สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ถึงวันนี้แม้เหตุการณ์น้ำท่วมจะผ่านพ้นไปแล้วในหลายพื้นที่ แต่หลายคนยังไม่นิ่งนอนใจ และพูดกันไปถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในปีหน้า แม้กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังออกมาบอกว่า "บอกไม่ได้ว่าน้ำจะมาหรือไม่มา แต่บอกได้ว่า มีการป้องกันไม่ให้กระทบพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ หรือให้เกิดน้อยที่สุด" แล้วบ้านเรือนประชาชนตาดำ ๆ จะทำอย่างไรกัน

ในเมื่อพื้นที่ภาคกลาง และเมืองหลวงอย่างกทม.ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม หนทางเดียวที่จะทำได้คือ การปรับตัวสร้างที่อยู่อาศัยให้อยู่กับน้ำได้เหมือนสมัยบรรพบุรุษของเรา



โดยล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากหน่วยงานราชการ กรมโยธาธิการ บริษัทค้าวัสดุก่อสร้าง มูลนิธิเอสซีจีในเครือปูนซิเมนต์ เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรมากมาย พยายามหาทางออกแบบก่อสร้างบ้านหลากหลายรูปแบบทั้งแบบบ้านจากต่างประเทศ

กรมโยธาธิการและผังเมือง ถือเป็นหน่วยงานราชการ หน่วยงานแรก ๆ ที่มีไอเดียออกแบบ"บ้านลอยน้ำ"ขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2551 แต่พบว่า มีผู้นำไปใช้งานจริงไม่มาก เนื่องจากใช้โครงสร้างเหล็ก มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี แต่ราคาเฉลี่ยประมาณ 300,000-800,000 บาท

ดังนั้น หลังเกิดน้ำท่วมครั้งนี้ กรมโยธาธิการจึงปรับใช้แนวคิดจากบ้านของชาวบ้านอ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และเรือนแพของชาวบ้านในอดีต และพยายามใช้วัสดุท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น ไม้ไผ่ ซึ่งอายุงานอาจจะประมาณ 3-4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 30,000-40,000 บาท คาดว่าแบบบ้านใหม่นี้จะได้รับความสนใจจากชาวบ้านมากขึ้น



บริษัท โรงเลื่อยจักรชัยประดิษฐ์ จำกัด ผู้นำเข้าไม้จากต่างประเทศ ของธัชชัย กัลยากร ประธานกรรมการบริษัทแปรรูปไม้ รับผลิตพาเลทไม้ ไม้พื้น ผลิตบ้านล๊อคโฮม และผลิตภัณฑ์ไม้อื่นๆ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด"บ้านลอยน้ำ" "สุขาลอยน้ำ" และ"ที่จอดรถลอยน้ำ"

โดยในส่วนของ"บ้านลอยน้ำ"ได้ออกแบบมี 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ให้ลูกค้าเลือกปลูกสร้างให้เหมาะสมกับงบประมาณ และเหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่ บ้านลอยน้ำของชัยประดิษฐ์ สามารถอยู่บนพื้นดินได้ตามปกติ เหมือนบ้านอยู่อาศัยทั่วๆไป หาเกิดเหตุน้ำท่วมบ้านที่อยู่บนพื้นดินปกติ จะสามารถลอยน้ำได้ทันที สำหรับที่จอดรถลอยน้ำ สามารถจอดรถในสภาพสภาวะปกติได้ และเมื่อมีน้ำท่วมสูงฐานจะยกรถจะลอยขึ้น เพื่อป้องกันรถจมน้ำได้

ด้านมูลนิธิเอสซีจี หลังจากการผลิต“ส้วมกระดาษ”ออกมาให้ชาวบ้านได้คลายทุกข์แล้ว ในเร็วๆ นี้กำลังจะทำ“บ้านลอยน้ำ” สิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ออกมา โดยจะไปทดลองในชุมชนซึ่งเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก อย่างอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก หรือ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้ซีเมนต์ลอยน้ำไว้ใต้บ้าน แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป

ส่วนบริษัทที่ก่อสร้างบ้านจัดสรรต่าง ๆ ตอนนี้ยังไม่เห็นมีแบบป้องกันน้ำออกมากันชัดเจน มีเพียงการวางระบบป้องกันน้ำต่าง ๆ เช่น การล้อมรั้ว การวางระบบป้องกันน้ำไหลย้อน ซึ่งช่วยแก้ ปัญหาน้ำไหลมาตามท่อผ่าเข้ามากลางบ้านที่หลายคนประสบปัญหากัน รวมถึงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์แนวใหม่ ไม่ใช่การ Built in เหมือนเดิม

แต่สิ่งที่เห็นหลายคนเริ่มมีการนำแนวคิดเรื่อง"บ้านลอยน้ำ"ทั้งของไทย และต่างประเทศมาดูกันมากมาย โดยเฉพาะเมืองที่อยู่ริมน้ำ เช่น บ้านในประเทศเนเธอร์แลน์ ที่เมือง Maasbommelหรือบ้านในออนตาริโอ ประเทศแคนาดา สร้าง ด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาสามารถลอยน้ำได้





หรือแนวคิด“บ้านลอยน้ำพลังงานอาทิตย์”จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์  ซึ่งมักนำเสนอไอเดียเด็ดๆในการออกแบบ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานทั้งสิ้น และโครงการดังกล่าวกำลังจะกลายเป็นความจริงในเร็ว ๆ นี้




อย่างไรก็ตาม การสร้างบ้านลอยน้ำ มีข้อดีในการป้องกันน้ำท่วมได้ แต่อย่าลืมว่า ยุคนี้โลกของเรา ไม่ได้เผชิญแต่ปัญหาน้ำท่วมอย่างเดียว ความวิกฤตการณ์แปรปรวนที่กำลังเกิดขึ้นจากผลงานของมนุษย์ที่ทำลายสภาพแวดล้อมที่ผ่านมา กำลังนำมาซึ่งปัญหาโลกร้อน แผ่นดินไหว ภัยสึนามิ  ฯลฯ ดังตัวอย่างให้เห็น"บ้านลอยน้ำ"ในญี่ปุ่นหลังจากเกิดมหันตัยสึนามิเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา


จึงได้แต่หวังว่า ผู้ที่กำลังคิดค้นออกแบบบ้าน อาคารต่าง ๆ ในการป้องกันน้ำท่วม อย่าลืมในเรื่องการป้องกันปัญหาแผ่นดินไหวบวกเข้าไปด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323768438&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323768438&grpid=01&catid=&subcatid=)