หัวข้อ: คุณค่าที่เหลืออยู่ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 07, 2012, 09:48:08 pm (http://www.posttoday.com/media/content/2012/01/02/CB4B485D203D4721B28DD1FE332728AA.jpg) คุณค่าที่เหลืออยู่ หน้าต่างศาสนา พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี สำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ เราอาจเคยคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ เงิน รถ บ้าน อาหาร อากาศ ฯลฯ แต่พอเราผ่านภัยพิบัติต่างๆ ในชีวิตไปได้ จะทำให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ชีวิต นั่นเอง เพราะ... 1.สมบัติทุกอย่างจะมีค่าก็ต่อเมื่อเรามีชีวิต แต่หากไม่มีชีวิตทุกอย่างก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เหมือนผู้ประสบภัยที่ต้องหนีน้ำท่วม หรือผู้ประสบอัคคีภัยที่ต้องเอาตัวรอดภายในเสี้ยววินาที แล้วไม่สามารถถือสิ่งใดติดมือมาได้เลย เกิดความเศร้าเสียใจ เสียดายสมบัติ ลืมสิ่งที่มีค่าสุดคือ ชีวิตเราเองและคนที่เรารักที่รอดมาได้ แทนที่จะดีใจกับชีวิตนี้ กลับเอาความทุกข์ไปใส่ตัวเอง 2.สิ่งสำคัญที่สุด คือ สิ่งที่เหลืออยู่ ไม่ใช่สิ่งที่หายไป คุณค่าจริงๆ ของทุกสิ่ง คือ เมื่อมันยังอยู่กับเราและเราได้ใช้มันเท่านั้น อย่างกับเสื้อ 1 ตัวที่เราใส่ กับเสื้อ 100 ตัวที่อยู่ที่บ้านหรือที่ร้านค้า ตัวไหนมีค่ามากกว่ากัน ก็ต้องเป็นเสื้อตัวที่เราใส่อยู่ ซึ่งให้ความอบอุ่นกับเราได้ ส่วนอีกร้อยตัวจะมีราคามากขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้นและไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป เหมือนผู้ประสบภัยที่อาจจะเอาเสื้อมาได้ตัวเดียว ก็ให้รู้ว่านั่นคือสิ่งที่มีค่าสุดแล้ว ส่วนเสื้อตัวอื่นถึงมี แต่ไม่ได้ใส่ก็ไม่มีประโยชน์ ...เพราะคุณค่าจริง มีเพียงแค่หนึ่งชีวิตกับสิ่งของที่ติดตัวเราไปได้ตลอด นั่นคือ บุญและกุศล ที่เราสั่งสมมานั่นเอง... มีครั้งหนึ่งตอนทำกิจกรรมธรรมะเยียวยาใจ ณ ศูนย์ประสบภัยน้ำท่วม จ.ราชบุรี พระวิทยากรได้ถามถึงความรู้สึกของผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่มีความทุกข์ไม่ต่างกัน คือ เด็กมีความทุกข์ที่ไม่ได้ไปเรียน วัยรุ่นมีความทุกข์ที่ไม่ได้ไปเที่ยว หญิงวัยกลางคนนั่งปลอบใจ หญิงสูงวัยกำลังร้องไห้กับการสูญเสียบ้านที่ใช้เวลานานกว่าจะสร้างมาได้และคิดว่าคงหาไม่ได้อีก กับชายวัยกลางคนที่เริ่มทำใจ เมื่อไม่คิดถึงเหตุการณ์เหล่านั้น แล้วแต่ละคนก็พูดถึงระดับน้ำที่ประสบกันมา "อย่าเครียดไปเลยครับ บ้านของผมท่วมแค่ตาตุ่มเอง แต่ต้องอพยพแล้ว" โยมผู้ชายกลางคนพูดขึ้น "สงสัยเขากลัวน้ำจะมาเพิ่มใช่ไหมล่ะ เจริญพร" พระวิทยากรถามขึ้น "เปล่าหรอกครับ คือท่วมแค่ตาตุ่มตอนยืนอยู่บนหลังคานะครับ" เขาตอบแบบอารมณ์ดี ทำให้ทุกคนยิ้ม "เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปหมดทั้งสุขและทุกข์ เหลือแค่ว่าเราจะเก็บอะไรไว้เท่านั้น สุขหรือทุกข์" คือ ข้อสรุปที่เกิดขึ้นในวันนั้น ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREEzTURFMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB3Tnc9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREEzTURFMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB3Tnc9PQ==) ขอบคุณภาพจาก http://www.posttoday.com/ (http://www.posttoday.com/) |