สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 10, 2012, 09:38:31 pm



หัวข้อ: คนไทยใช่กบเฒ่า? เถรวาทvs.ลัทธิอาจารย์(9)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 10, 2012, 09:38:31 pm

(http://www.watnyanaves.net/uploads/Image/gallery/thbL_pa18.jpg)

คนไทยใช่กบเฒ่า? เถรวาทvs.ลัทธิอาจารย์(9)
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)

ทีนี้ เมื่อเถรวาทท่านอุตส่าห์รักษากาลามสูตรมาให้เราแล้ว มันก็เป็นเรื่องของเราเอง ที่จะเอากาลามสูตรมาใช้หรือไม่ หรือว่าจะปฏิบัติตามกาลามสูตรหรือไม่

ถ้าพระไทยจะสอนกันแบบท่องจำ ได้แต่ว่าตามกันไป ไม่ยอมถามครู หรืออะไรทำนองนี้ มันก็เป็นเรื่องของพระไทยเองที่ไม่ปฏิบัติตามหลักกาลามสูตร

อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้กระมัง จึงปรากฏว่า ในบทความหลังๆ คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ ได้เปลี่ยนถ้อยคำไปหน่อย คือจากเดิมที่เรียกว่า "เถรวาท" ก็เติม "ไทย" เข้าไป กลายเป็น "เถรวาทไทย" เหมือนจะบอกว่าฉันไม่ได้ว่าเถรวาทนะ ฉันติเตียนเถรวาทไทยเท่านั้น นี่เป็นข้อสังเกต

แต่ที่จริง ถ้าจะให้ดี ไม่พูดถึงเสียเลยดีกว่า เพราะทำให้คนสับสน

ก็ที่จริงอีกแหละ ยังมีแง่ที่น่าพิจารณาอีกเยอะ ในยุคที่ผ่านมานี้ ถ้าจะว่าพระไทยและคนไทยได้แต่เชื่อครูอาจารย์ ต้องเอาตามที่อาจารย์สอน ได้แต่ว่าตามกันไป ไม่ให้ถาม หรือห้ามสงสัยอะไรนั้น ก็ยังน่าถามว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า

เท่าที่พอนึกได้ ในยุคตื่นสมัยใหม่นี้ น่าจะเป็นปัญหาตรงที่ว่า พระไทยคนไทยไม่ค่อยได้เชื่อครูอาจารย์ เพราะว่าไม่ได้สนใจว่าครูอาจารย์สอนอะไร แล้วก็เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครูอาจารย์สอนอะไร แล้วจะเอาอะไรมาเชื่อครูอาจารย์ เขาได้แต่ทำแบบไทยสมัยใหม่ คือท่องจำตำราไปสอบ เป็นอย่างนี้ต่างหาก

หนักกว่านั้นอีก ในยุคของการศึกษาสมัยใหม่นี้แหละ ผู้เรียนบางทีก็เรียกผู้สอนว่าครูอาจารย์ไปอย่างนั้นเอง แค่ตามรูปแบบ แต่มองผู้สอนในความหมายที่เป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูล หาได้มองในความหมายของครูอาจารย์แท้จริงไม่

อ้อ...แล้วก็ลัทธิเชื่ออาจารย์ ว่าตาม อาจารย์ ทำตามๆ กันไปนั้น ก็มีชื่อของเขาอยู่แล้ว นั่นคือที่เรียกว่า "อาจารยวาท" (เขียนอย่างบาลีเป็น "อาจริยวาท") ซึ่งต่างไปไกลจากเถรวาท แทบตรงข้ามกันเลย เถรวาทก็คือไม่ใช่อย่างนั้น แล้วจะมาบอกว่าลัทธิเชื่ออาจารย์เป็นเถรวาทได้อย่างไรกัน

(คุณสุจิตต์เขียนว่า "วิถีคิดอย่าง "เถร วาท" หมายถึงท่องจำตามคำสอน(วาทะ) ของครูอาจารย์(เถระ)เป็นใหญ่สุด ใครจะละเมิดหรือสงสัยมิได้" ตรงนี้แหละคือ อาจารยวาท ไม่ใช่เถรวาท)

เอาละ เดี๋ยวจะแตกแขนงไปกันใหญ่ พอแค่นี้ก่อน

พระไทยไม่สอน หรือไม่ใส่ใจในกาลามสูตร

เอาเป็นว่า กลับมาพูดในแง่ของคุณสุจิตต์ ถ้าเรื่องนี้จะเป็นปัญหา ก็ต้องบอกว่า ปัญหาก็มาอยู่ที่พระไทยและคนไทยเรานี่เอง ว่าตาม บทความของคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ เองนั้น ก็มีตอนหนึ่งใช่ไหมที่เขียนว่าพระไทยไม่เอา กาลามสูตรมาสอน นี่ก็ชัดอยู่แล้ว เท่ากับยอมรับว่าเถรวาทมีกาลามสูตรไว้ให้แล้ว แต่พระไทยเราเองนี่แหละ ไม่เอามาสอน


ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNekV3TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB4TUE9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNekV3TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB4TUE9PQ==)
ขอบคุณภาพจาก http://www.watnyanaves.net/ (http://www.watnyanaves.net/)