สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: kittisak ที่ เมษายน 23, 2010, 05:13:20 am



หัวข้อ: หนทางแห่งความเสื่อม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ เมษายน 23, 2010, 05:13:20 am
ผมเคยได้ยิน มาว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงเรื่องหนทางแห่งความเสื่อม

แต่ผมก็จำเนื้ัอหาไม่ได้ทั้งหมด อยู่พระสูตรเล่มไหนก็ไม่ทราบ ลองเสริร์ช ดูก็ไม่ก้าวหน้า

คงต้องพึ่ง คุณปุ้ม อีกแล้ว

 :25:


หัวข้อ: Re: หนทางแห่งความเสื่อม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 05, 2010, 08:44:33 pm
ความเสื่อมที่เลวร้าย ความเจริญที่เป็นยอด

              " ความเสื่อมจากญาติ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือ ความเสื่อมจาก ปัญญา"

              " ความเจริญด้วยญาติ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วยปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

              " ความเสื่อมจากโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือความเสื่อมจาก ปัญญา

              " ความเจริญด้วยโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"

              " ความเสื่อมจากยศ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย คือความเสื่อมจาก ปัญญา"

              " ความเจริญด้วยยศ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ(ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.


ที่มา
เอกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๑๗,๑๘
พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ


หัวข้อ: Re: หนทางแห่งความเสื่อม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 05, 2010, 08:51:51 pm
เหตุให้พระธรรมวินัยเสื่อม

    ปัญหา มีบางคนกล่าวว่า การมีกฎหมายหรือระเบียบกฎเกณฑ์ มาก ๆ นั้น แสดงว่าศีลธรรมของชุมนุมชนนั้นเสื่อมลง จริงหรือไม่ ? พระผู้มีพระภาคตรัสไว้อย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?

พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภัททาลิ ข้อนี้เป็นจริงอย่างนั้น เมื่อสัตว์ทั้งหลายกำลังเสื่อม พระสัทธรรมกำลังอันตรธาน สิกขาบทมีอยู่มากมาย แต่ภิกษุดำรงอยู่ในอรหัตตผลน้อยนัก พระศาสดายังไม่ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย

ตราบเท่าที่อาสวัฏฐานิยธรรม (ธรรมอันก่อให้เกิดอาสวะ) บางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในธรรมวินัยนี้ ต่อเมื่อใดอาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่าปรากฏขึ้นในสงฆ์ในธรรมวินัยนี้

เมื่อนั้นพระศาสดาจึงทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดอาสวัฏฐานิยธรรมเหล่านั้น อาสวัฏฐานิยธรรมธรรมบางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในพระธรรมวินัยนี้ ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่ถึงความเห็นหมู่ใหญ่..... อาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่ายังไม่ปรากฏในสงฆ์ในพระธรรมวินัยนี้

ตราบเท่าที่สงฆ์ยังไม่ถึงความเป็นผู้เลิศ ด้วยลาภ....
ยังไม่ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ.......
ยังไม่ถึงความเป็นพหูสูตร.....
ยังไม่ถึงความเป็นรัตตัญญู

ต่อเมื่อใดสงฆ์ถึงความเป็นรัตตัญญู เมื่อนั้นอาสวัฏฐานิยธรรมบางเหล่าจึงปรากฏในสงฆ์ ในธรรมวินัยนี้ ครั้งนั้นพระศาสดาจึงทรงบัญญัติสิกขาบทแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อกำจัดอาสวัฏฐานิยธรรมเหล่านั้น ฯ”


ที่มา
ภัททาลิสูตร ม. ม. (๑๗๒)
ตบ. ๑๓ : ๑๗๔-๑๗๕ ตท.๑๓ : ๑๕๒-๑๕๓
ตอ. MLS. II : ๑๑๖-๑๑๗
http://www.84000.org/true/044.html (http://www.84000.org/true/044.html)

------------------------------------------------------------------ 


ไม่ทราบคุณกิติศักดิื  ต้องการทราบข้อธรรมนี้รึเปล่า

 คำถามของคุณกิติศักดิ์กว้างไปนิด ติชมได้นะครับ

 ขอให้ธรรมคุ้มครอง
:25:


หัวข้อ: Re: หนทางแห่งความเสื่อม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: TCnapa ที่ พฤษภาคม 06, 2010, 12:12:33 am
 :c017:

ดิฉัน เคยสวดมนต์แปลเล่มสวนโมกขพลาราม คะ มีอยู่หน้าสุดท้าย

ชื่อว่า ปราภวสูตร เป็นสูตรว่าด้วยเรื่องแห่งความเสื่อมค่ะ

ไม่รู้จะใช่บทนี้หรือป่าว คะ


หัวข้อ: ความเสื่อม ๑๒ ประการ ให้เครดิต "แม่หญิงนภา"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 06, 2010, 08:34:00 pm

ปราภวสูตรที่ ๖

             [๓๐๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามสิ้น
ไปแล้ว เทวดาตนหนึ่งมีรัศมีอันงดงามยิ่ง ทำพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ยืนอยู่ ณ
ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

             [๓๐๔]    ข้าพระองค์มา เพื่อจะทูลถามถึงคนผู้เสื่อม และคนผู้เจริญ
                          กะท่านพระโคดม จึงขอทูลถามว่าอะไรเป็นทางของคน
                          เสื่อม ฯ

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า

                          ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ
                          ผู้เกลียดธรรมเป็นผู้เสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัด
                          ข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๒
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนมีอสัตบุรุษเป็นที่รัก ไม่กระทำสัตบุรุษให้เป็นที่รัก ชอบใจ
                          ธรรมของอสัตบุรุษ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุ
                          นั้นแล เราจงทราบข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๒ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๓
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่น เกียจคร้าน โกรธง่าย
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๓ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๔
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่า ผ่านวัย
                          หนุ่มสาวไปแล้ว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุ
                          นั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๔ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๕
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดลวงสมณะพราหมณ์ หรือแม้วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๕ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๖
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนมีทรัพย์มาก มีเงินทองของกิน กินของอร่อยแต่ผู้เดียว
                          ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบ
                          ชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๖ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๗
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดหยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะทรัพย์ และหยิ่งเพราะโคตร
                          ย่อมดูหมิ่นญาติของตน ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะ
                          เหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๗ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๘
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดเป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา และเป็นนักเลง
                          การพนันผลาญทรัพย์ที่ตนหามาได้ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อม
                          นั้นเป็นที่ ๘ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๙
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ประทุษร้ายในภริยาของคนอื่น
                          เหมือนประทุษร้ายในหญิงแพศยา ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อม
                          นั้นเป็นที่ ๙ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๐
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยา ย่อมนอนไม่หลับ เพราะ
                          ความหึงหวงหญิงรุ่นสาวนั้น ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
                          เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้น
                          เป็นที่ ๑๐ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๑
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย หรือแม้ชาย เช่นนั้นไว้ในความ
                          เป็นใหญ่ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม เพราะเหตุนั้น
                          เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๑ ฯ

                          ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๒
                          อะไรเป็นทางของคนเสื่อม ฯ
                          ก็บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภคทรัพย์น้อย มีความมักใหญ่
                          ปรารถนาราชสมบัติ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม บัณฑิตผู้ถึง
                          พร้อมด้วยความเห็นอันประเสริฐ พิจารณาเห็นคนเหล่านี้
                          เป็นผู้เสื่อมในโลก ท่านย่อมคบโลกที่เกษม (คนผู้เจริญ) ฯ

                                            จบปราภวสูตรที่ ๖


             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  บรรทัดที่ ๗๒๑๘ - ๗๒๙๑.  หน้าที่  ๓๑๖ - ๓๑๙.
 http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=7218&Z=7291&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=25&A=7218&Z=7291&pagebreak=0)

-----------------------------------------

แม่หญิงนภา เก่งมากๆ เอาไป ๑๐๐ คะแนนเต็มครับ
 :s_good: :25:


หัวข้อ: Re: หนทางแห่งความเสื่อม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: TCnapa ที่ พฤษภาคม 08, 2010, 09:20:09 pm
 :08: :25: :25: :25: