สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 10, 2011, 02:06:09 pm



หัวข้อ: "บ้านเรือ" แคชเมียร์...วิมานบนดิน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 10, 2011, 02:06:09 pm

   
"บ้านเรือ" แคชเมียร์...วิมานบนดิน

(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/hr1667/630.jpg)
บ้านเรือ วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์.

Paradise On Earth...!!!

นักท่องเที่ยวในช่วงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 20 มีบันทึกว่า...ขณะที่ ชีวิตยังมีลมหายใจความสุขบนพื้นพิภพในนี้ 1 ใน 50 อย่างที่ควรทำ คือเดินทางสู่ทะเลสาบดาล (Dal lake) แห่งแคว้นแคชเมียร์....แล้ว พักนอนใน House Boats...!!!

...House Boats อันเป็น วิมานบนดิน เกิดขึ้นในยุค ควีนส์วิคตอเรีย ซึ่งอังกฤษได้เข้ามา ครอบครองอินเดีย จึงพากันเข้ามาปักหลักโกยกอบทรัพยากรจากอาณานิคม โดยรุกจากพื้นที่ส่วนใต้ขึ้นไปจดเหนือ กระทั่งถึง แคว้นจัมมูแคชเมียร์ (JUMMU & KASHMIR) ติดกับเทือกเขาหิมาลัย


(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o3/420/280.jpg)
ตลาดน้ำซึ่งนำสินค้านานาชนิดมาขาย.

ความสวยงามของธรรมชาติได้เป็นที่หมายตาของชนชาวยุโรปที่จะเข้าเปิดบริสุทธิ์ แต่ มหาราชาโมกุล (กษัตริย์ผู้สร้างทัชมาฮาล) ได้ตั้งกฎเข้มว่า...แม้อังกฤษจะมีอำนาจเหนืออย่างไรก็ไม่อาจให้ใช้สิทธิถือครองที่ดินผืนนี้ ได้...!!!

นักล่าอาณานิคม จึงเลี่ยง โดยนำไม้สนซีดาร สร้างเป็นเรือ มี เอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมตามแบบของอังกฤษ แกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ กับการใช้ชีวิตให้เสมือนอยู่ในคฤหาสน์หรูๆทั่วๆไป รังสรรค์ เป็นบ้านลอยน้ำ หรือ House Boats จึงรายเรียงตามริมทะเลสาบ...นับพันๆลำ กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่

หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช ...House Boats เหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ ด้วยความยาวนานแห่งคาบเวลา บางลำก็ชำรุดทรุดโทรมไปบ้างเป็นธรรมดา ปัจจุบันคงเหลือพอใช้ประโยชน์ได้ราวๆ 800 ลำเท่านั้น...ต่อมาได้เปลี่ยนถ่ายมาเป็นของเอกชน จึง ปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว


(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o4/420/280.jpg)
ความสุขภายห้องรับแขกบนเรือ.

.... แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามายาวนาน House Boats ก็ยังคงเสน่ห์ท้าทายนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้าไปเยือน ก่อนที่ฤดูหนาวจะเข้ามาเยือน สื่อมวลชนจากเมืองไทยกลุ่มหนึ่งจึงเจาะโอกาสเข้าไปสัมผัสวิมานบนดินแห่งนี้ให้ถึงก้นบึ้ง โดยมอบหมายให้ นางสาวมินท์มันตา พานทอง แห่ง NISCO TRAVEL เป็นมัคคุเทศก์

...เมื่อเครื่อง IndiGo Airline ร่อนลงรันเวย์ ศรีนาคา (เมืองหลวง KASHMIR) จะถูกต้อนรับสลายความเหน็บหนาวด้วยเพลง Kashmari Floe Song จากนักดนตรีพื้นเมืองก่อนไป House Boats โดย เรือซาคารา อย่างสดสวยเสมือนกับ นั่งอยู่บนวิมานลอย ไปกับสายน้ำ

(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o5/420/279.jpg)
เรือซาคาราบริการจากฝั่งถึงฝั่ง.

