สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 24, 2011, 09:55:32 am



หัวข้อ: ทำไมพระพุทธเจ้า จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 24, 2011, 09:55:32 am


(http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/69.jpg)

ทำไมพระพุทธเจ้า จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม

เหตุและผลของการอวดอุตริมนุษยธรรม

บทบัญญัติซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ให้ความสำคัญแก่สงฆ์ ได้แก่ พุทธบัญญติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม

คือ คุณวิเศษหรือการบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ ฌาน สมาบัติ มรรคผล ถ้าอวดโดยที่ตนไม่มีคุณวิเศษนั้นจริง คือ หลอกเค้าย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ

แต่ถึงแม้ว่าจะได้ บรรลุคุณวิเศษนั้นจริง ถ้าพูดอวดหรือบอกเล่าแก่ชาวบ้าน หรือผู้อื่นใดที่มิใช่ภิกษุ หรือภิกษุนี ก็ไม่พ้นเป็นความผิดเพียงแต่เบาลงมา เป็นอาบัติชาจิตตีต์

ต้นเหตุที่จะให้มีพุทธบัญญัตินี้เกิดจากในคราวทุพภิกขภัย ภิกษุพวกนี้คิดหาอุบาย ให้พวกตนมีอาหารฉันโดยไม่ลำบาก กล่าวสรรเสริญกัน ให้ชาวบ้านฟังทั้งจริงและไม่จริงบ้าง ชาวบ้านเลื่อมใสพากันบำรุงเลี้ยงภิกษุกลุ่มนั้น พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทขึ้น

ห้ามติเตียนว่าไม่สมควรอวดอ้าง คุณความดีพิเศษกัน เพราะเห็นแก่ท้องและสำหรับผู้ที่อวดอ้างโดยไม่เป็นจริง ทรงติเตียนอย่างรุนแรงว่า เป็นมหาโจรที่เลวร้ายที่สุดในโลก เพราะบริโภคอาหารของชาวบ้านชาวเมือง โดยฐานบริโภค

พุทธบัญญัติอีกข้อหนึ่ง ในจำพวก ห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม คือ สิกขาบทที่มีให้ภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์แก่ชาวบ้าน ภิกษุใดแสดงภิกษุนั้นมีความผิด ต้องอาบัติทุกกฎ


ต้นเหตุเกิดจากเศรษฐีท่านเอาบาตรไม้จันทร์แขวนไว้ที่ปลายไม้ไผ่ แล้วประกาศท้าพิสูจน์ว่า ใครเป็นพระอรหันต์ มีฤทธิ์จริงก็ขอถวายบาตรนั้นแต่ให้เหาะไปเอาลงมาพระปิณโฑลภารัทวาชะได้ยินคำ ท้า ต้องการจะรักษาเกียรติของพระศาสนา จึงเหาะขึ้นไปเอาบาตรลงมา พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้าม โดยตำหนิว่า ไม่สมควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นธรรม ล้ำสามัญมนุษย์

เพราะเห็นแก่บาตรที่มีค่าต่ำ ทรงเปรียบการทำเช่นนั้นว่าเป็นเหมือนสตรี ที่เผยอวัยวะพึงสงวนให้เขาดูเพราะเห็นแก่เงินทองของต่ำทราม

เจตนารมที่คำนึงถึงสงฆ์ เพื่อการดำรงพระศาสนาตามหลักการของพระพุทธศาสนา การดำรงอยู่แห่งธรรมวินัย เพื่อประโยชน์สุขของชาวโลกนั้น ขึ้นอยู่กับสงฆ์เป็นส่วนรวม การที่จะสืบต่อพระศาสนา หรือรักษาธรรมวินัย จึงต้องทำให้สงฆ์คงอยู่ยั่งยืน


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/391/7391/images/PraHere/PraHere.jpg)

การอวดคุณพิเศษของภิกษุ ย่อมทำให้ประชาชนรวมจุดความสนใจไปที่ภิกษุนั้นแล้วหันไปทุ่มเทความอุปถัมถ์ บำรุงให้ในเวลาเดียวกัน สงฆ์จะด้อยความสำคัญลงภิกษุ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเอาใจใส่ และพระสงฆ์ส่วนรวมก็จะอ่อนกำลังลง การยืนยันความตรัสรู้ เป็นหน้าที่ของพระศาสดา

