หัวข้อ: ขับธิดามาร ตัณหา ราคา อรดี เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 03, 2011, 09:32:10 am ขับธิดามาร ตัณหา ราคา อรดี (http://download.buddha-thushaveiheard.com/images/All_page_04/Picture1-40/17_02.jpg) สัปดาห์ที่ ๕ เสด็จไปทางทิศบูรพาของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประทับนั่งสมาธิ ณ ใต้ต้นอชปาลนิโครธ (ต้นไทร) เป็นเวลาอีก ๗ วัน ในลำดับนั้นธิดาของพญาวสวัตดีมารทั้ง ๓ คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี อาสาที่จะทำให้พระพุทธองค์ตกอยู่ในอำนาจให้จงได้ จึงได้ทำการประเล้าประโลมด้วยวิธีการต่างๆ แต่ไม่สามารถจะทำให้น้ำพระทัยของพระองค์หวั่นไหวสั่นคลอนได้ ธิดาพญามารทั้ง ๓ จึงปรารภว่า “พญามารผู้เป็นบิดา กล่าวเตือนไว้ถูกต้องแล้ว พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีบุคคลผู้ใดในโลกจะชักนำไปสู่อำนาจแห่งตนได้โดยแท้ เพราะเป็นผู้ปราศจากกิเลสตัณหาโดยสิ้นแล้ว” แล้วพากันกลับไปสำนักแห่งพญามาร ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://download.buddha-thushaveiheard.com/images/All_page_04/html_1-40/SC_17.html (http://download.buddha-thushaveiheard.com/images/All_page_04/html_1-40/SC_17.html) http://www.youtube.com/watch?v=OdK4sswotbw# (http://www.youtube.com/watch?v=OdK4sswotbw#) หัวข้อ: พยาบาท วิหิงสา อรติ ปฏิฆะ ราคะ อัสมิมานะ ละไ้ด้อย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 03, 2011, 09:57:35 am (http://www.84000.org/tipitaka/picture/p28.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ๑๒ . มหาราหุโลวาทสูตร สูตรว่าด้วยการประทานโอวาทแก่พระราหุล สูตรใหญ่ ๑ . พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนาราม. ตรัสสอนพระราหุลในระหว่างที่ท่านตามเสด็จไปบิณฑบาตในเวลาเช้าว่า พึงพิจารณาเห็นรูปทุกชนิด ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบัน, ภายใน ภายนอก, หยาบละเอียด, เลว ดี, ไกล ใกล้ ว่ารูปทั้งหมดนั้น มิใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา. พระราหุลกลับจากที่นั้น นั่งคู้บัลลงก์ ( ขัดสมาธิ ) ณ โคนไม้ตันหนึ่ง ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า พระสารีบุตรเห็นเข้าจึงสอนให้เจริญอานาปาปานสติ ( สติกำหนดลมมหายใจเข้าออก). ในเวลาเย็นพระราหุลออกจากที่เร้น เข้าไปเฝ้ากราบทูลถามถึงวิธีเจริญอานาปานสติที่จะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก. ๒. พระผู้มีพระภาคตรัสสอนเรื่องรูปภายใน ( ร่างกาย ) ที่แข้นแข็ง มีผม ขน เป็นต้น ที่เรียกว่าธาติดินภายใน ตลอดจนธาตุน้ำ, ไฟ, ลม , อากาศ ทั้งภายนอกภายใน ให้เห็นเป็นแต่สักว่าธาตุ ไม่ใช่ของเรา เราไม่ได้เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา เมื่อเห็นตามเป็นจริงอย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายธาตุเหล่านั้น ทำจิตให้คลายกำหนด ( หรือความติดใจ ) ในธาตุเหล่านั้น ๓. ครั้นแล้วตรัสสอนให้เจริญภาวนา ( อบรมจิต ) เสมอด้วยธาตุแต่ละอย่าง ซึ่งผัสสะที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจเกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตตั้งอยู่ได้ โดยชี้ให้เห็นว่า ธาตุเหล่านั้นย่อมไม่แสดงอาการผิดปกติ เช่น เบื่อหน่าย เกลียดชังสิ่งสะอาดหรือสกปรกที่ทิ้งลงไปใส่หรือที่ธาตุเหล่านั้นฝ่านไป. ๔. ตรัสสอนให้เจริญ เมตตาภาวนา ( ไมตรีจิต คิดจะให้เป็นสุข ) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละพยาบาท ( ความคิดปองร้าย ) ได้ , กรุณาภาวนา ( เอ็นดู คิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ ) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละวิหิงสา ( การคิดเบียดเบียน ) ได้ , มุทิตาภาวนา ( พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละอรติ ( ความไม่ยินดีหรือริษยา ) ได้, อุเบกขาภาวนา ( วางใจเป็นกลาง ) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละปฎิฆะ ( ความขัดใจ ) ได้, ๘ . อสุภภาวนา เห็นความไม่งาม ) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละราคะ ( ความกำหนัดยินดี ) ได้, อนิจจสัญญาภาวนา ( กำหนดหมายสิ่งที่ไม่เที่ยง ) ซึ่งเป็นเหตุให้ละอัสมิมานะ ( ความถือตัวถือตนได้). ๕. ครั้นแล้วตรัสสอนวิธีเจริญสติกำหนดลมหายใจเข้าออกที่มีเหตุผลมาก มีอานิสงส์มาก ( แบบเดียวกับที่ตรัสไว้ในอานาปานบรรพ คือหมวดว่าด้วยลมหายใจเข้าออกในมหาสติปัฎฐาน ที่ย่อมาแล้วในพระสุตตันตะเล่ม ๒ หน้า ๔ อ้างอิง พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/5.2.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/5.2.html) ขอบคุณภาพจาก http://www.84000.org/,http://www.chanakarnthaiclassical.com/ (http://www.84000.org/,http://www.chanakarnthaiclassical.com/) (http://www.chanakarnthaiclassical.com/wp-content/uploads/2011/01/page9.jpg) อ่านรายละเอียดได้ที่ เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ บรรทัดที่ ๒๕๔๑ - ๒๖๘๑. หน้าที่ ๑๑๑ - ๑๑๖. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2541&Z=2681&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2541&Z=2681&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=133 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=133) |