หัวข้อ: ปฏิปทามรรคมี ๔ อย่าง เริ่มหัวข้อโดย: TC9 ที่ สิงหาคม 03, 2011, 11:05:52 am พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 465
ปฏิปทามรรคมี ๔ อย่างนี้ คือ มรรคมีธรรมุทธัจจะเป็นหัวหน้าแห่งอริยมรรคต้น ของพระอรหันต์รูปใดรูปหนึ่ง ๑ มรรคมีสมถะเป็นหัวหน้าแห่งอริยมรรค ๑ มรรคมีวิปัสสนาเป็นเบื้องต้นแห่งอริยมรรค ๑ มรรคมียุคนัทธธรรม (ธรรมที่เทียมคู่) เป็นเบื้องต้นแห่งอริยมรรค ๑ มึคำที่น่าสนใจดังนี้ ธรรมุทธัจจะ คือ ....... สมถะ คือ............. วิปัสสนา คือ........... มรรค คือ ............. ยุคนัทธธรรม คือ...... ก็ยัวไม่ทราบความหมายอยู่ดี ครับ เป็นเมล ฉบับหนึ่ง ที่พระอาจารย์ส่งมาให้อ่าน ผมเองก็ไม่ค่อยถนัดในคำเหล่านี้ แต่ก็ขอนำพระสูตร บทนี้มาให้เพื่อน สมาชิก ได้พิจารณา ทุกท่านครับ :25: :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: ปฏิปทามรรคมี ๔ อย่าง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 03, 2011, 11:33:43 am พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค ยุคนัทธวรรค ยุคนัทธกถา [๕๓๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้พระนครโกสัมพี ณ ที่นั้นแล ท่านพระอานนท์เรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระอานนท์แล้ว ท่านพระอานนท์ได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโส ทั้งหลาย ก็ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่ง พยากรณ์อรหัตในสำนักเรา ด้วย มรรค ๔ ทั้งหมดหรือด้วยมรรคเหล่านั้นมรรคใดมรรคหนึ่ง มรรค ๔ เป็นไฉน ฯ ศึกษารายละเอียดได้ที่นี่ เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ บรรทัดที่ ๗๕๖๔ - ๗๘๖๑. หน้าที่ ๓๑๓ - ๓๒๕. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=31&A=7564&Z=7861&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=31&A=7564&Z=7861&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=534 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=534) บทย่อ "ยุคนัทธวรรค ยุคนัทธกถา" จากพระไตรปิฎก ฉบับประชาชน(อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ) ๑๑. ยุคนัทธะ ( ธรรมที่เทียมคู่ ) บทตั้งเป็นภาษิตของพระอานนท์ แสดงว่าภิกษุ ภิกษุณีจะพยากรณ์อรหัตตผลในสำนักของพระอานนท์ ก็มี ๔ ทาง คือ ๑. เจริญวิปัสสนา มีสมถะเป็นเบื้องต้น(เจริญปัญญาโดยเจริญสมาธิก่อน ) ๒. เจริญสมถะ มีวิปัสสนเป็นเบื้องต้น ( เจริญสมาธิโดยเจริญปัญญาก่อน ) ๓. เจริญทั้งสมถะและวิปัสสนาคู่กัน ๔. มีจิตแยกจากความฟุ้งสร้านในธรรม ( โปรดดูที่ย่อไว้แล้วในหน้าพระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ หน้า ๔ ด้วย ) อ้างอิง http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k21.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k21.html) อ้างถึง( โปรดดูที่ย่อไว้แล้วในหน้าพระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๓ หน้า ๔ ด้วย ) พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต (เป็นสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๓) พระอานนท์แสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุภิกษุณีที่ พยากรณ์การบรรลุความเป็นพระอรหันต์ ( พูดว่าได้บรรลุ ) ในสำนักของเรา ย่อมมีทางเป็นไปได้อย่างใดอย่างหนึ่ง รวม ๔ ทาง คือ ๑. เจริญวิปัสสนา ( ปัญญาอันเห็นแจ้ง ) มีสมถะเป็นหัวหน้า มรรคเกิดขึ้นเมื่เจริญมรรคก็ละสัญโญชน์ ( กิเลส ที่ร้อยรัดหรือผูกมัด ) ได้ กิเลสพวกอนุสัย ( แฝงตัวหรือนอนอยู่ในสันดาน ) ย่อมไปหมด ๒. เจริญสมถะ ( ความสงบใจ ) มีวิปัสสนาเป็นหัวหน้า แล้วหมดกิเลส ๓. เจริญทั้งสมถะและวิปัสสนาคู่กัน แล้วหมดกิเลส ๔. มีจิตแยกจากความฟุ้งสร้านในธรรม ( วิปัสสนูปกิเลส =เครื่องทำวิปัสสนาให้เศร้าหมอง เช่น สิ่งที่ทำให้หลงเข้าใจผิดมีแสงสว่าง เป็นต้น ) จิตสงบตั้งหมั่น ในภายในมีอารมณ์เป็นหนึ่งแล้วหมดกิเลส. อ้างอิง http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/13.4.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/13.4.html) เพื่อความกระจ่าง...ขอรับ พระสูตรนี้ผมนำมาอ้างอิงหลายครั้งแล้ว หลายคนอาจยังไม่ทราบ :25: หัวข้อ: Re: ปฏิปทามรรคมี ๔ อย่าง เริ่มหัวข้อโดย: kira-d-note ที่ สิงหาคม 03, 2011, 07:44:34 pm น่าสนใจ คะ คำว่า ธรรมุทธัจจะ คือ อะไร คะ พึ่งเคยได้ยินนี่คะ
ใช่คำว่า ธรรม + อุทธัจจะ หรือไม่คะ ถ้าหมายถึงคำสองคำนี้ ละก็ คงจะแปลว่า ความฟุ้งซ่านในธรรม ก็แปลกนะคะ ธรรมเป็นเรื่อง ฟุ้งซ่านได้ด้วยหรือ คะ ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ เหมือนกัน กับความหมาย ต้องรอผู้รู้หลาย ๆ ท่านร่วมวิจารณ์ แล้วคะ :13: :13: :13: หัวข้อ: Re: ปฏิปทามรรคมี ๔ อย่าง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 03, 2011, 09:03:39 pm น่าสนใจ คะ คำว่า ธรรมุทธัจจะ คือ อะไร คะ พึ่งเคยได้ยินนี่คะ จะคุยเป็นเพื่อนนะ...ขอรับ ความฟุ้งซ่านถือเป็น วิปัสสนูกิเลส อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน ) เป็นสังโยชน์ข้อที่ ๙ อรหันตผลเท่านั้นที่ตัดได้ และอุทธัจจะ ก็อยู่ในนิวรณ์ ๕ ด้วย ขอให้ไปดูเรื่อง สติปัฏฐานข้อที่สุกท้าย "ธัมมานุปัสสนา ในนีวรณบรรพ" คลิกลิงค์นี้เลย http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=6257&Z=6764 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=6257&Z=6764) อุทธัจจะ(นิวรณ์) อยู่ในธัมมานุปัสสนา แสดงว่า ธรรมะก็มีความฟุ้งซ่าน ใช่ไหมครับ อีกอย่าง เมื่อเกิดนิวรณ์ ก็สักแต่ว่ารู้ว่าเกิดนิวรณ์ รู้แค่นี้ก็นำมาเจริญ "จิตตานุปัสสนา" ได้เช่นกัน ขอคุยเท่านี้ เดี๋ยวฟุ้งซ่าน :49: |