การอวดหรือบอกกล่าวอุตริมนุษยธรรม คือ คุณวิเศษของตน แก่ชาวบ้าน แม้จะเป็นจริงก็มีผลเสียหาย ที่สำคัญแก่ส่วนรวม ดังนี้

1. ทำให้ชาวบ้านตื่นเต้น ระดมความสนใจ มารวมที่บุคคลทั่วไป หรือกลุ่มเดียว แทนสนใจสงฆ์ดังได้กล่าวแล้ว และชาวบ้านผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจก็จะคิดเปรียบคิดเทียบเกิดความรู้สึก ดูถูกดูแคลนท่านอื่น กลุ่มอื่น อย่างถูกต้องบ้าง

2. เมื่อมีการอวดกันได้ ไม่เฉพาะท่านที่รู้จริงได้ จริงเท่านั้น ที่จะอวดท่านที่สำคัญตนผิด ก็จะอวดแต่ที่ร้ายแรงยิ่งก็คือ เป็นช่องให้ผู้ไม่ละอายทั้งหลาย พากันฉวยโอกาสกันวุ่นวาย ชาวบ้านซึ่งไม่ได้รู้ไม่ได้มีประสบการณ์เอง ก็แยกไม่ถูกว่าอย่างไหนจริงอย่างไหนเท็จ

3. ชาวบ้านระดับโลกียปุถุชน ทั้งหลายมีความพอใจนิยมชมชอบต่างๆกัน ตื่นเต้นในต่างสิ่งต่างระดับกัน และผู้ที่บรรลุธรรมวิเศษ ก็มีบุคลิกลักษณะ คุณสมบัติและความสามารถด้านอื่นๆต่างๆ กันไป มิใช่จะมีคุณสมบัติที่พร้อมจะเป็นผู้นำตามรอยบาทพระศาสดาได้เหมือนกัน

4. เมื่อท่านที่บรรลุจริงสอนเก่ง อวดแล้วสอนบ้าง ท่านที่บรรลุจริงสอนไม่เป็น แต่พูดออกมาบ้างท่านที่ไม่รู้จริงสำคัญตนผิด คิดว่าบรรลุแล้วเที่ยวบอกเล่าไว้บ้าง ท่านที่ไม่บรรลุแต่ชอบหลอกพูดลวงเขาไปบ้างต่อไป หลักพระศาสนา ก็จะสับสนป่นเปฟั่นเฟือน ไม่รู้ว่าอันใดแท้อันใดเทียมเพราะหย่อนความรู้ทางปริยัติก็ทำให้หลักธรรม สับสนเสียเอกภาพแห่งคำสอนของพระศาสดา ความจริงนั้นความยืนยันความตรัสรู้ เป็นภารกิจของพระศาสดา ซึ่งเป็นผู้นำในเมื่อจะทำหน้าที่ตั้งพระศาสนา และปกป้องพระศาสนานั้น พร้อมทั้งหมู่สาวก

ส่วนหมู่สาวกภายหลัง เมื่อสมัครเข้ามาก็คือยอมรับคำสอนของพระองค์ ความรับผิดชอบในการ สอน ไม่อยู่ที่อ้างกานบรรลุของตน แต่อยู่ที่สอนให้ตรงกับคำสอน ของพระศาสดา


(http://hilight.kapook.com/img_cms/other/26.jpg)

อ้างอิง
คัดลอกมาจากหนังสือ เหตุและผลของการอวดอุตริมนุษย์ธรรม โดย พระธรรมปิฎก (ป.ว. ปยุต.โต )
http://board.palungjit.com/f8/ (http://board.palungjit.com/f8/)ทำไมพระพุทธเจ้า-จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม-290137.html
ขอบคุณภาพจาก www.rmutphysics.com (http://www.rmutphysics.com),www.oknation.net,http://hilight.kapook.com


หัวข้อ: Re: ทำไมพระพุทธเจ้า จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 24, 2011, 12:09:45 pm

(http://www.bloggang.com/data/angelina-jerrry/picture/1297359109.jpg)

ทำไมพระพุทธเจ้าห้ามอวดอุตริมนุษย์ธรรม ...อยากรู้ไหม
เพราะพระพุทธเจ้าเหนื่อยมาก่อนแล้ว กับพาลปุถุชน

    เป็นเพราะในสมัยนั้นเรื่องฤทธิ์ ก็มีผู้อื่นทำได้อยู่แล้วเหมือนกัน ถ้าเน้นเรื่องฤทธิ์ก็จะมีคนนำไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้ แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้นั้นซึ่งก็คือ อนุสาสนีปาฏิหาริย์นั้น มีเฉพาะแต่กับพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำได้ การแสดงฤทธิ์พร่ำเพรื่อนั้นจะทำให้ผู้อื่นตำหนิหรือไม่เลื่อมใสได้ หรือบางกรณีภิกษุก็อาจจะแอบอ้างเอาเรื่องอิทธิฤทธิ์หรือคุณวิเศษต่างๆ เหล่านี้ทั้งๆ ที่ไม่มีในตนมาเพื่อแสวงหาลาภสักการะแก่ตนได้

    แต่ในบางกรณีพระพุทธเจ้าท่านก็ทรงตรัสให้สาวกแสดงฤทธิ์เอง เพื่อยังพุทธบริษัทให้เกิดความเลื่อมใส หรือมีเหตุที่จะต้องใช้ฤทธิ์เพื่อทรมานบุคคลต่างๆ ให้คลายทิฏฐิมานะเสียก่อน จึงค่อยเทศนาพระธรรม
     เช่น เรื่องที่ทรงสั่งให้พระโมคคัลลานะแสดงฤทธิ์ทรมานพระนันโทปนันทนาคราช เรื่องพระพุทธเจ้าสั่งให้พระสาคตะแสดงฤทธิ์เพื่อยังศรัทธาให้เกิดแก่พุทธบริษัท เรื่องพระอุรุเวลกัสสปะ เรื่องอาฬาวกยักษ์ เรื่ององคุลีมาร เรื่องนายพรานที่จะมายิงพระองค์ ฯลฯ

เกวัฏฏสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=09&A=7317&Z=7898 (http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=09&A=7317&Z=7898)

เรื่องพระปิณโฑลภารทวาชะเหาะเอาบาตรไม้จันทน์
http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=07&A=256&Z=312 (http://84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=07&A=256&Z=312)

เรื่องพระวังคีสะขอบวชเพื่อเรียนมนต์ที่จะทำให้รู้ว่าพระอรหันต์ตายแล้วไปไหน
http://www.dhammathai.org/monk/monk46.php (http://www.dhammathai.org/monk/monk46.php)

เรื่องพระปิลินทวัจฉะ เหาะและรู้วาระจิตผู้อื่นได้ แต่พอเจอพระพุทธเจ้าวิชาก็เสื่อม เลยขอบวชเพื่อจะเรียนวิชามหาคันธาระจากพระพุทธเจ้า
http://www.84000.org/one/1/41.html (http://www.84000.org/one/1/41.html)

พระพุทธเจ้าสั่งให้พระสาคตะแสดงฤทธิ์เพื่อยังพุทธบริษัทให้เกิดศรัทธา
http://84000.org/one/1/40.html (http://84000.org/one/1/40.html)

พระพุทธเจ้าบัญญัติพระวินัยเพื่อป้องกันไม่ให้ภิกษุอวดอุตริฯ เพื่อหวังลาภสักการะ อันจะเป็นสาเหตุให้ผู้คนเสื่อมศรัทธาหรือไม่เลื่อมใส
http://www.vinaya-mbu.moe.go.th//sec2book1/page111.htm (http://www.vinaya-mbu.moe.go.th//sec2book1/page111.htm)

พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
http://www.dhammathai.org/buddha/g73.php (http://www.dhammathai.org/buddha/g73.php)

ปล.สรุปแล้วก็คือขึ้นอยู่ที่ "เจตนา" นั่นเองครับ แสดงฤทธิ์เพื่อทำให้คนเกิดศรัทธา หรือ เป็นกุศโลบายเพื่อให้คนทำบุญให้ทานหรือทำความดี กับ แสดงฤทธิ์เพื่อหวังลาภสักการะนั้น แตกต่างกันครับ


ที่มา เว็บพลังจิต โพสต์โดยคุณwiit
ขอบคุณภาพจาก www.bloggang.com (http://www.bloggang.com)