สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

สำรวจเส้นทาง ธรรมสัญจร สายอิสาณ ครั้งนี้จะพาไปตะวันออก พาไปชมภาพบรรยากาศ ในที่ต่าง ๆ แต่เรื่องของภาพนั้น คงจะสู้ภาพจากกล้องโดยตรงไม่ได้ เพราะบันทึกภาพด้วยกล้องโทรศัพท์ มีขึดจำกัด มีภาพเสีย ( มัว ) เพราะแสงไม่พอเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะ ถ่ายได้ดีภายใต้วิสัย แสงที่มากเช่น ยามเที่ยง เป็นต้น

(http://www.madchima.net/images/494_isan623.jpg)
มุ่งเดินทาง สู่ตะวันออก ของ จ. สระบุรี  ในเวลา 12.00 น. ผ่านเข้าเมืองโคราช ไปสายหลัก เข้า บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ วารินชำราบ อุบลราชธานี มาถึงที่นี่ ก็ 19.30 น. แต่เป้าหมายปลายทาง คือ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม เป็นปลายทาง จึงต้องเดินทางต่อ เข้าพิบูลมังสาหาร และ ต่อไปยังโขงเจียม ไปถึงก็ 21.20 น. เติมน้ำมัน 2 ครั้ง 2,300 บาท รองเจ้าอาวาสให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

(http://www.madchima.net/images/433_isan627.jpg)
พอตี 5 ก็ลุกออกมาเก็บภาพ ยามเช้า แต่ภาพที่ถ่ายช่วง เสีย คือ ถ่ายแล้วมัว จึงทำให้เข้าใจเลยว่า กล้องโทรศัพท์นี้ไม่สามารถบันทึกภาพประเภทแสงต่ำได้ ในตอนเช้า พระท่านจะออกบิณฑบาตร เนื่องจากวัดถ้ำคูหาสวรรค์ นั้นอยู่บนเนินสูง พระต้องเดินลงบันไดไป ด้านล่าง เพื่อรับบิณฑบาตร ตามภาพ สังเกต จะเห็นพระอยู่ในภาพ


(http://www.madchima.net/images/597_isan619.jpg)
ก็จากมุมสูงของวัด ที่มี ทิวทัศน์ สวยงาม แต่เก็บภาพได้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ภาพนี้ดีที่สุดแล้ว ดังนั้นใครอยากเก็บภาพประทับใจ ใช้กล้องโทรศัพท์ นั้นเป็นเรื่องยากนะครับ

(http://www.madchima.net/images/194_isan629.jpg)
เนื่องด้วย เวลามีไม่มากจึงต้องเดินทางออกจากวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ในตอนเช้า เพียงได้เบอร์ไทรติดต่อที่พักอยู่แต่ยังไม่ได้คุยกับเจ้าของสถานที่ ลงจากวัดถ้ำคูหาสวรรค์ มาก็มุ่งไปที่วัดโขงเจียม เสน่ห์ของที่นี่มีหลายอย่าง

(http://www.madchima.net/images/774_isan630.jpg)
ที่วัดโขงเีจียมนั้น มีแม่น้ำมูลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ข้างวัดทำให้เกิดเห็นแม่น้ำเป็นสองสี ต้องไปดูเอานะจ๊ะ สีอะไรส่วนตัวยังไม่ได้พิจารณา จากวัดนั้นจะมีเรือบริการนักท่องเที่ยวข้ามแดนเพื่อไปยังฝั่งลาว ก็มีของขาย คล้าย ๆ กับอินโดจีน มุกดาหาร แต่จะน้อยกว่า ส่วนฝั่งไทยนั้นก็ไม่แตกต่างกัน

(http://www.madchima.net/images/218_isan631.jpg)
ถ้ามาถึงยามเช้า ก็สามารถเดินเล่นได้ และชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่นี่เช่นกัน ชาวบ้านที่นี่ อยู่กันอย่างเรียบง่ายตามวิถีชีวิตชาวไทยลาว เดินไปทางไหน ก็จะเห็นผู้คน กำลังนั่งรอพระสงฆ์เพื่อจะใส่บาตรกัน

