สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

มหาเถรสมาคมขับเจ้าอาวาสวัดหน้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี พ้นตำแหน่งเลขานุการและคณะ ทำงานสถานีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในกำกับของมหาเถรฯ ฐานแอบอ้างเรี่ยไรผลประโยชน์ใส่ตัว ปลอมเอกสารเรี่ยไรถึงพระผู้ใหญ่ขอวัดละ 125,000 บาท แลกกับการออกสื่อ เผยโดนมาหลายวัดแล้ว

ที่ตำหนักสมเด็จ วัดสระเกศ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. มีการประชุมมหาเถรสมาคม สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ เป็นประธาน ทั้งนี้ ในการประชุม พระพรหมเมธี (จำ นงค์ ธมฺมจารี) กรรมการและโฆษกมหาเถรฯ วัดสัมพันธวงศ์ ในฐานะประธานคณะทำงานจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ในกำกับมหาเถรสมาคม) หรือโทรทัศน์มหาเถรฯ ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เคเบิลช่อง DDTV ได้เสนอวาระจรเพื่อทราบต่อที่ประชุมว่า คณะทำงานฯ มีมติขับ พระมหาไพศาล อาจาโร เจ้าอาวาสวัดหน้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะเลขานุการและคณะทำงาน การจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งเลขานุการและคณะทำงานฯแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชอบกระทำการแอบอ้างเรี่ยไรโดยใช้ชื่อคณะทำงานการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ พระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาเถรฯ เพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะทำงานฯ ที่ไม่มีนโยบายให้มีการเรี่ยไรเพื่อประโยชน์ จนสร้างความเสื่อมเสียต่อมหาเถรฯ และคณะทำงานจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ฯ

ทั้งนี้ พระพรหมเมธียังได้นำเอกสารที่พระมหาไพศาล อาจาโร ทำถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2554 โดยหัวหนังสือระบุว่า จากคณะทำงานการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนา แห่งชาติ (ในกำกับมหาเถรสมาคม) วัดสัมพันธวงศ์ ขอการสนับสนุนอุปกรณ์สื่อวิทยุโทรทัศน์ กล้องบันทึกเทปโทรทัศน์ราคา 125,000 บาท พร้อมกับระบุว่า จะมีการมอบโล่เกียรติคุณ และจะนำประวัติของผู้บริจาคออก อากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง DDTV CFM 88.75 mhz ซึ่งออกอากาศทางเคเบิลทีวีด้วย พร้อมกับมีการระบุเลขบัญชีธนาคารและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อในเอกสารด้วย ทั้งนี้ พระพรหมเมธีกล่าวว่า เอกสารที่ถูกส่งไปถึงวัดต่างๆ มีหลายฉบับ และมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ จำนวนไม่น้อยได้บริจาคปัจจัยมาแล้วกับพระมหาไพศาล เพราะคิดว่าเป็นสื่อของมหาเถรฯ ทั้งๆที่ไม่ใช่ เพราะเป็นเอกสารที่แอบทำขึ้นเอง ที่ประชุมมหาเถรฯมีมติรับทราบและให้ดำเนินการได้ทันที

ต่อมาพระพรหมเมธีให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ได้ทำหนังสือขับพระมหาไพศาลออกจากทุกตำแหน่งในคณะทำงานการจัดตั้งสถานีวิทยุ โทรทัศน์พระพุทธศาสนาฯ แล้ว จากนี้ไปการกระทำใดๆ ของพระมหาไพศาลจะไม่เกี่ยวข้องกับคณะทำงานฯ และมหาเถรฯ อีก รวมทั้งจะแจ้งความเอาผิดกับพระมหาไพศาลด้วย เพราะมีพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อวงการสงฆ์ โดยเฉพาะการไปแอบอ้างเรี่ยไรหาผลประโยชน์ใส่ตัว โดยที่ตนและคณะทำงานที่ประกอบด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่อง และเคยมีนโยบายไปแล้วว่าห้ามไม่ให้มีการเรี่ยไร

“เรื่องการแอบอ้างดังกล่าว อาตมาทราบจากพระราชปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าตอน จ.เชียงใหม่ ที่ถูกเรี่ยไรเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ทำไมส่งเอกสารขอการสนับสนุนมาให้แล้วไม่เซ็นชื่อกำกับมาด้วย หลวงพ่อถ้าเซ็นชื่อกำกับมาด้วยอย่าว่าแต่เงิน 1 แสนเลย เป็นล้านก็ยังให้ได้ อาตมาฟังแล้วตกใจ เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่ามีการเรี่ยไร จากนั้น จึงได้ตรวจสอบจนได้พบความจริงว่าเป็นฝีมือพระมหาไพศาล” กรรมการมหาเถรฯกล่าวและว่า นอกจากนี้ ก่อนหน้านั้นพระมหาไพศาลยังได้แอบกระทำการในทางที่มิชอบอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการนำใบอนุญาตการจัดตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ไปแสวงหาผลประโยชน์ ใส่ตัว การแอบไปจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์ของตนเองแล้วใช้ชื่อของมหาเถรฯเป็นต้น ซึ่งหากปล่อยไว้จะเป็นการเสียหายต่อคณะสงฆ์ สำหรับผู้ที่เสียหายให้แจ้งความดำเนินคดีได้เลย

“ที่ผ่านมาพระมหาไพศาลได้รับความเมตตาจากพระผู้ใหญ่มากถึงขนาดให้ย้ายจากวัด หน้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี ให้มาจำพรรษาที่วัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี เพื่อสะดวกต่อการทำงาน แต่กลับมามีพฤติกรรมต้องการหาประโยชน์ใส่ตัว ถือว่าใช้ไม่ได้” กรรมการและโฆษกมหาเถรฯระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะทำงานการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในกำกับของมหาเถรสมาคม มีสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานที่ปรึกษา มีพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ เป็นประธานคณะทำงาน ออกอากาศทางโทรทัศน์เคเบิลทีวีช่อง DDTV และวิทยุหลายสถานี
ที่มา:
ไทยรัฐ

http://www.phrathai.net (http://www.phrathai.net)