สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ธรรมะสาระ => สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 01, 2011, 02:18:17 pm



หัวข้อ: ปรารภความเพียร คือ อะไร
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 01, 2011, 02:18:17 pm
พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์


พระสุตตันตปิฎก  มัชฌิมนิกาย  มูลปัณณาสก์  [๑.  มูลปริยายวรรค]
๔.  ภยเภรวสูตร


{๔๑} [๔๕] พราหมณ์ เรานั้นได้มีความดำริว่า ‘สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นผู้เกียจคร้าน ปราศจากความเพียร เข้าอาศัยเสนาสนะอันเงียบสงัด คือ ป่าโปร่งและป่าทึบ สมณะหรือพราหมณ์ผู้เจริญเหล่านั้น ย่อมประสบความกลัว และความขลาดอันเป็นอกุศล เพราะเหตุแห่งโทษของตนคือความเป็นผู้เกียจคร้าน ปราศจากความเพียร

ส่วนเรามิใช่เป็นผู้เกียจคร้าน มิใช่ปราศจากความเพียร เข้าอาศัยเสนาสนะอันเงียบสงัด คือ ป่าโปร่งและป่าทึบ   เราเป็นผู้ปรารภความเพียร(๑) พระอริยะเหล่าใดเป็นผู้ปรารภความเพียร เข้าอาศัยเสนาสนะอันเงียบสงัดคือป่าโปร่งและป่าทึบ เราเป็นผู้หนึ่งในบรรดาพระอริยะเหล่านั้น’

 


เชิงอรรถ

(๑) ปรารภความพียร ในที่นี้หมายถึง มีความเพียรที่บริบูรณ์  และมีความเพียรที่ประคับประคองไว้สม่ำเสมอไม่หย่อนนัก  ไม่ตึงนัก  ไม่ให้จิตปรุงแต่งภายใน  ไม่ให้ฟุ้งซ่านภายนอก

คำว่า  ความเพียร  ในที่นี้หมายเอาทั้ง  ความเพียรทางกาย  เช่น  เพียรพยายามทางกายตลอดคืนและวัน  ดุจในประโยคว่า  “ภิกษุในธรรมวินัยนี้ชำระจิตให้บริสุทธิ์จากธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุความดีด้วยการเดินจงกรม  ด้วยการนั่งตลอดวัน”  (อภิ.วิ.(แปล)๓๕/๕๑๙/๓๙๑)

และ ความเพียรทางจิต  เช่น  เพียรพยายามผูกจิตไว้ด้วยการกำหนดสถานที่ เป็นต้น  ดุจในประโยคว่า “เราจะไม่ออกจากถ้ำนี้จนกว่าจิตของเราจะหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน”(องฺ.เอกก.อ.  ๑/๑๘/๔๓)

   

ที่มา โปรแกรมตรวจค้นพระไตรปิฎก (E-tipitaka 2.1)


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ 
พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒ วิภังคปกรณ์
สุตตันตภาชนีย์
มาติกานิเทศ


[๖๐๙] ก็ภิกษุเป็นผู้ประกอบความเพียรตลอดปฐมยามและปัจฉิมยามเป็นอย่างไร

     ภิกษุในศาสนานี้ ชำระจิตให้หมดจด จากธรรมที่กั้นกางจิตไม่ให้บรรลุความดี ด้วยการเดินจงกรม ด้วยการนั่ง ตลอดวัน
     ชำระจิตให้หมดจดจากธรรมที่กั้นกางจิตไม่ให้บรรลุความดี ด้วยการเดินจงกรม ด้วยการนั่ง ตลอดปฐมยามแห่งราตรี

     สำเร็จสีหไสยาสน์ โดยนอนตะแคงขวา วางเท้าซ้อนกัน มีสติสัมปชัญญะ
     ทำสัญญาในการลุกขึ้นไว้ในใจ ตลอดมัชฌิมยามแห่งราตรี
     ลุกขึ้นชำระจิตให้หมดจดจากธรรมที่กั้นกางจิตไม่ให้บรรลุความดี ด้วยการเดินจงกรมด้วยการนั่ง ตลอดปัจฉิมยามแห่งราตรี

     ด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ประกอบความเพียรตลอดปฐมยามและปัจฉิมยาม


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=7871&Z=8548 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=7871&Z=8548)


หัวข้อ: Re: ปรารภความเพียร คือ อะไร
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 06:05:12 am

(http://www.dmc.tv/images/dhamma_for_people/mahajanaka/13/mahajanaka13-05.jpg)

๒๓.  วิริยวรรค  คือ  หมวดเพียร

๔๑๑. กาลาคตญฺจ  น  หาเปติ  อตฺถํ
คนขยัน  ย่อมไม่พร่าประโยชน์ซึ่งถึงตามกาล.
ขุ.  ชา.  ฉกฺก.  ๒๗/๑๙๕.

๔๑๒. วิริเยน  ทุกฺขมจฺเจติ.
คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร.

ขุ.  สุ.  ๒๕/๓๖๑.

๔๑๓. ปฏิรูปการี  ธุรวา  อุฏฺฐาตา  วินฺทเต  ธนํ.
คนมีธุระหมั่นทำการงานให้เหมาะเจาะ  ย่อมหาทรัพย์ได้.
สํ.  ส.  ๑๕/๓๑๖.  ขุ.  สุ.  ๒๕/๓๖๑.

๔๑๔. อกิลาสุ  วินฺเท  หทยสฺส  สนฺตึ.
คนไม่เกียจคร้าน  พึงได้ความสงบใจ.
ขุ.  ชา.  เอก.  ๒๗/๑.

๔๑๕. น  นิพฺพินฺทิยการิสฺส  สมฺมทตฺโถ  วิปจฺจติ.           
ประโยชน์ย่อมไม่สำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยเบื่อหน่าย.
ขุ.  ชา.  จตฺตาฬีส.  ๒๗/๕๓๓.

๔๑๖. อนิพฺพินฺทิยการิสฺส    สมฺมทตฺโถ  วิปจฺจติ.
ประโยชน์ย่อมสำเร็จโดยชอบแก่ผู้ทำโดยไม่เบื่อหน่าย.
ขุ.  ชา.  จตฺตาฬีส.  ๒๗/๕๓๓.

(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2009/03/e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8a1e0b8abe0b8b2e0b88ae0b899e0b881.jpg)

๔๑๗. อถ  ปจฺฉา  กุรุเต  โยคํ  กิจฺเจ  อาวาสุ  สีทติ.
ถ้าทำความเพียรในกิจการล้าหลัง  จะจมอยู่ในวิบัติ.
ขุ.  ชา.  วีส.  ๒๗/๔๓๔.

๔๑๘. หิยฺโยติ  หิยฺยติ  โปโส    ปเรติ  ปริหายติ.
คนที่ผัดวันว่าพรุ่งนี้  ย่อมเสื่อม  ยิ่งว่ามะรืนนี้  ก็ยิ่งเสื่อม
.
ขุ.  ชา.  วีส.  ๒๗/๔๖๖.

๔๑๙. อชฺเชว  กิจฺจมาตปฺปํ.
ควรรีบทำความเพียรในวันนี้.
ม.  อุป.  ๑๔/๓๔๘.  ขุ.  ชา.  มหา.  ๒๘/๑๖๕.

๔๒๐. วายเมเถว  ปุริโส    ยาว  อตฺถสฺส  นิปฺปทา.
บุรุษพึงพยายามไปกว่าจะสำเร็จประโยชน์.
สํ.  ส.  ๑๕/๓๓๐.

๔๒๑. กเรยฺย  โยคฺคํ  ธุวมปฺปมตฺโต.
ผู้ไม่ประมาท  ควรทำความเพียรให้แน่วแน่.
นัย-ขุ.  ชา.  ทุก.  ๒๗/๗๘.

๔๒๒. ยถา  ยถา  ยตฺถ  ลเภถ  อตฺถํ    ตถา  ตถา  ตตฺถ  ปรกฺกเมยฺย.           
พึงได้ประโยชน์ในที่ใด  ด้วยประการใดๆ  ควรบากบั่นในที่นั้น  ด้วยประการนั้น ๆ.
องฺ.  ปญฺจก.  ๒๒/๗๐.  ขุ.  ชา.  ปญฺจก.  ๒๗/๑๘๐.

ที่มา http://dhammasound.multiply.com/journal/item/15 (http://dhammasound.multiply.com/journal/item/15)
ขอบคุณภาพจาก http://www.dmc.tv/,http://www.chaoprayanews.com/ (http://www.dmc.tv/,http://www.chaoprayanews.com/)


หัวข้อ: ภัทเทกรัตตคาถา ว่าด้วยเรื่องความเพียร
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤศจิกายน 02, 2011, 08:51:36 am
ภัทเทกรัตตคาถา

อะตีตัง  นานวาคะเมยยะ      นัปปะฏิกังเข  อะนาคะตัง
ยะทะตีตัมปะหีนันตัง             อัปปัตตัญจะ  อะนาคะตังฯ

    บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว   ด้วยอาลัย
    และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
   สิ่งที่เป็นอดีตก็ละไป    สิ่งที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มาฯ

ปัจจุปปันนัญจะ   โย   ธัมมัง     ตัตถะ  ตัตถะ   วิปัสสะติ
อะสังหิรัง  อะสังกุปปัง        ตัง   วิทธา  มะนุพรูหะเย ฯ

    ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าในที่นั้น ๆ   อย่างแจ่มแจ้ง
    ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน    เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้ ฯ

 อัชเชวะ  กิจจะมาตัปปัง      โก  ชัญญา   มะระณัง  สุเว
นะ  หิ  โน  สังคะรันเตนะ     มะหาเสเนนะ   มัจจุนา ฯ

   ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้     ใครจะรู้ความตาย  แม้พรุ่งนี้
    เพระการผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชซึ้งมีเสนามาก   ย่อมไม่มีสำหรับเรา ฯ


เอวังวิหาริมาตาปิง       อะโหรัตตังมะตันทิตัง
ตัง  เว  ภัทเทกะรัตโตติ    สันโต   อาจิกขะเต   มุนิฯ

    มุนีผู้สงบ  ย่อมกล่าวเรียก   ผู้มีความเพียรอยู่เช่นนั้น   ไม่เกียจคร้าน
    ทั้งกลางวัน กลางคืนว่า   ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว  ก็น่าชม ฯ


   เนื้อหาของความเพียร มิได้มีอยู่ในบุคคลที่ ไม่เคยเข้าใจหลักธรรม หรือ ปุถุุชนทั่วไป
   การทำความเพียร เป็นลำดับของ โคตรภูบุคคล

   โคตรภูบุคคล คือบุคคลที่เห็นความเบื่อหน่าย ในสังสารวัฏ
   มีวิปัสสนาญาณ ถึง ขั้น นิพพิทาญาณ ถึงจักมีความเพียรอย่างไม่เกียจคร้าน
   บุคคลเช่นนี้ เรียกว่า มุนี (ผู้สงบ ) โดยสภาวะ

   การทำความเพียรจึงเป็นเรื่องลำบาก ของปุถุชน ไม่มีกำลังใจ ทำไม่ได้แน่ ๆ
   เพราะผู้ที่ทำความเพียรเช่นนี้ ต้องภาระทางโลก เว้นความอาลัย และ ไม่พะวง
   สิ่งที่จะเกิดขึ้น มุ่งมั่นภาวนา เพียงเป้าหมายเดียว คือ การพ้นจากสังสารวัฏ

   Aeva Debug: 0.0005 seconds.