(http://www.madchima.net/images/793_isan632.jpg)
คนโขงเจียม เป็นชาวพุทธที่รักษาวัฒนธรรม อย่างดีหลังจากใส่บาตรพระแล้ว ก็จะเดินทางมาที่วัดเพื่อมาสวดมนต์ในระหว่างที่พระนั่งฉันอาหาร กันบรรยากาศเป้นไปด้วยความสงบ เรียบง่าย

(http://www.madchima.net/images/888_isan633.jpg)
ชมภาพกันไปก่อนนะครับ เพราะเดี๋ยวจะกำหนดวันเดินทาง ต้องถามสมาชิกดูก่อนใครอยากไปบ้าง

(http://www.madchima.net/images/983_isan633.jpg)
ก็เป็นภาพถ่ายบริเวณ วัดโขงเจียม นะครับ ภาพถ่ายโดย คุณ nathaponson

(http://www.madchima.net/images/266_isan631.jpg)
เอ้อลืมบอกไป ว่าที่นี่สามารถชม บั้งไฟพญานาคได้ด้วยนะครับ และบริเวณใกล้เคียงตรงนี้มีสถานที่เที่ยวที่สำคัญ
เช่น เขื่อนสิรินธร ประตูปากน้ำมูล แก่งตะนะ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเสาร์ ช่องแม็ก สะพานชายแดน ไทยลาว

(http://www.madchima.net/images/614_isan635.jpg)
ออกเดินทางต่อ จากโขงเจียม มุ่งสู่จุดชมทิวทัศน์ที่สำคัญของ โขงเจียม คือ ผาแต้ม เส้นทางไปผาแต้มนั้นถือว่าถนนนั้นดีมาก ๆ ตามภาพ จากโขงเจียม สู่ผาแต้ม 14 ก.ม. หรือใครอยากจะนั่งเรือมาก็ได้ นะครับ

(http://www.madchima.net/images/145_isan638.jpg)
เมื่อจะเข้าสู่ผาแต้ม ต้องผ่านด่านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งจะต้องเสียค่าบำรุง ให้กับทางราชการด้วยนะครับ ซึ่งราคานั้นไม่ทราบเนื่องด้วย มากับพระจึงผ่านเข้าฟรีครับ จากด่านเข้ามาประมาณ 3 กม. จุดที่นักถ่ายรูปจะต้องจอดรถกันเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก็คื เสาเฉลียง

(http://www.madchima.net/images/218_isan639.jpg)
ตอนที่ถ่ายนี้ ก็ 8.17 น. ก็แดดกำลังพอดีไม่ร้อนมาก และมาช่วงหน้าหนาวจึงไม่ร้อนมาก

(http://www.madchima.net/images/439_isan641.jpg)
จากนั้นขับรถเข้าไปสุดเขต ก็จะเป็นเรือนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คนมาเที่ยวกันมาก ต้องจอดรถบนลานหิน รถที่เข้าจอดต้องทำใจนะครับเป็นลานหินนะครับ ลดโหลดเตี้ยต่ำเข้าไปจอดไม่ได้ จอดรถแล้วก็ต้องเดินกันอีกประมาณ 300 เมตรนะครับเพื่อไปยังผาแต้ม


(http://www.madchima.net/images/417_isan640.jpg)
ทิวทัศน์บริเวณผาแต้ม โดยรวมแล้วนับว่าให้ความสบายใจ เหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งที่วางเรื่องวุ่น พักใจให้สงบได้ โดยมีธรรมชาติเป็นเพื่อน กันนะครับที่นี่

(http://www.madchima.net/images/363_isan642.jpg)
แนะนำเดินลงมาอีก 25 เมตรเพื่อมาชมวิวใต้ผาแต้ม

(http://www.madchima.net/images/345_isan643.jpg)
มองออกไปด้านตรงข้ามผาแต้ม ก็จะเป็นขุนเขาฝั่งประเทศลาว

(http://www.madchima.net/images/261_isan644.jpg)
ภาพที่ได้ชม ก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่พอบันทึกมาได้จากกล้องโทรศัพท์ นะครับ

