สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มกราคม 03, 2012, 11:53:08 am



หัวข้อ: การถวายธรรมทาน ทำได้อย่างไรค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มกราคม 03, 2012, 11:53:08 am
ถ้าหากเราจะถวายธรรมทาน ทำได้อย่างไรค่ะ ขอบคุณค่ะ :c017: :c017: :c017:


หัวข้อ: Re: การถวายธรรมทาน ทำได้อย่างไรค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 03, 2012, 07:10:43 pm
(http://farm3.static.flickr.com/2755/4139431821_b9879b1e80_b.jpg)

ธรรมทานสานสุข ทั่วแผ่นดิน


ธรรมทานคืออะไร ?

การให้ธรรมะเป็นทาน  เช่น  ให้วิชาความรู้  ให้คำแนะนำสั่งสอนในทางที่ดี ให้คำตักเตือนเมื่อหลงทางผิด  และที่ทำให้ง่ายที่สุดคือการให้หนังสือธรรมะเป็นทาน  ในบรรดาการให้ทั้งหลาย ไม่ว่าเป็นข้าวน้ำ วัตถุสิ่งของ  พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการให้ธรรมะเป็นทานว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด และเป็นสุดยอดแห่งการให้ทานทั้งปวง

(http://farm3.static.flickr.com/2551/4117317472_54ae2080ce.jpg)


ควรให้ธรรมทานแก่ใคร ?

เป้าหมายแรกคือคนไทย ๖๙ ล้านคน โดยเฉพาะกับเด็กเยาวชนในโรงเรียน  ห้องสมุดโรงเรียน  ห้องสมุดประชาชน  เพื่อนร่วมงาน  ญาติพี่น้อง  คนใกล้ชิด  พ่อแม่  ครูอาจารย์  ลูกศิษย์  บุตรธิดา  โรงงาน  เรือนจำ  โรงพยาบาล  บ้านพักคนชรา  สถานพินิจ  กระทรวง  ทบวง  กรม  หน่วยงานราชการ  บริษัท  ห้างร้าน องค์กรต่างๆ แล้วขยายไปทั่วโลก

(http://images.palungjit.com/attachments/52461d1280286213-%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%8E%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99-dsc_6345-jpg)


เหตุใดการให้ธรรมทาน จึงดีกว่าการให้ทั้งปวง ?

            พระพุทธเจ้าตรัสว่า
          ผู้ให้ข้าวน้ำ ถือว่าให้กำลัง
          ผู้ให้เสื้อผ้าถือว่าให้ความสวยงาม
          แต่ ผู้ให้ธรรมะเป็นทานถือว่าเป็นผู้ให้ความเป็นคน  ให้สติปัญญา ให้ความพ้นทุกข์
          ที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้ได้อ่านหรือฟังธรรมะแล้วย่อมเกิดความ สำนึกที่ดี มีความพากเพียรในการละชั่วทำดี มีสติปัญญาและมีความเพียรในการปฏิบัติตนให้พ้นจากทุกข์ สร้างสุขให้เกิดขึ้นแก่ตน คนรอบข้าง และสังคมต่อๆ ไป ไม่สิ้นสุด



ที่มา  http://www.lc2u.com/th/know_tamtan.php (http://www.lc2u.com/th/know_tamtan.php)
ขอบคุณภาพจาก http://farm3.static.flickr.com/,http://images.palungjit.com/ (http://farm3.static.flickr.com/,http://images.palungjit.com/)


หัวข้อ: อานิสงส์แห่งธรรมทาน !!!+++
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 03, 2012, 07:29:27 pm

(http://farm3.static.flickr.com/2554/4131651770_b07c6e05a5.jpg)


อานิสงส์แห่งธรรมทาน !

“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”


ทานสูตร

[๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทาน ๒ อย่างนี้ คือ อามิสทาน ๑ ธรรมทาน ๑
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาทาน ๒ อย่างนี้ ธรรมทานเป็นเลิศ

         ดูกรภิกษุทั้งหลาย การแจกจ่าย ๒ อย่างนี้ คือ
            การแจกจ่ายอามิส ๑
            การแจกจ่ายธรรม ๑
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาการแจกจ่าย ๒ อย่างนี้ การแจกจ่ายธรรมเป็นเลิศ

         ดูกรภิกษุทั้งหลาย การอนุเคราะห์ ๒ อย่างนี้ คือ
            การอนุเคราะห์ด้วย อามิส ๑
            การอนุเคราะห์ด้วยธรรม ๑
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาการอนุเคราะห์ ๒ อย่างนี้ การอนุเคราะห์ด้วยธรรมเป็นเลิศ ฯ

         พระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ตรัสทานใดว่าอย่างยิ่ง ยอดเยี่ยม
         พระผู้มีพระภาคได้ทรงสรรเสริญการแจกจ่ายทานใดว่าอย่างยิ่งยอดเยี่ยม
         วิญญูชนผู้มีจิตเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ผู้เป็นเขตอันเลิศ รู้ชัดอยู่ซึ่งทานและการแจกจ่ายทานนั้นๆ ใครจะไม่พึงบูชา (ให้ทาน) ในกาลอัน ควรเล่า ประโยชน์อย่างยิ่งนั้น ของผู้แสดงและผู้ฟังทั้ง ๒ ผู้มีจิตเลื่อมใสในคำสั่งสอนของพระสุคตย่อมหมดจด ประโยชน์อย่างยิ่งนั้น ของผู้ไม่ประมาทแล้วในคำสั่งสอนของพระสุคต ย่อมหมดจด ฯ


จาก : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ สุตตันตปิฎกที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน


(http://4.bp.blogspot.com/_0WoAG2NruNk/TK3WW_sl6PI/AAAAAAAAATM/BTbunZeHve4/s1600/60024_162428430436093_100000068120088_540038_3786925_n-719290.jpg)


“อกฺขรา เอกํ เอกญฺจ พุทฺธรูปํ สมํ สิยา
สร้างอักขรธรรมหนึ่งอักษร เท่ากับสร้างพระพุทธรูปหนึ่งองค์”

ชาดก อานิสงส์สร้างหนังสือ ถวายหนังสือ

อานิสงส์สร้างหนังสือ หรือถวายหนังสือ ดั่งประทีปส่องทางให้เห็นนรกและสวรรค์ ผู้นั้นจะได้อานิสงส์เพิ่มพูน กุศลจริยาเป็นเอนกอนันต์ ได้รับชัยชนะต่อจิตใจตนเอง และผู้อื่น มีความรู้ การศึกษาสูง บังเกิดผลบุญอันยิ่งใหญ่ไพศาลทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า

   ดังมีใจความว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้า มีความประสงค์ว่า จักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัทพระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถาม แก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
   เมื่อตายไปแล้วก็จักได้ เสวยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์ ใช่แต่เท่านั้น
   เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย
   ต่อจากนั้น ก็ได้เสวยสมบัติ ในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย

   ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวย ในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่ แก่คน ทั้งหลาย ที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์สุจริต ปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด รอบรู้ทั้งทางโลก และทางธรรม ดังนี้เป็นต้น

   ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม ได้สร้าง พระไตรปิฎก ไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดา ทรงพยากรณ์ไว้ว่า
 
   อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้ แลก็สิ้นสุด พระกระแสธรรมเทศนา ที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้



ที่มา http://www.lc2u.com/th/know_rnisong.php (http://www.lc2u.com/th/know_rnisong.php)
ขอบคุณภาพจาก http://farm3.static.flickr.com/,http://4.bp.blogspot.com/ (http://farm3.static.flickr.com/,http://4.bp.blogspot.com/)


หัวข้อ: อานิสงส์แจกหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน 11 ประการ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 03, 2012, 07:42:27 pm

(http://www.bloggang.com/data/d-club/picture/1297858307.jpg)

อานิสงส์แจกหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน 11 ประการ

     ธรรมทาน เป็นเครื่องเตือนสติให้เราระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต เป็นหนทางหนึ่ง อย่างเช่นการรู้คุณของพ่อแม่ รู้คุณแผ่นดินเกิด คุณธรรมทั้งหลายนี้ ถือว่าเป็นต้นน้ำแห่งพระธรรม(ความเป็นจริง) ที่สามารถฉุดช่วยผู้คนให้พ้นภัยเวียนได้ทัน เพราะการชี้แนะ จะด้วยกุศโลบายใดๆ ถือเป็นเป็นมหากุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์แก้วเจ็ดชั้น

     ขอให้พระธรรมอันลึกซึ้ง จงสถิตอยู่ทุกดวงจิต คอยติดตามปกป้องคุ้มครอง ช่วยเตือนสติให้บังเกิดความสำนึกรู้คุณของเหตุและรู้คุณของผล จากเจตนาด้วยกาย วาจา ใจ อันเป็นผลตอบแทนแก่บุพการีให้สมกับความเป็นมนุษย์ทั้งหลายอย่างแท้จริง

     1. กรรมเวรจากอดีตชาติจะได้ลบล้าง
     2. หนี้เวรจะได้คลี่คลาย พ้นภัยจากทะเลทุกข์
     3. โรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวรจะพ้นไป
     4. สามีภรรยาที่แตกแยกจะคืนดีต่อกัน
     5. วิญญาณของเด็กที่แท้งในท้องจะได้ไปเกิดใหม่
     6. กิจการงานจะราบรื่นสมความปรารถนา
     7. บุตรจะเฉลียวฉลาดและเจริญรุ่งเรือง
     8. บารมีคุ้มครองลูกหลานให้อยู่เย็นเป็นสุข
     9. พ่อแม่จะมีอายุยืน
     10. ลูกหลานเกเรจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนดี
     11. วิญญาณทุกข์ของบรรพบุรุษจะพ้นจากการถูกทรมานไปสู่สุคติ

การแจกหนังสือเป็นธรรมทาน อานิสงส์จากการให้ธรรมทาน จะเป็นไปตามความมุ่งมั่นศรัทธาและความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งผู้ให้จะสัมผัสรับรู้ได้เอง.


(http://www.atsme-cm.com/images/content17112552143252.jpg)


บุญวาสนามาจากการบริจาค

    เป็นพระสูตรในพุทธศาสนาที่ได้รวบรวมพุทธโอวาทแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสถึงบุญอันสำเร็จด้วยทานให้ชาวโลกได้ประจักษ์และเข้าใจในบุญญานุภาพแห่งทานอันเป็นเหตุให้มนุษย์มีสภาพชีวิตที่แตกต่างกันไปในอายุ วรรณะ สุข ยศ ฯ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

    ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสสรรเสริญว่า ผู้ให้ทานย่อมเป็นผู้กำชัยไว้ทั้งสองโลก คือ
    ... เพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน 1
    ... เพื่อความสุขในสัมปรายภพ 1
    ด้วยเหตุนี้ การบริจาค จึงเป็นหลักประกันชีวิตที่ดีที่สุด อันผู้มีปัญญาได้เลือกแล้ว


เมื่อบริจาคย่อมเป็นบุญ

อันเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ชีวิตตกลงไปในทางที่ชั่ว ให้ดำรงอยู่แต่ในทางที่ดีตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งบุญเป็นขุมทรัพย์ เมื่อมีอยู่ติดตัวแล้วจะอำนวยประโยชน์และความสุขคือ วาสนา มาให้อย่างมากมาย เหนือสิ่งใดเมื่อจากไปในโลกหน้า บุญก็ยังตามติดเป็นที่พึ่งที่ยึดถือให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีอีกด้วย ...


อานิสงส์แห่งธรรมทาน

พุทธพจน์:...
         ดูกรสุภูติ หากชายคนหนึ่งทำทานโดยการถวายทานด้วยสมบัติกองสูงเท่ากับภูเขาพระสุเมรุทั้ง
จักรวาลมารวมกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง รับฟังคำสอนไว้ในใจ อ่าน เรียนรู้ จดจำ แล้วสั่งสอนผู้อื่น
         บุญกุศลของชายคนแรกยังไม่มากเท่าหนึ่งในร้อย หนึ่งในพัน หนึ่งในแสน ของบุญกุศลที่ชายคน
ที่สองได้รับ
เพราะไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย



ที่มา http://www.lc2u.com/th/know_rnisong.php (http://www.lc2u.com/th/know_rnisong.php)
ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com/,http://www.atsme-cm.com/ (http://www.bloggang.com/,http://www.atsme-cm.com/)


หัวข้อ: คำถวายหนังสือธรรมะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 03, 2012, 07:57:18 pm

(http://farm3.static.flickr.com/2315/2262007093_258484f7ab.jpg)

ศาสนพิธี
การถวายทานหนังสือ

   ๑. เตรียมหนังสือที่ต้องการจะถวายให้พร้อม
   ๒. แจ้งความประสงค์ที่จะถวายทานให้สงฆ์ทราบ และกำหนดเวลาให้เรียบร้อย
   ๓. ครั้นถึงเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ถวายทานพึงปฎิบัติดังนี้
     - จุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา (จุดเทียนด้านซ้ายมือเราก่อน)
     - อาราธนาศีล และรับศีล
     - กล่าวคำถวายสังฆทาน-ธรรมทาน
     - พระสงฆ์กล่าวอนุโมทนา ขณะพระว่าบทยถา... ให้กรวดน้ำ เมื่อพระขึ้นบท สัพพี...

