JPG?1285819836)

ชีวิตในแต่ละวันที่หายใจ มันยากเหลือเกินที่จะประคับประคองความดี และอย่าหมายเอาดีไปเทียบเคียงใคร เจอะ

เจอนิ่งหลีกหนี หรือวางเฉย ดีที่สุด แม้ภาวนาควรขวนขวายใส่ใจช่วยได้บ้างก็จริง แต่เวรภัยไม่เคยหยุดนิ่งที่จะฉุด

รั้งเราให้ต้องท้อ ขอเพียงอย่าถอย ชื่อว่าคนมีเกิดมีอยากตราบนั้นทุกข์มีอยู่ร่ำไป อย่างผมตอนนี้อยู่บ้านก็ไม่มี

คววมสุข เพราะความดีที่เราทำมันไม่มีค่าในสายตาคนในบ้าน ยิ่งเพียรยิ่งสร้างเขาก็หยาม ลบหรู่ปรามาสไปถึงครู

บาอาจารย์ ชีวิตหวังหนีอบายเห็นท่าจะไปไม่รอด พูดอะไรเป็นผิดหมด เห็นถึงคราบ้านแตกตัดพ่อลูกกันก็ครานี้

หละครับ นี่คือชีวิตจริงของคนคนหนึ่งที่สู้เพื่อภาวนา
                                                                                                   



http://www.gotoknow.org/file/tag/%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3