(http://www.madchima.net/images/451_isan645.jpg)
สำหรับผาแต้ม Unseen จะอยู่ด้านล่างผา ต้องเดินลงไปสำรวจซึ่งมีทางบันไดให้เดินลงไปชมภาพเขียนที่ฝาผนังผา ซึ่งมีอายุมากว่า 2000 ปีด้านล่าง ใครนึกไม่ออกก็ไปชม วีดีโอ ส่วนนี้ได้นะครับ เดินลงไปก็ไม่ค่อยเหนื่อยนะครับ แต่จะเหนื่อยตอนขึ้นมานี่สิ จะเหนื่อยมาก ทางเดินด้านล่างถ้าเดินไปตามเรื่อย ๆ ก็ประมาณ 5 กม.ไปออกผาหม่อน ได้นะครับ และไปจุดชมวิวน้ำตก ต่าง ๆ ได้ด้วย

ยังมีภาพ และ รายงาน ต่อ อีกหลายตอนและภาพ อีกเป็นจำนวนมาก

ใจเย็น ๆ นะครับ เพราะว่าภาพต้อง บีบอัดให้เเหมาะสมก้บเว็บครับ ต้องใช้เวลา หน่อย

ติดตามตอนต่อไป นะครับ

 

(http://www.madchima.net/images/421_isan659.jpg)
จากผาแต้ม ไปสู่เส้นทางธรรม ต่อไปนะครับ ทางทีมก็ออกเดินทางจากผาแต้ม ด้วยเส้นทาง โขงเจียม เขมราฐ
เพื่อไปเยี่ยมเยียน สถานแดนธรรม ต่อไป

(http://www.madchima.net/images/910_isan658.jpg)
ใช้เวลาประมาณ 35 กม. จากผาแต้มก็มาถึง ลานจอดรถ ผาชนะได ใครอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ต้องไปตั้งแคมป์ก้นภายในซึ่งต้องใช้รถประเภทวิบาก หน่อย หรือ เดินเท้าเข้าไปนะครับ แต่ต้องจุดลานจอดรถนี้ มีสถานที่ สัปปายะ เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ อยู่ด้านซ้ายมือ รถกระบะวิ่งเข้าไปได้ครับ กับ ถ้ำปาฏิหาริย์

(http://www.madchima.net/images/144_isan654.jpg)
ที่นี่เป็นถ้าจริง ๆ นะครับไม่ใช่เพิงอย่างที่เราไปชมมา ทางลงถ้ามีพญานาค เป็นราวบันไดลงไป ในถ้ามืดและลึก อากาศดีมา ต้นไม้ ร่มรื่นอากาศสบาย ๆ เช่นเขาใหญ่ ปากช่อง

(http://www.madchima.net/images/815_isan653.jpg)
เดินลงไปถ้าไม่มีไฟฉาย ก็ไปต่อกันไม่ได้นะครับ ดูจากภาพ กันเอาเองก็แล้วกัน สำหรับถ้ำนี้จะมีน้ำไหลผ่านด้านข้างถ้าเข้าไปข้างในถ้ำ จะได้ยินเีสียงน้ำไหล มีผู้กล่าวว่า ถ้ำนี้สามารถเดินไปทะลุออกที่ชายฝั่งโขงได้ ใครจะพิสูจน์ก็เชิญนะครับ

(http://www.madchima.net/images/800_isan646.jpg)
ติดต่อเ้จ้าของสถานที่ เพื่อแจ้งให้ทราบ ก็ได้รับการต้อนรับด้วยดี

(http://www.madchima.net/images/654_isan657.jpg)
สำหรับผู้ดูแล ท่านให้เรียก คุณแม่ย่า นะครับ

(http://www.madchima.net/images/994_isan647.jpg)
ที่ถ้ำปาฏิหาริย์ นั้น ถ้าเราเดินทางเข้าไปที่ผาชนะได นั้นจะเห็น เจดีย์ สีทองเหลืองอร่ามสวยงามแต่ไกล

