สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 08, 2011, 10:27:26 am



หัวข้อ: อันซีน“วัดเทพธิดาราม”…งดงาม“หอไตร” มรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 08, 2011, 10:27:26 am

อันซีน“วัดเทพธิดาราม”…งดงาม“หอไตร” มรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

วัดเทพธิดาราม
หลายคนคงรู้ข่าวว่า เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา องค์การยูเนสโกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้ประกาศยกย่องรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2011 จำนวน 9 แห่ง ผลปรากฏว่า มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยได้รับรางวัล 3 รางวัล หนึ่งในนั้นได้แก่ “หอไตร” วัดเทพธิดาราม กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ดีเด่น

วันนี้ฉันจึงกลับมาเยือน “วัดเทพธิดารามวรวิหาร”อีกครั้ง เพื่อสัมผัสชื่นชมในมรดกวัฒนธรรมระดับโลกอันทรงคุณค่าแห่งใหม่ล่าสุดนี้


(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378902.JPEG)
หอไตร ที่ได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ดีเด่นจากยูเนสโก

สำหรับวัดเทพธิดาราม หากเข้าประตูแรกทางด้านซอยสำราญราษฎร์ ด้านซ้ายมือเราจะเจอประตูคณะ 5 และหากมองเข้าไปด้านซ้ายมือก็จะเจอกับ “หอไตร” ที่ดูสวยสดงดงาม มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณีที่มีลักษณะการตกแต่งอิทธิพลจีนตามแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3

ลักษณะอาคารเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ใต้ถุนสูง กว้าง 6.50 เมตร สูง 10 เมตร ปิดทอง ล่องชาด มีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันปิดทองประดับกระจกสี มีงานศิลปะลายรดน้ำที่มีอยู่ทุกบานประตู และหน้าต่าง สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระคัมภีร์ใบลาน ซึ่งจารึกพระไตรปิฎกและคัมภีร์อื่นๆ ภายในหอไตร มีตู้พระไตรปิฎกทรงโบราณ กว้าง 1.75 เมตร ยาว 1.70 เมตร สูง 2 เมตร ขาตู้เป็นลักษณะเท้าสิงห์

ทั้งนี้ทางกรมศิลปากรได้วางแนวทางการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของกรมศิลปากร โดยเน้นการปฏิสังขรณ์ ดูแล ร่วมกับชุมชน สำหรับ “หอไตร” วัดเทพธิดาราม ได้รับความร่วมมือกับชาวบ้านในการดูแลหอไตร ในด้านอนุรักษ์เป็นฝีมือช่างแบบดั้งเดิม และมีการดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมศึกษาทุกวัน


หอไตรมีสถาปัตยกรรมแบบไทยจีน
นอกจากหอไตรแล้ว ที่วัดเทพธิดารามแห่งนี้ยังมีโบราณสถานที่น่ายลอีกเพียบ แต่ก่อนจะไปลุยกันต่อฉันขอเล่าถึงความเป็นมาของวัดเทพธิดารามกันสักหน่อย โดยวัดแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2379 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงวิลาส พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ (กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ)

การก่อสร้างพระอารามนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระองค์เจ้าชายลดาวัลย์) เป็นแม่กองอำนวยการสร้างในตำบลสวนหลวงพระยาไกร และแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2382 รัชกาลที่ 3 ได้เสด็จพระราชดำเนินผูกพัทธสีมาด้วยพระองค์เอง พร้อมพระราชทานนามว่า “วัดเทพธิดาราม”


รอบพระวิหารมีพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
ส่วนลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้ เป็นศิลปะในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน เนื่องจากสังคมในสมัยนั้นมีการติดต่อค้าขายกับจีนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้รับเอาศิลปวัฒนธรรมจีนเข้ามามีบทบาทในสถาปัตยกรรมไทย รูปแบบสถาปัตยกรรมจึงเป็นอาคารแบบไม่มีช่อฟ้า ใบระกา แบบวัดในช่วงสมัยอื่น

รวมถึงเครื่องประดับพระอารามที่เป็นตุ๊กตาจีนสลักหิน มีทั้งรูปคนและสัตว์ ตุ๊กตารูปคนบางตัวมีลักษณะท่าทางและการแต่งกายแบบจีน บางตัวแต่งกายแบบไทย แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตุ๊กตาจีนที่วัดแห่งนี้ส่วนมากจะสลักเป็นผู้หญิงในลักษณะต่างๆ


หมู่ภิกษุณีประดิษฐานหน้าพระประธานในพระวิหาร
เมื่อรู้จักวัดเทพธิดาราม และชมความงามของหอไตร มรดกทางวัฒนธรรมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกันแล้ว ฉันขอพาไปชม “หมู่ภิกษุณี” แห่งเดียวในไทยกันที่พระวิหาร ซึ่งถือเป็นอันซีนอันน่าสนใจยิ่งแห่งวัดเทพธิดาราม

หมู่ภิกษุณี หรือนักบวชหญิงในพระพุทธศาสนานี้ เป็นรูปหล่อลงรักปิดทอง ประดิษฐานบนแท่นหินอ่อนหน้าพระพุทธปฏิมาประธานในพระวิหาร จำนวน 52 องค์ นั่ง 49 องค์ ยืน 3 องค์ อยู่ในอิริยาบถต่างๆ หลากหลายท่า มีทั้งท่านั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรม ฉันหมาก สูบยา ยืนไหว้ นั่งพนมมือ


(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378906.JPEG)
หมู่ภิกษุณี 52 องค์ในอิริยาบทต่างๆ

โดยหมู่ภิกษุณีเหล่านี้ มีประวัติเล่าไว้ว่า ในสมัยพุทธกาล แรกเริ่มเดิมทีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้มีภิกษุณีได้ ต่อมาพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ผู้เป็นพระน้านางและพระมาตุจฉา หรือพระมารดาเลี้ยงของพระองค์เอง ได้มีศรัทธาอยากออกบวชจึงทูลขอบวชต่อพระพุทธเจ้าถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล

จนกระทั่งพระอานนท์ได้ทูลขอให้ พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาต โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องรับเอาครุธรรมแปดประการ (แปลว่าข้อปฏิบัติที่หนักและทำได้ยาก) ไปปฏิบัติ จึงได้กำเนิดภิกษุณีองค์แรก คือ พระมหาปชาบดีโคตรมีเถรี นั่นเอง สันนิษฐานว่า ภิกษุณีองค์ที่มีลักษณะท่านั่งคล้ายพระพุทธองค์ ปางมารวิชัย คือ พระมหาปชาบดีโคตรมีเถรี


(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378907.JPEG)
หลวงพ่อขาว พระประธานในพระอุโบสถ

จากพระวิหาร ฉันขอไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถกันบ้าง โดยภายในพระอุโบสถมี “หลวงพ่อขาว” ประดิษฐานบนบุษบก เป็นพระประธานปางมารวิชัย สลักด้วยศิลาขาวบริสุทธิ์ หน้าตักกว้าง 15 นิ้ว สูง 21 นิ้ว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงถวายพระนามว่า “พระพุทธเทววิลาส”

(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378908.JPEG)
พระอุโบสถศิลปะแบบจีน

ส่วนรอบนอกพระอุโบสถ ทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐาน “องค์พระปรางค์” ที่ฐานพระปรางค์แต่ละองค์มีรูปท้าวจตุโลกบาล คือท้าวกุเวร ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก และท้าววิรุฬปักข์ ประจำรักษาในทิศทั้ง 4 อาคารอีกหลังที่สำคัญก็คือ “ศาลาการเปรียญ” เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะใกล้เคียงกันกับพระอุโบสถและพระวิหาร แต่ไม่มีการทำระเบียงรอบ

(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378909.JPEG)
ศาลาการเปรียญ

นอกจากนี้ วัดเทพธิดารามยังมีความสัมพันธ์กับกวีเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ คือ พระศรีสุนทรโวหาร(ภู่) หรือรู้จักกันในนามว่า “สุนทรภู่” ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านได้อุปสมบทและจำพรรษาที่พระอารามนี้ระหว่าง พ.ศ. 2382-2385 ซึ่งได้รับพระอุปถัมภ์จากพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพตลอดมา

สุนทรภู่ได้สร้างงานประพันธ์ไว้เป็นจำนวนมาก ในบรรดางานเหล่านี้ เรื่องที่เกี่ยวกับวัดเทพธิดารามมากที่สุดคือ “รำพันพิลาป” ท่านได้พรรณนาให้เห็นลักษณะปูชนียสถาน ปูชนียวัตถุ และความงามของพระอารามในสมัยนั้นอย่างละเอียด รวมทั้งได้กล่าวถึง หอพระไตรปิฎก ไว้ด้วย


(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378910.JPEG)
ตุ๊กตาสลักผู้หญิง

ใครที่อยากชมหอไตร มรดกทางวัฒนธรรมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หมู่ภิกษุณี และศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็มาชมกันได้ที่ “วัดเทพธิดาราม” แห่งนี้ ชาวต่างชาติยังเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมของไทย เราเป็นคนไทยก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์และสืบสานมรดกอันทรงคุณค่าให้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป

(http://pics.manager.co.th/Images/554000013378911.JPEG)
ส่วนของกุฏิสุนทรภู่
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

วัดเทพธิดาราม ตั้งอยู่ที่ ริมถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-2225-7425, 0-2222-3046-7

อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Travel/View...=9540000126261 (http://www.manager.co.th/Travel/View...=9540000126261)
http://board.palungjit.com/f76/ (http://board.palungjit.com/f76/)อันซีน“วัดเทพธิดาราม”…งดงาม“หอไตร”-มรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า-308666.html
ขอบคุณภาพจาก http://pics.manager.co.th (http://pics.manager.co.th)