|
หัวข้อ: ตั้งสถาบันติว “พระสังฆาธิการ” เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 05, 2012, 09:27:05 pm (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/01/05/228046/hr1667/630.jpg) ตั้งสถาบันติว “พระสังฆาธิการ” เลขานุการคณะกรรมการศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยจะตั้งสถาบันผู้บริหารระดับสูงของคณะสงฆ์ขึ้น เพื่ออบรมผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระสังฆาธิการทุกระดับ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำหลักสูตรอบรมให้กับพระสังฆาธิการแต่ละระดับ... พระราชปริยัติเวที เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และเลขานุการคณะกรรมการศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และประธานศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีแนวทางที่จะจัดตั้งสถาบันผู้บริหารระดับสูงของคณะสงฆ์ขึ้น เพื่อทำการอบรมผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระสังฆาธิการทุกระดับ ตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาส เป็นต้นมา โดยที่สถาบันดังกล่าวจะอยู่ในการดูแลของศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติของมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำหลักสูตรอบรมให้กับพระสังฆาธิการแต่ละระดับอยู่ สำหรับการจัดตั้งสถาบันดังกล่าวจะตั้งขึ้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีเป้าหมายคือเพื่อต้องการให้พระสังฆาธิการมีความรู้ในเรื่องการปกครอง การศาสนศึกษา การเผยแผ่ การศึกษาสงเคราะห์ สาธารณูปการและสาธารณะสงเคราะห์ด้วย เบื้องต้นจะมีการเริ่มอบรมในปี 2555 นี้ แต่จะเริ่มอบรมให้กับผู้ที่มีตำแหน่งเป็นพระสังฆาธิการเดิมอยู่แล้วก่อน. ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/228046 (http://www.thairath.co.th/content/edu/228046) หัวข้อ: Re: ตั้งสถาบันติว “พระสังฆาธิการ” เริ่มหัวข้อโดย: montra ที่ มกราคม 05, 2012, 09:34:29 pm อาจจะมีบางท่าน สงสัย นะครับ พระสังฆาธิการ คือ ใคร เหมือน พระสังฆาทิเสส หรือ ไม่ ?
:hee20hee20hee: :hee20hee20hee: พระสังฆาธิการ มาจากคำว่า พระสงฆ์ + อธิการ หมายถึง พระสงฆ์ที่มีหน้าที่ ในหมู่สงฆ์ ตั้งแต่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นฝ่ายปกครองสงฆ์ด้วยกัน มีหน้าที่ต่าง ๆ ที่ทำนุบำรุงสถานที่อยู่ คือ อาราม อาวาส และให้การศึกษากับ พระสงฆ์ สามเณร ในภายใต้การปกครอง ขึ้นไป พระสังฆาทิเสส นั้น หมายถึง พระที่ต้องอาบัติ สังฆาทิเสส เป็นอาบัติขั้นกลาง ต้องอยู่กรรม วุฏฐานวิธี นะครับเช่นเข้าปริวาสกรรม เป็นต้น จึงจะหายจากอาบัติได้ นั่นแน่ ถามต่อใช้ไหมครับ ว่า อาบัติ นี่เป็น อาใคร ? ไม่ใช่ ไม่ใช่ อาบัติ ไม่ได้เป็น อาใคร นะครับ แต่ อาบัติ หมายถึง ความเศร้าหมองของผู้ประพฤติพรหมจรรย์ อย่างเข่นพระสงฆ์ อ้าว พระสงฆ์ มีพรหมจรรย์ เอ๊ะ เหมือน พรมจารีย์ ด้วยหรือไม่ ?? ไม่เอา ไม่เอา เดี๋ยวนอกเรื่องมากครับ สาธู สาธุ ขอบคุณทุกท่าน ที่อุตส่าห์ ทนอ่านถึงตรงนี้ :08: :25: :25: :25: |