(http://www.madchima.net/images/130_isan648.jpg)
ในเจดีย์ นี้มีศิลปกรรรมงดงาม ต้องไปดูเองนะจ๊ะ อากาศเย็นสบาย แต่ตั้งเด่นอยู่ที่ลานหิน ก็จะดูจ้า ๆ ซึ่งมีบรรยากาศแตกต่างจาก บริเวณถ้าเป็นอย่างมาก เพราะในบริเวณถ้ำห่างกันแค่ 50 เมตรร่มรื่นเย็นสบาย

(http://www.madchima.net/images/253_isan649.jpg)
ถ้ดจากบริเวณสถูปเจดีย์ นั้นก็จะมีหลวงพ่อองค์ 3 องค์ มองออกไปที่ทางพระอาทิตย์ขึ้นนะจ๊ะ หลวงพ่อนี้สูงประมาณ 7 เมตร หน้าตักประมาณ 3 - 4 เมตร จะมองเห็นเ่ด่นมาก


(http://www.madchima.net/images/337_isan650.jpg)
ก็นับได้ว่าเป็นสถานที่ นักภาวนา แสวงบุญน่าไปเยี่ยมเยือนอีกสถานที่หนึ่ง นะครับ

(http://www.madchima.net/images/123_isan660.jpg)
ขากลับจากวัดถ้าำปาฏิหาริย์ ก็ลองแวะเข้าไปเยี่ยม วัดถ้ำภูอานนท์ ( ธ ) ซึ่งวันที่เข้าไปทางวัด ซึ่งเป็นสาขาของวัดเขาสุกิม จันทบุรี นั้นได้สร้างสถูป เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในวันที่ 4 ธ.ค.55 วันอาทิตย์

(http://www.madchima.net/images/131_isan662.jpg)
สถูปนี้อยู่ด้านหน้าศาลา ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา

(http://www.madchima.net/images/340_isan661.jpg)
มองจากสถูปกลับมา ก็จะเห็นศาลาอย่างในภาพ

(http://www.madchima.net/images/984_isan663.jpg)
ส่วนทางด้านขวาของสถูป ก็เป็น unseen ของวัด กลับสะพานปูนที่เชื่อม เขา บริเวณปฏิบัติธรรมส่วนหน้า กับที่พักสงฆ์ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 800 เมตร ( โดยประมาณ )

(http://www.madchima.net/images/597_isan664.jpg)
ไปยืนบนสะพาน ชมทิวทัศน์ด้านล่าง ก็มีความงามตามธรรมชาติ ด้านล่างจะเป็นธารน้ำ

(http://www.madchima.net/images/944_isan665.jpg)
ก็เชิญชมกันตามสบายนะครับ

(http://www.madchima.net/images/843_isan666.jpg)
ก็เชิญชมกันตามสบายนะครับ

(http://www.madchima.net/images/162_isan667.jpg)
สามพันโบก กับเส้นทางเดินทางโดยบังเอิญ ตอนที่ขับรถไปก็เป็นสถานที่ ไม่อยู่ในแผนที่แวะ แต่เมื่อพบป้าย ประกอกกับเวลา ฉันอาหารคือ 11.10 น. จึงได้แวะเข้าไปที่นี่กัน ก็นับได้ว่าเป็น unseen ที่ตื่นตา ให้สงบใจใครผ่านไปทางนี้ เที่ยวได้เป็นวัน เพราะด้านล่างมีเรือรับจ้างพาข้ามไปเที่ยวฝั่งลาว และจุดสำคัญ


(http://www.madchima.net/images/665_isan668.jpg)
โดยเฉพาะ แก่งหินสี หินงาม ค่าเรือท่องเที่ยว มี 2 ราคา นะครับ คือ 300 บาท กับ 1000 บาท ติดป้ายไว้ที่ต้นไม้อย่างเป็นทางการ กับจุดที่จะไปอย่างชัดเจน ชาวบ้านที่มาค้าขาย อัธยาศัยดี

(http://www.madchima.net/images/273_isan669.jpg)
ร้านอาหารที่ นี่ก็มีหลายแบบ คือแบบ เปิปแบบอิสาณ อาหารตามสั่ง อากาศร่มรื่น ใครหิวมานั่งทานข้าวที่นี่ก็นับได้ว่า เป็นที่มีอากาศ ดีอีกที่หนึ่ง ครับ

