หัวข้อ: ญาณะ ๑๐_ ญาณะ ๖_ เป็นเช่นไรหนอ ? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 31, 2011, 11:00:53 am ญาณะ ๑๐_ ญาณะ ๖_ เป็นเช่นไรหนอ ? (http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/phrabud001.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ ชื่อปฏิสัมภิทามรรค ( เป็นสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๓) ( ทางแห่งความแตกฉาน ) ญาณะ ( ความรู้ ) ข้อนี้มีบทตั้งแสดงถึงญาณ ( ความรู้ ) อันได้แก่ปัญญา ๗๓ ประการ พร้อมทั้งกล่าวว่า ในญาณ ๗๓ ประการเหล่านี้ ๖๗ ข้อเป็นของทั่วไปแก่พระสาวก ส่วนอีก ๖ ข้อไม่ทั่วไปแก่พระสาวก. ในการอธิบายญาณต่าง ๆ นั้น บทตั้ง ( ซึ่งเป็นภาษิตของพระสาริบุตร มิใช่พระพุทธภาษิต ) อธิบายว่าปัญญาอย่างนั้น ๆ ชื่อว่าญาณ ขอยกตัวอย่างตั้งแต่ข้อที่ ๑ ไป รวม ๑๐ ดังนี้ :- ๑. ปัญญาในการเงี่ยโสต ( สดับ ) ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยการฟัง ๒. ครั้นฟังแล้ว ( เกิด ) ปัญญาในการสำรวม ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยศีล ๓. ครั้นสำรวมแล้ว ( เกิด ) ปัญญาในการตั้งจิตมั่น ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยการเจริญสมาธิ ๔. ปัญญาในการกำหนดรู้ปัจจัย ชื่อว่าญาณในความตั้งอยู่แห่งธรรม ( ธัมมัฏฐิติญาณ ) ๕. ปัญญาในการรวบรวมธรรมที่เป็นอดีต, อนาคต, ปัจจุบัน แล้วกำหนดรู้ ชื่อว่าญาณในการพิจารณา ( สัมมสเน ญาณ ) ๖. ปัญญาในการพิจารณาเห็นความปรวนแปรแห่งธรรมอันเป็นปัจจุบัน ชื่อว่าญาณในการพิจารณาความเกิด ความเสื่อม ( อุทยัพพยานุปัสสเน ญาณ ) ๗. ปัญญาในการพิจารณาอารมณ์แล้วพิจารณาเห็นความแตกดับ ชื่อว่าญาณในการเห็นแจ้ง(วิปัสสเนญาณ ) ๘. ปัญญาในความปรากฏเป็นของน่ากลัว (แห่งสังขาร) ชื่อว่าญาณ คือความรู้ในโทษ ( อาทีนเว ญาณ ) ๙. ปัญญาที่ทำให้เกิดการพิจารณาด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย ชื่อว่าญาณในความวางเฉยในสังขาร(สังขารุเปกขาสุ ญาณ) ๑๐. ปัญญาในการออกในการหมุนกลับจากเครื่องหมายแห่งสังขารภายนอก ชื่อว่าโคตรภูญาณ ( ต่อจากนี้เป็นการแสดงมัคคญาณ, ผลญาณ, วิมุตติญาณ, ปัจจเวกขณญาณเป็นต้น มีญาณในอริยสัจจ์ ๔ และในปฏิสัมภิทา ๔ เป็นที่สุดรวม ๖๗ ญาณ เป็นญาณที่ทั่วไปแก่พระสาวก ). (http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/buddha003%7E1.jpg) ส่วนญาณอีก ๖ ประการที่มีเฉพาะแก่พระพุทธเจ้า ไม่ทั่วไปแก่พระสาวก คือ ๑. อินทริยปโรปริยัตตญาณ (ญาณหยั่งรู้อินทรีย์อันยิ่งหย่อนของสัตว์) ๒.อาสยานุสยญาณ ( ญาณหยั่งรู้อาสัยคือความน้อมใจไปทั้งทางดีทางชั่ว และอนุสัยคือกิเลสที่นอนเนื่องในสันดานมีกามราคะ เป็นต้น มีอวิชชาเป็นที่สุด ) ๓. ยมกปาฏิหิรญาณ ( ญาณอันทำให้สามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้ คือปาฏิหาริย์เนื่องด้วยธาตุน้ำและธาตุไฟ แสดงออกพร้อมกัน ) ๔. มหากรุณาสมาบัตติญาณ ( ญาณในการเข้าสมาบัติ มีมหากรุณาเป็นอารมณ์ ) ๕. สัพพัญญุตญาณ ( ญาณคือความเป็นผู้รู้สิ่งทั้งปวง ) ๖. อนาวรณญาณ ( ญาณอันไม่มีความข้องขัดไม่มีเครื่องกั้น ). อ้างอิง พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน (อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ) http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k21.htm (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k21.htm) ขอบคุณภาพจากwww.dhammajak.net อ่านรายละเอียดได้ที่ พระไตรปิฏก(สยามรัฐ) เล่มที่ ๓๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓ ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_page/ (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_page/) |