House Boats แต่ละลำจะแบ่งสัดส่วน มีระเบียง ห้องรับแขก ห้องอาหารและเตรียมอาหาร ส่วนห้องนอนแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว ลำหนึ่งจะมี 2 ถึง 4 ห้อง รองรับตามความเหมาะสม ในระดับโรงแรม 4 ดาว โดยมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง...เพื่อสร้าง Luxuriate ให้กับผู้มาเยือน...

โรงแรมลอยน้ำแห่งนี้อยู่กับชุมชนเมือง แต่ก็เป็นสัดส่วนของธรรมชาติที่ถูกอนุรักษ์ไว้ในสภาพคล้ายกับยังไม่เปิดบริสุทธิ์ ก่อนรุ่งตั้งแต่ 4 นาฬิกา นก Wild Duck ซึ่งหนีร้อนจากรัสเซีย จะมาปลุกด้วยการออกมาหากินบนผืนน้ำ (รัฐฯ อนุญาตให้ล่าสัตว์เหล่านี้ได้ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มจึงซื้อปืนเพื่อยิงนกตกปลากันในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม)


(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o6/420/280.jpg)
น้ำแข็งเริ่มละลายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ.

พอ....พระอาทิตย์เริ่มทอแสง กองเรือซาคา-รา บรรทุกสินค้าพื้นเมือง อย่างหลายหลาก ตั้งแต่ดอกไม้ เครื่องหัตถกรรม พรม พัชมีนา ( Pashmina) ผ้าแคชเมียร์อันลือชื่อ เพชร พลอย นิล มรกต จินดา ฯลฯ มาขายถึงชานระเบียงที่พักเป็น Floating Market สร้างความสุขที่สัมผัสได้ในอีกรูปแบบหนึ่งทั้งเช้าและเย็น ก็ ถือว่าบรรลุ แต่ ยังไม่ถึงไคลแมกซ์.....เพราะศรีนาคานั้นอุดมด้วยทรัพยากรท่องเที่ยวโดยรอบทั้ง 8 ทิศ

Gateway to Ladkh...คือ โซนามาร์ค ใน หุบเขาซิน ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมี น้ำตกจากธารน้ำแข็ง แห่งเทือกเขา ทาจิวาส กับภาพเคลื่อนไหวอย่างช้าๆของธารน้ำแข็งที่ค่อยๆจะละลายหลุดออกมาเป็นก้อนๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง กลิ้งจากบนลงสู่เบื้อง ล่าง ใครได้สัมผัสแล้วจะต้องบันทึกไว้ในความทรงจำ....อัน ยากที่จะลืม!!!


(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o7/420/631.jpg)
ธารน้ำจากการละลายของน้ำแข็ง.

The Meadow of Flower หรือ ทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ ใน กุลมาร์ค สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,730 เมตร ต้องใช้ม้าและเคเบิลคาร์จึงจะได้สัมผัสทิวทัศน์รอบข้างกับเทือกเขาสลับซับซ้อนซึ่งมีหิมะปกคลุมแต่ละยอด และบนพื้นที่แห่งนี้มี สนามกอล์ฟ 18 หลุม ถือว่าเป็น สนามกอล์ฟสูงที่สุดในโลก

อิ่มเอิบกับสวรรค์บนดินแล้วก็ร่ำลากันด้วย พาฮาลแกม (Pahalgam) ในหุบเขา อารู จุดบรรจบของแม่น้ำลิดเดอร์ กับ ทะเลสาบเซซนาก ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดกับ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ใช่เฉพาะอินเดียเท่านั้น หลายๆประเทศก็มาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นฉากในโลกเซลูลอย...


(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/12/09/222363/l20/o8/420/280.jpg)
พาหนะที่รอบริการนักท่องเที่ยวให้ขึ้นสัมผัสธรรมชาติ.

แม้วันนั้น...จะไม่มี การถ่ายทำภาพยนตร์ แต่การไปยืนอยู่บนพิกัดก็ถือว่าได้ย่ำเหยียบทับบนรอยเท้า ระดับ Super Star ของโลกหลายดวง ก่อนที่พวกเราจะกล่าวคำว่า.......KASHMIR...KHUDA  HAFIZ  (Goodbye)!!!

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/global/222363 (http://www.thairath.co.th/column/life/global/222363)