สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:00:51 pm



หัวข้อ: อธิบดีฯสั่งห้ามพระเดินธุดงค์ในอุทยาน-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2012, 09:00:51 pm

(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/02/03/235746/hr1667/630.jpg)

อธิบดีฯสั่งห้ามพระเดินธุดงค์ในอุทยาน-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผย สั่งห้ามพระเดินธุดงค์ในอุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ หวั่นอันตรายจากสัตว์ป่า ซ้ำอาจหลงทาง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง...

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ขอแจ้งไปยังพระสงฆ์ว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ห้ามพระสงฆ์เข้าไปธุดงค์ในอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ เพราะอันตรายต่อตัวพระสงฆ์ เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูไฟป่า และในพื้นที่ยังมีสัตว์ป่าซึ่งเป็นอันตรายจำนวนมาก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีพระสงฆ์จำนวนไม่น้อยได้แจ้งความจำนงมาที่กรมฯ ว่าจะขอเดินธุดงค์ผ่านป่าโดยเฉพาะที่ห้วยขาแข้ง อุ้มผาง หรือ เขาใหญ่ เป็นต้น รวมทั้งขอให้กรมอุทยานฯ ส่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปคุ้มกันขบวนพระสงฆ์ที่จะมาเดินธุดงค์


(http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11572621/Y11572621-0.jpg)

ซึ่งตนได้บอกปฏิเสธไปหมดว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรืออุทยานฯ ไม่ใช่สถานที่ที่พระจะมาเดินธุดงค์ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีอันตราย มีสัตว์ป่า ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก อีกทั้ง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ของกรมฯ ซึ่งมีจำนวนน้อยนิดสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลลาดตระเวนผืนป่าอยู่แล้ว หากต้องแบ่งกำลังไปคุ้มกันพระธุดงค์อีก ก็จะไม่มีคนทำงาน

“ที่สำคัญใช่ว่าเมื่อมีเจ้าหน้าที่แล้วจะปลอดภัย เพราะถ้ามีช้างเข้ามา เจ้าหน้าที่เองก็หนีเหมือนกัน เพราะอย่างไรก็สู้ช้างป่าไม่ได้อยู่แล้ว และช้างก็มีมากด้วย ที่สำคัญคือ มันอยู่ในที่ของมัน ไปรบกวนมันทำไม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอันตรายจากไฟป่าอีก เพราะพอหมดหน้าฝน ก็จะเริ่มมีไฟป่าแล้ว มันอันตรายรอบด้าน จึงไม่อนุญาตให้พระสงฆ์เข้าไปเดินธุดงค์ในป่า” นายดำรงค์ กล่าว

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีพระธุดงค์หลายรูป เข้าไปธุดงค์ ปักกลดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบตอนเข้าไป แต่ตอนจะออกมา ออกมาไม่ได้ เพราะหลงทาง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงมาแจ้งว่า

พระหายเข้าไปในป่า ต้องเดือดร้อนเจ้าหน้าที่ออกตามหา เคยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ตามหา หมดค่าน้ำมันไปหกหมื่นบาท ไม่รวมกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ต้องช่วยกันตามหาอีก เรื่องเงินทองข้าวของมันไม่สำคัญเท่ากับชีวิตคนก็จริงอยู่

ถ้าเราหาทางป้องกันได้ ไม่ให้เหตุเกิด ก็ต้องทำ ที่ห้ามไม่ให้เข้าไป เพราะเป็นห่วง และความเป็นห่วงและกังวลของกรมอุทยานก็ตรงกับระเบียบของมหาเถระสมาคม ว่าด้วยการเดินธุดงค์ของพระสงฆ์ในป่า คือ ต้องเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ไม่รบกวนสัตว์ป่า ไม่ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ไม่ควรเข้าไปเกิน 5 รูปและมีโยมติดตามไม่เกิน 5 คน


(http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11572621/Y11572621-28.jpg)

“แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้ก็ขอห้ามเอาไว้ก่อนว่า ตั้งแต่บัดนี้ ห้ามไม่ให้พระสงฆ์ เข้าไปธุดงค์ ปักกลดในป่า โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพราะอันตรายมาก แต่ถ้าเป็นป่าอื่นๆ ที่ไม่ซับซ้อนอันตรายก็จะพิจารณาเป็นกรณี ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่อุทยานกวดขัน เรื่องการแอบเข้าไปเดินมากขึ้นด้วย” นายดำรงค์ กล่าว

ด้านพระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคขิน) กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าคณะภาค 14–15 วัดราชบพิธฯ กล่าวว่า พระธุดงค์ต้องเอื้อต่อกฎหมายบ้านเมือง จะเดินธุดงค์เข้าไปทุกที่ตามอำเภอใจไม่ได้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรืออุทยานแห่งชาติ มีกฎระเบียบห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปเนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อต้นไม้ ต่อสัตว์

แล้วพระเป็นใครจึงจะอ้างสิทธิ์เข้าไปธุดงค์ ที่สำคัญอยากให้เข้าใจว่าพระธุดงค์ไม่จำเป็นต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่า ในดง

แต่ธุดงค์ คือการปฏิบัติเพื่อขัดเกลากิเลส พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ในพระสูตรต่างๆ อาทิ ให้ใช้ผ้าบังสุกุล ใช้ผ้า 3 ผืน ฉันอาหารวันละมื้อ อยู่ป่า อยู่กลางแจ้ง อยู่ในที่ตามมีตามได้ เป็นต้น ที่ผ่านมา สมเด็จพระสังฆราชหลายพระองค์ก็ไม่เดินธุดงค์ แต่ก็เป็นพระสงฆ์ที่ประชาชน และพุทธศาสนิกชนกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

บางครั้งพระสงฆ์อ้างธุดงค์กันพร่ำเพรื่อ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านก็เดินธุดงค์เพียงลำพังไปกันเงียบๆ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับป่าหรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ท่านเอื้อเฟื้อต่อกฎหมายบ้านเมือง

พระพรหมมุนี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อยากให้พระอุปัชฌาย์ เข้มงวดกับพระสงฆ์ที่ขอออกเดินธุดงค์ เพราะการออกธุดงค์ของพระสงฆ์ ไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของมหาเถรสมาคม


(http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11572621/Y11572621-29.jpg)

ดังนั้น สงฆ์บางคณะ จึงค่อนข้างหย่อนยานต่อพระธรรมวินัย บางครั้งก็ไปทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ผ่านมามหาเถรฯ ก็ไม่ได้มีมติเกี่ยวกับพระธุดงค์ แต่เคยมีข้อหารือจากกรมป่าไม้ แจ้งเรื่องปัญหาพระธุดงค์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ว่า มีพระภิกษุสงฆ์นิยมเข้าไปเดินธุดงค์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ทั้งที่ได้รับอนุญาต และไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

การเข้าไปเดินธุดงค์ของกลุ่มพระสงฆ์ดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหลายประการ ไม่ว่าจะปัญหาไฟป่า ซึ่งเกิดจากพระสงฆ์บางกลุ่มก่อไฟทำอาหารแล้วไม่ดับไฟให้หมด จึงเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าได้ง่าย โดยเฉพาะในฤดูแล้ง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยากแก่การดับ เนื่องจากอยู่กลางป่าลึก ปัญหามลพิษจากขยะของเสีย อันเกิดจากเศษอาหาร และขยะที่เหลือจากการประกอบอาหาร

ปัญหารบกวนความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า โดยปกติสัตว์ป่าจะออกมาหากินตามลำห้วยหรือโป่ง เมื่อถูกรบกวนจากคนก็จะอพยพไปอยู่ที่อื่น สัตว์ป่าบางชนิดเช่น นกยูง มีพฤติกรรมชอบผสมพันธุ์ในที่โล่งบนหาดทรายริมห้วยขาแข้งในช่วงฤดูหนาว เมื่อมีพระสงฆ์เดินผ่านในพื้นที่ดังกล่าว นกยูงก็จะหนีไป

จึงเป็นสาเหตุให้ปริมาณนกยูงลดลงได้ในอนาคต หรือแม้กระทั่งปัญหาการป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพิ่มความลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะพวกมิจฉาชีพ เช่น พรานล่าสัตว์ป่า หรือพวกค้ายาเสพติดอาจอาศัยช่องทางปลอมแปลงเป็นพระสงฆ์เข้าไปล่าสัตว์ป่า หรือใช้เส้นทางในการลำเลียงขนส่งยาเสพติด หรือของผิดกฎหมายอื่นๆ เป็นต้น.



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/235746 (http://www.thairath.co.th/content/edu/235746)
http://www.pantip.com/ (http://www.pantip.com/)