(http://www.madchima.net/images/242_isan670.jpg)
บรรยากาศโดยรวมใครอยากรู้ว่า มี โบก ครบ พัน หรือ สามพัน ก้ต้องลงไปด้านล่างนะครับ

(http://www.madchima.net/images/950_isan671.jpg)
ก็มีดารา หลายการ ไปถ่ายสถานที่ กันอยู่หลายคณะ หรือ จะลงเล่นน้ำ ก็มีสถานที่ต้อนรับผู้พักผ่อนตามสมควรแต่สำหรับ เราชาวธรรม ก็อย่างมากก็คงยืนดู ชมวิว กันอยู่ด้านบน

(http://www.madchima.net/images/139_isan672.jpg)
กับป้าย ที่แสดงว่าสุดขอบเขตชายแดนไทย นะครับ

(http://www.madchima.net/images/758_isan677.jpg)
ออกจากสามพันโบก ก็พบ สำนักสงฆ์ ป่าภูสูง จึงเข้าไปแวะเยี่ยมเยียน เพราะเห็นองค์พระยืน ปางประทานพร อยู่แต่ไกลจึงเข้ารถเข้าไปเยี่ยมที่สำนัก สำหรับพระยืนนี้เป็นพระที่สลักจากหิน นะจ๊ะ ค่าจ้างจัดทำ 1 ล้านกว่าบาทก็นับว่าเจ้าสำนัก ท่านมีความอุตสาหะและบารมีเป็นอย่างมาก ที่จัดสร้างกันให้เป็นสักการะกราบไหว้

(http://www.madchima.net/images/625_isan679.jpg)
พระอาจารย์สำเภา เตชปุญฺโญ  เจ้าสำนักท่านเป็นพระผู้ดูแล และ กำลังดำเนินการปรับปรุงสถานที่ของสำนักให้เป็นที่เจริญตา เพื่อไว้ต้อนรับนักแสวงบุญ และ นักปฏิบัติธรรมทุกท่าน

(http://www.madchima.net/images/878_isan682.jpg)
ที่ป่าภูสง นี้แสดงถึงความอุตสาหะ ของ พระอาจารย์ สำเภา หนึ่งนั้นคือการที่ท่านไปนำ หินสี มาจากแม่น้ำโขง คือ หินมีน้ำหนักมาก แต่ท่านก็สามารถนำมาได้ หลายก้อน

(http://www.madchima.net/images/935_isan687.jpg)
และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ต้นไม้หิน ที่ท่านไปขอมาจากญาตโยมย่านนั้น กันมา ซึ่งท่านก็กำลังดำเนินการจัดสวน ต้นไม้หิน ซึ่งในอนาคต นี้สวนก็น่าจะมีความงามร่มรื่นกว่านี้

(http://www.madchima.net/images/588_isan686.jpg)
ต้นไม้หินนั้น ไม่ใช่หากันได้ง่าย  ๆ เพราะมีอายุเป็นพัน ๆ ปี บางต้นที่เห็น สมบูรณ์ มีกิ่งก้านและที่สำคัญไม้มงคลที่เป็นหินนั้น ก็หาดูได้ยาก ใครอยากไปชมก็ที่ ป่าภูสูง มีให้ดูนะ

สำหรับที่ตั้งองค์พระท่านก็กำลังทำสถานที่บรรจุ พระธาตุ ต่าง ๆ ด้วย ในศาลาก็มีพระธาตุให้ได้กราบไหว้กันใครผ่านไปสามพันโบก ก็เชิญแวะร่วมทำบุญสร้างสถูป ซึ่งตอนนี้ก็จัดให้มีการทอดผ้าป่า กองละ 100 บาท อยู่ทุกวัน

สำหรับวันนี้ คงพอก่อนนะครับ เพราะใช้เวลามา 4 ชม แล้วครับ ไว้ชมกันต่อวันต่อไปครับ
 :welcome:

ิติดตามอยู่คะ อนุโมทนากับทีมงาน ด้วยคะ มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ คะในงานนี้
ใครเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้ จ่ายคะ
 :25: :25: :25:

อนุโมทนา ด้วยครับ

  :25: