สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2012, 05:44:04 pm



หัวข้อ: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2012, 05:44:04 pm
(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_8_01_06.jpeg)
QA  ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยตอบกัน ด้วยนะ จะนำคำถามมาลงก่อน ก็แล้วกันนะ ส่วนคำตอบจะทะยอยตอบ

(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_8_19_12.png)
ปุจฉา
      การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ ใช้ การเห็นตามความเป็นจริง จากสติ โดยตรงไม่ได้หรือคะ   

(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_11_09_58.png)
วิสัชชนา

    <?<?<? ยังไม่ได้ตอบ รอให้ สมาชิกธรรม ร่วมตอบกันก่อน


 ;)


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: sayamol ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2012, 10:15:16 am
จิตเป็นสมาธิ เป็น จิตที่สงบลงจากกิเลส 5 ประการคะ

  เวลาน้ำใส ก็จะมองเห็น ปลา นะคะ เห็นสิ่งที่อยู่ในน้ำ เวลาน้ำขุ่น จะมองไม่เห็น คะ

  คนที่มีจิตสงบ เยือกเย็น ก็จะมองเห็นกิเลสที่เป็นอนุสัยได้ง่าย คะ

  ส่วนคนที่มีจิตไม่สงบ ก็จะไม่สามารถเห็นสิ่งใด ได้เพราะจิตกวัดแกว่ง หดหู่ เศร้าหมอง

  โดยเฉพาะ คนที่มีจิต เศร้าหมอง ย่อมตัดสินใจกระทำชั่ว กระทำเลว ได้ง่าย คะ......


  :s_hi: :49:
(http://www.kaewjamfa.org/uploads/post-5866-1179970878.jpg)


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 08:51:09 am
ควรจะต้องกล่าวว่า การเห็นตามความเป็นจริง นั้นมีความสำคัญอย่างไร ผมว่าเกี่ยวพันกับความเป็นพุทธแท้นะครับ หรือ จิตที่มีนิพพาน เป็นเป้าหมายนะครับ

  พระอาจารย์ได้สอนไว้ว่า การเห็นตามความเป็นจริงเรื่องแรกคือ

   1. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้่นมีความเสื่อม ( ดับไป )เป็นธรรมดา

   2. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เสื่อมไป ( ดับไป )เป็นธรรมดา สิ่งนั้นไม่ควรตามยึดมั่น ถือมั่น ว่า นั่นเป็นเรา นั่นเป็นชองเรา นั่นเป็นตัวเป็นตนของเรา

   3. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มิใช่เรา มิใช่ของเรา มิใช่ตัวตนของเรา เป็นธรรมดา ควรตามเห็นว่า จิตควรปล่อยเพราะความยึดมั่นถือมั่น นั้น ๆ ไม่มีอีก

   4. การเห็นว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น อีกต่อไป ควรเป็นตามเป็นจริงว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั้นเป็นสิ่งที่ต้องละ เพราะนำมาซึ่งความทุกข์

   5. การเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ด้วยการละ พึงสมาทาน การปล่อยวางอารมณื นั้นด้วยใจ....


    ยังมีต่ออีกนะครับ ส่วนหนึ่งของ email ที่แนะนำธรรมของพระอาจารย์ครับ

   :08: :25:


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2012, 11:13:07 am
พุทธวจนะ
“สมาธึ ภิกขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ”
ภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิดเถิด ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
กระทู้แนะนำ
"สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ" ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5371.msg19928#msg19928 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5371.msg19928#msg19928)

พุทธวจนะ
"เมื่อสัมมาสมาธิมีอยู่ ยถาภูตญาณทัสสนะ ของภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมาสมาธิ ย่อมเป็นธรรมถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย"
กระทู้แนะนำ
เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี..."ยถาภูตญาณทัสสนะ" ย่อมไม่เกิด
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6410.msg23742#msg23742 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6410.msg23742#msg23742)

พุทธวจนะ
"ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ก็ทำให้ไม่มีธรรมะอื่น ๆ อีก ๗ ข้อโดยลำดับ มีสัมมาสมาธิ ญาณทัสสนะ เป็นต้น"
กระทู้แนะนำ
ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ธรรมเหล่าอื่นจะไม่เกิด
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5287.msg19533#msg19533 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5287.msg19533#msg19533)

พุทธวจนะ
"สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะ"
"สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติและสัมปชัญญะ"
กระทู้แนะนำ
การเจริญสมาธิ (สมาธิภาวนา) ๔ อย่าง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2727.msg9471#msg9471 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2727.msg9471#msg9471)




   การเดินอยู่ในมรรคมีองค์ ๘ ต้องพร้อมด้วย "องค์แห่งสติและสมาธิ" จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้
    ทั้งสองสิ่งอยู่ใน"อธิจิตตสิกขา" หรือเรียกโดยทั่วไปว่า "สมาธิสิกขา"

    ถึงตรงนี้สงสัยไหมว่า ทำไมไม่เรียกว่า "สติสิกขา"(อธิจิตตสิกขา คือ วายามะ สติ สมาธิ)
    ผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวว่า เนื่องจากพระพุฒาโฆษาจารย์ ผู้รจนาคัมภีร์วิสุทธมรรค ได้ยกเอาสมาธิมาแสดง
    คล้ายๆกับว่าให้ความสำคัญมากกว่า ทำให้เรียกสิกขานี้ว่า "สมาธิสิกขา"

    คำถามที่ว่า "การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิคะ ใช้การเห็นตามความเป็นจริงจากสติ โดยตรงไม่ได้หรือคะ"
 
    ตอบว่า  ขอให้ไปอ่านพุทธพจน์ในพระสูตรในกระทู้ที่ผมแนะนำให้อ่าน เช่น
    “สมาธึ ภิกขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ”
    "ภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิดเถิด ผู้มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง" หรือ
    "สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะ"

    อย่างไรก็ตาม สติและสมาธิต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน ต้องมีทั้งสองสิ่งจึงจะเห็นตามความเป็นจริงได้ 
    ดังพุทธพจน์ที่ว่า
    "ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ก็ทำให้ไม่มีธรรมะอื่น ๆ อีก ๗ ข้อโดยลำดับ มีสัมมาสมาธิ ญาณทัสสนะ เป็นต้น" และ
    "สมาธิภาวนาที่ภิกษุอบรมแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติและสัมปชัญญะ"
    (ขอให้ไปอ่านกระทู้ที่ผมแนะนำให้เข้าใจนะครับ)
    ขอให้นึกถึงล้อธรรมจักร ที่เป็นวงกลมมีซี่ล้อ ๘ ซี่ หากขาดซี่ใดไป
    ล้อนี้จะพังลง ไม่อาจดำรงสภาพความเป็นล้อธรรมจักรอยู่ได้

    พุทธพจน์สองประโยคนี้อยู่ต่างสูตรกัน อาจมีคนสงสัยว่า แล้วอะไรเกิดก่อน
    ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องบอกว่า
    สัมมาสติ เป็นมรรคองค์ที่ ๗ สัมมาสมาธิเป็นมรรคองค์ที่ ๘ คิดเอาเองละกัน

     :25:
   


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: pakorn ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 12:43:20 am
อนุโมทนา กับ คุณ nathponson ครับที่นำข้อมูลมา ซัพพอร์ต ได้อย่างมากเลยครับ รู้สึกว่าเหมือนผมจะตกหล่นความเข้าใจในส่วนนี้ไปหลายเรื่อง นะครับ เพราะแท้ที่จริงผมฝึกสมาธิ มาตลอด 40 กว่าปี เกษียณงานมาแล้วก็ไม่ได้มุ่งฝึกเพื่อ ญาณทัศนะ แต่มุ่งฝึกเพื่อให้จิตสงบ และมีพลังจิต เพื่อกระทำเรื่องที่เหลือเชื่อมากกว่า ครับ

  พอได้อ่านแล้ว รู้สึกว่า วันนี้ผมฝึกกรรมฐาน สมาธิ ไปผิดแนวทางมากเพราะไม่ได้ฝึกเพื่อญาณทัศนะ นี่เอง ปัญญาที่ตามเห็นตามความเป็นจริง จึงไม่เกิดและไม่เข้าใจ ครับ

 ขอบคุณมากครับ

  :c017: :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: pussadee ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:28:44 am
อนุึโมทนา คะ อ่านแล้วก็เข้าใจเพิ่มเติมได้จริง ๆ คะ
ที่เหลืออยู่ที่การภาวนาจริง ๆ แล้วนะคะ

  อย่าลืมว่า การเห็นตามความเป็นจริง จะมีได้ ต้องภาวนากันจริง ๆ นะจีะ
 
 สาธุ

  :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:49:40 am
การเห็นตามความเป็นจริงแบบกําหนดรู้จากสติโดยตรง กําลังไม่พอแตกไตรลักษณ์
   การฝึกถึงอุปจารสมาธิเป็นอย่างตํา จึงอาจสามารถแตก ไตรลักษณ์ถึงผลปัญญาได้


หัวข้อ: Re: การเห็นตามความเป็นจริง ทำไมต้องมีสมาธิ คะ
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 08:57:05 am
เป้าหมาย ของการภาวนา ของ พุทธศาสนา จริง ๆ ก็คือ การที่เราภาวนาแล้ว พ้นจากสังสารวัฏ

 การพ้นจากสังสารวัฏ ( นิพพาน ) นั้น ต้องอาศัย ยถาภูตญาณทัศนะ คือ การเห็นตามความเป็นจริง

 การเห็นตามความเป็นจริง เป็น ธรรมเบื้องต้น เป็น ธรรมจักษุ ซึ่งเป็น อริยะธรรมเบื้องต้น เป็นต้นกำเนิดของการต่อยอด การภาวนาของพระพุทธเจ้า เรียกว่า ปัญญา บ้่าง ญาณ บ้าง  วิชชา บ้าง

   การเห้นตามความเป็นจริง มีได้ เพราะมีสมาธิ  สมาธิ มีได้ เพราะมี ศีล

   ธรรม ทั้ง 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ และ ปัญญา เป็นองค์แห่งมรรค หรือ พระอริยะมรรค 8 ซึ่งเป็นกำลังในการที่ พระโยคาวจร ซึ่งเป็น โคตรภูบุคคล ( ผู่ที่มีความปรารถนาต้องการพ้นจากสังสารวัฏ ) นั้นใช้เป็นคุณเครื่องข้ามฟัง นทีสีทันดร หรือ โอฆะ ห้วงน้ำแห่งทุกข์ นี้ไปได้

   ดังนั้น สมาธิ มีความจำเป็น ต่อ ยถาภูตญาณทัศนะ ด้วยเหตุนี้ เพราะเป็นธรรมที่ขาดกันไม่ได้

   เจริญธรรม

     ;)