สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มกราคม 15, 2012, 03:18:33 pm



หัวข้อ: อาหารมงคลวันตรุษจีน ทานแล้วเฮง...มั่งมีศรีสุข...ร่ำรวยเงินทอง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 15, 2012, 03:18:33 pm

(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/01/13/230319/hr1667/630.jpg)

อาหารมงคลวันตรุษจีน ทานแล้วเฮง...มั่งมีศรีสุข...ร่ำรวยเงินทอง

ตรุษจีนปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี ตรงกับวันจันทร์ที่ 23 มกราคม 2555 เป็นปีมังกรคะนองน้ำ ลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนต่างตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะถือเป็นเทศกาลรวมญาติ ที่ญาติพี่น้องจะได้มีโอกาสมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา นอกจากอั่งเปาซองโตๆที่ได้จากญาติผู้ใหญ่ ยังมีประเพณีการไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตด้วย

โดยการไหว้แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลาหลักๆ ช่วงเช้าก่อน 8 โมงเช้า ชาวจีนนิยมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน โดยจะไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 3 อย่าง หรือซาแซ ประกอบด้วย หมู, เป็ด และไก่ พอช่วงสายก่อนเที่ยง จะไหว้บรรพบุรุษและบรรพชน ด้วยอาหารคาวหวานและผลไม้ ที่มีความหมายมงคล  จากนั้นในช่วงบ่ายจึงถึงคิวไหว้วิญญาณไร้ญาติ

การคัดสรรอาหารชนิดต่างๆเพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีน  ก็ถือเป็นเรื่องพิถีพิถันเป็นอย่างมาก  นอกจาก จะคำนึงถึงเรื่องรสชาติ และความสวยงามของหน้าตา เครื่องปรุงแต่ละอย่างที่นำมาขึ้นโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือหวาน  ก็ล้วนแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น  เพราะคนจีนถือเรื่องโชคลางเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในวันขึ้นศักราชใหม่


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/01/13/230319/o4/420.jpg)
"หยี่ซัง" เมนูอาหารมงคลรับตรุษจีนจากห้องอาหารเดอะ ไชน่า เฮ้าส์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

อาหารมงคลวันตรุษจีนที่ขาดไม่ได้ในทุกบ้าน เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล  ก็มีอาทิ
  “หมู” สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์,
  “เป็ด” ตัวแทนความมั่งคั่ง,
  “ไก่” สื่อถึงความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน,
  “ขนมเข่ง” หมายถึงการมีเพื่อนมาก,
  “ลูกชิ้นปลา” แปลว่าเหลือกินเหลือใช้ ชีวิตราบรื่น,
  “เกาลัด” หมายถึงเงิน,
  “เม็ดบัว” การมีลูกหลานเป็นชาย, 
  “ปลาทั้งตัว”  คือตัวแทนความอุดมสมบูรณ์, 
  “กุ้งมังกร”  สื่อแทนอำนาจวาสนา,
  “เต้าหู้หมักทำจากถั่วแห้ง” หมายถึงความสุขและความร่ำรวย,
  “สาหร่ายทะเล” สัญลักษณ์ของความร่ำรวย และโชคลาภ, 
  “ซาลาเปา” หมายถึงการห่อโชคลาภมาให้ลูกหลาน,
  “ขนมถ้วยฟู” เป็นตัวแทนความเจริญงอกงาม,
  “ขนมเทียน” แทนความสว่างรุ่งเรือง,
  “ขนมไข่” คนจีนเรียกว่าหนึงก้วย  บ่งบอกถึงการเกิดและเติบโต, 
  “ขนมอี๊” ทานแล้วชีวิตจะได้ฉลุยไม่ติดขัด

  ผลไม้ที่นำมาไหว้ในเทศกาลตรุษจีน  ก็มีความหมายมงคลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น
  “ส้ม” คนจีนเรียกว่า “กิก” แปลว่ามงคล เป็นตัวแทนของความโชคดีรับปีใหม่

  ขณะที่ “กล้วย” มีผลดกเป็นเครือ จึงเป็นตัวแทนของการสืบสกุล และมีลูกหลานมากๆ
  ส่วน “องุ่น” พ้องเสียงกับลูกท้อที่เป็นผลไม้มงคล หมายถึงอายุยืนยาว และ
  “สับปะรด” คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า อั้งไล้  สื่อความหมายถึงโชคลาภ 
  ชาวจีนยังนิยมไหว้ “เผือก” เพราะลักษณนามของเผือก คือหัว  การไหว้เผือกหัวใหญ่ทำให้มีหัวมีหาง หมายถึงชีวิตครบถ้วนสมบูรณ์พูนสุข


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/01/13/230319/o3/420.jpg)

สำหรับครอบครัวคนจีนที่มีฐานะ  ยังนิยมอาหารเสริมสิริมงคลจานหรู ที่เรียกว่า  หยี่ซัง ด้วย เมนูนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 200 ปีก่อน  ที่เมืองกวางเจา  ประเทศจีน  โดยชุมชนชาวประมงหมู่บ้านซอนตั๊ก ซึ่งจัดเทศกาลรับประทานปลาในช่วงฤดูหนาว ตรงกับวันตรุษจีนของทุกปี พวกเขาจะนำปลาที่จับได้มาสร้างสรรค์เมนูจานพิเศษเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

   โดยคำว่า “หยี่” หมายถึงปลา
   ส่วน “ซัง” แปลว่าดิบ เมื่อรวมกันเป็น “หยี่ซัง” จึงหมายถึงสลัดปลาดิบ ประกอบด้วยเนื้อปลา 3 ชนิด ได้แก่ “ปลาแซลมอน” หมายถึงทองคำ, “ปลากะพง” ตัวแทนสุขภาพร่างกายแข็งแรง
   และ “ปลาทูน่า” บ่งบอกว่าเงินทองไหลมาเทมา และธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง
   ในเมนูจานนี้ยังมีส่วนผสมของผักและผลไม้, น้ำมันถั่วลิสง, ซอสน้ำบ๊วย, อบเชย และพริกไทย เวลาทานต้องใช้ตะเกียบคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน

   โดยชาวจีนเชื่อว่ายิ่งยกตะเกียบสูงเท่าไหร่ เงินทองก็จะยิ่งไหลเข้ากระเป๋ามากเท่านั้น  ช่วงเทศกาลตรุษจีน ตามร้านอาหารจีนหรูๆ จึงนิยมจัดทำเมนูเสริมสิริมงคล  “หยี่ซัง”  ไว้คอยให้บริการ  ตามความเชื่อว่าใครได้รับประทานแล้วจะพบแต่ความโชคดี มั่งมีศรีสุข  ร่ำรวยเงินทอง และอายุยืนยาว.


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/01/13/230319/o2/420.jpg)

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/life/230319 (http://www.thairath.co.th/content/life/230319)