   ให้เทน้ำจนหมดแล้วประนมมือรับพรไปจนจบ กราบ ๓ ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี


(http://www.lc2u.org/mmf/wp-content/uploads/2010/05/krud_nam.gif)

 
คำอาราธนาศีล

   มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ
   ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
   ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต ฯลฯ ยาจามะ
   ตะติยัมปิ มะยัง ภันต ฯลฯ ยาจามะ ฯ
   (คนเดียวเปลี่ยน มะยัง เป็น อะหัง, ยาจามะ เป็น ยาจามิ)

 
คำถวายหนังสือธรรมะ
 
   นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(3 จบ)
   ยัคเฆ ภันเต สังโฆ ปะฎิชานาตุ, มะยัง ภันเต เอตานิ ธัมมะปะริยายะปัณณานิ ,
   สะปะ ริวารานิ พุทธะสาสะนิกานัง ปาวะจะนัสสะ อุคคะหะณัตถายะ,
   สังฆัสสะ นิยยาเทมะ , สาธุ โน ภันเต , อะหัง พุทธะสาสะนิกานัง,
   ปาวะจะนัสสะ อุคคะหะณัตถายะ ธัมมะปะริยาปัณณานัง ,
   ทานัสสะ อานิสังโส , อัมหากัญเจวะ มาตาปิตุอาทีนัญจะ ปิยะชะนานัง,
   ทีฆะรัตตัง , หิตายะ สุขายะ สังวัตตะตุ ฯ


คำแปล

     ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงทราบ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอมอบถวายหนังสือธรรมะ พร้อมกับของบริวารเหล่านี้ แก่พระสงฆ์เพื่อประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ศึกษาคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
     ขออานิสงส์แห่งการถวายหนังสือธรรมะ เพื่อประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ศึกษาคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ของข้าเจ้าทั้งหลาย จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย แก่ปิยชนทั้งหลาย มีมารดา บิดา เป็นต้นด้วย ตลอดกาลนานเทอญ ฯ


(http://www.bloggang.com/data/prommayanee/picture/1282145544.jpg)


คำกรวดน้ำแบบย่อ
 
     อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ฯ
     ขอบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุข ๆ เถิด ฯ
 

คำอธิษฐานแบบย่อ
 
     นิพพานปัจจะโย โหตุ
     ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ถึงพระนิพพานด้วยเถิด ฯ


คำอธิษฐานแบบยาว

     ขออานิสงส์แห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำดีแล้วนี้จงเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาดวงตาเห็นธรรมถึงซึ่งความพ้นทุกข์ คือพระนิพพานเทอญ หากแม้นพระนิพพานจะยังไม่ปรากฏเพียงใดขึ้นชื่อว่าความไม่มี,ความไม่รู้,ความขัดสนจนยาก จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อ

     ขอข้าพเจ้าจงมีความสะดวกคล่องตัวทุกประการ ทั้งในการดำรงชีวิต, การบำเพ็ญทาน,ศีล,ภาวนา ตราบเข้าสู่พระนิพพาน และขอบุญนี้ยังให้กายของข้าพเจ้าแข็งแรงช่วยเหลือตนเองได้จนถึงที่สุดของชีวิต

     หากแม้นยังต้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่เพียงใด ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นไปในฝ่ายสัมมาทิฐิเพียงฝ่ายเดียว ขอจงได้บังเกิดอยู่แต่ในสุคติโลกสวรรค์และโลกมนุษย์ เป็นผู้ได้เพศบริสุทธิ์ ได้พบพระพุทธศาสนา เกิดในตระกูลสัมมาทิฐิ อยู่ในท่ามกลางกัลยาณมิตร ได้พบสัตบุรุษ ผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ และมีกรรมสัมพันธ์อันดี ได้ฟัง,ศึกษาและปฏิบัติธรรมจนถึงซึ่งพระนิพพานเทอญ

     บาปกรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งที่ได้กระทำแล้วแต่ปฐมชาติ ปฐมกัลป์ นับแต่เกิดมาเป็นมนุษย์ขออย่าได้มีโอกาสส่งผล ขอจงกลายเป็นอโหสิกรรม ขอกุศลที่ข้าพเจ้ากระทำไว้ดีแล้วจงส่งผลก่อนเป็นบุญศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพเป็นอัศจรรย์ ขอความปรารถนาทั้งหลายทั้งปวงของข้าพเจ้า จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยอานุภาพ แห่งพระพุทธเจ้า,พระธรรมเจ้า,พระอรหันต์เจ้าและพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งปวงเทอญ.



ที่มา http://www.lc2u.com/th/know_pitee.php (http://www.lc2u.com/th/know_pitee.php)
ขอบคุณภาพจาก http://farm3.static.flickr.com/,http://www.bloggang.com/,http://www.lc2u.com/ (http://farm3.static.flickr.com/,http://www.bloggang.com/,http://www.lc2u.com/)