สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: sunee ที่ ธันวาคม 28, 2011, 03:22:09 pm



หัวข้อ: อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ อะไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: sunee ที่ ธันวาคม 28, 2011, 03:22:09 pm
อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ อะไร คะ

 อ่านพบในพระสูตร แต่ไม่เข้าใจคะ

  :c017: :25: :58:


หัวข้อ: Re: อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ อะไร คะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 28, 2011, 10:15:47 pm

(http://www.84000.org/tipitaka/picture/p40.jpg)

 ปาฏิหาริย์ สิ่งที่น่าอัศจรรย์, เรื่องที่น่าอัศจรรย์,
       การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ มี ๓ คือ
           ๑. อิทธิปาฏิหาริย์ แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์
           ๒. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ทายใจได้เป็นอัศจรรย์
           ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนมีผลจริงเป็นอัศจรรย์
       ใน ๓ อย่างนี้ ข้อสุดท้ายดีเยี่ยมเป็นประเสริฐ

  อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ คือ อนุศาสนี,
       คำสอนเป็นจริง สอนให้เห็นจริง นำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง เป็นอัศจรรย์
       (ข้อ ๓ ใน ปาฏิหาริย์ ๓)


ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)


เรื่อง"อนุสาสนีปาฏิหาริย์" อยู่ใน "เกวัฏฏสูตร"
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
๑๑. เกวัฏฏสูตร เรื่องนายเกวัฏฏ (ชาวประมง)
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙  บรรทัดที่ ๗๓๑๗ - ๗๘๙๘.  หน้าที่  ๓๐๖ - ๓๒๙.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&pagebreak=0)
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=338 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=338)



(http://www.84000.org/tipitaka/picture/p47.jpg)

๑๑. เกวัฏฏสูตร
สูตรว่าด้วยการแสดงธรรมแก่บุตรคฤหบดีชื่อเกวัฏฏะ

    พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ป่ามะม่วงของปาวาริกะ ใกล้เมืองนาฬันทา . ณ ที่นั้น บุตรคฤหบดีชื่อเกวัฏฏะเข้าไปเฝ้า ขอให้ทรงชวนภิกษุผู้แสดงอิทธปาฏิหาริย์ได้ให้แสดง ก็จะมีคนเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคยิ่งขึ้น.

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า พระองค์มิได้แสดงธรรมว่า ภิกษุทั้งหลาย ท่านจงแสดงอิทธปาฏิหาริย์แก่คฤหบดีผู้นุ่งผ้าขาว.

    แม้ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ บุตรคฤหบดีชื่อเกวัฏฏะ ก็ยังยืนยันจะให้ทรงชวนภิกษุผู้แสดงอิทธปาฏิหาริย์ได้ให้แสดง ก็จะมีคนเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคยิ่งขึ้น.

    พระผู้มีพระภาคจึงทรงชี้แจงว่า ปาฏิหาริย์ที่ทรงทำให้แจ้งด้วยความรู้ยิ่งด้วยพระองค์เองและประกาศแล้ว มีอยู่ ๓ อย่าง คือ  
    ๑ . อิทธิปาฏิหาริย์ แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์.
    ๒. อาเทสนาปาฏิหาริย์ ดักใจทายใจได้เป็นอัศจรรย์.
    ๓. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ สั่งสอน ( มีเหตุผลดี ) เป็นอัศจรรย์.

    แล้วทรงอธิบายวิธีแสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์ และสรุปในที่สุดว่า คนที่ไม่มีความเชื่อความเลื่อมใสก็อาจกล่าวได้ว่า ภิกษุที่แสดงฤทธิ์ได้นั้น เพราะมีคันธารวิชา ( วิชชาของคันธาระ).

    อาเทสนาปาฏิหาริย์ ดักใจทายใจของคนได้ คนที่ไม่มีความเชื่อ ความเลื่อมใส ก็อาจกล่าวได้ว่า ภิกษุที่ดักใจทายใจได้นั้น ก็เพราะมีมณีกาวิชา.

    ครั้นแล้วทรงแสดงถึงอนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือการสั่งสอนเป็นอัศจรรย์ ว่าควรประพฤติปฏิบัติอย่างไร ตลอดจนการปฏิบัติได้ผลในศีล   ๓ ประเภท   ในฌาน ๔  ในวิชชา ๘ ( ดั่งกล่าวไว้แล้วในสมมัญญผลสูตร).

    แล้วทรงเล่าถึงภิกษุรูปหนึ่งข้องใจในปัญหาที่ว่า ธาตุ ๔ เป็นต้น จะดับโดยไม่เหลือในที่ไหน ภิกษุรูปนั้นเที่ยวตระเวนถามเทวดาต่าง ๆ จนกระทั้งถึงท้าวมหาพรหมก็ตอบไม่ได้ ในที่สุดท้าวใหาพรหมขอให้มาถามพระพุทธเจ้า ซึ่งตรัสสอนเป็นใจความรวบยอดว่า ดับวิญญาณเสียได้   ธาตุ ๔ เป็นต้น ก็ดับไม่เหลือในที่นั้น. ( เป็นการแสดงว่าฤทธิ์ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่คำสั่งสอนสำคัญกว่า ) .


(http://www.84000.org/tipitaka/picture/p62.jpg)

ที่มา พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน (อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ)
http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/1.4.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/1.4.html)