สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_8_01_06.jpeg)
QA  ใครช่วยตอบได้ ก็ช่วยตอบกัน ด้วยนะ จะนำคำถามมาลงก่อน ก็แล้วกันนะ ส่วนคำตอบจะทะยอยตอบ

(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_8_19_12.png)
ปุจฉา
     การตัดสินใจเลือกกรรมฐาน ที่จะนำมาปฏิบัติ ควรทำอย่างไร เพราะผมเริ่มสับสนกับวิธีการปฏิบัติของแต่ละสำนักแล้วครับ เพราะบางคนก็บอกว่าแบบนี้ดีกว่า แบบนั้นไม่ดี แบบนี้เป็นพุทธ แบบนี้ไม่ใช่พุทธ   

(http://www.madchima.org/forum/gallery/10_05_05_11_11_09_58.png)
วิสัชชนา

    <?<?<? ยังไม่ได้ตอบ รอให้ สมาชิกธรรม ร่วมตอบกันก่อน


 ;)

ควรศึกษาเรื่อง จริต ของตนในหกประการ มาก จน น้อยที่สุด เป็นแบบไหนคะ
 พระอรหันต์ ผู้มีปัญญามาก ยังผิดพลาดได้เลยนะคะ สำหรับเรื่องการสำรวจ จริต

   มีเรื่อง สัทธิวิหาริกของพระสารีบุตร และ เรื่อง พระจูฬปันถก เป็นตัวอย่าง คะ

  :coffee2: :s_hi:

ตอบตามตำรา ก็คือ ดูที่จริต ครับ แต่เรื่อง จริต เป็นเรื่องที่เข้าใจยากนะครับ ผมเคยอ่านฟัง ผมเองยังไม่รู้ว่าตนเองจริตใดมากหรือน้อยหรือมีเสมอกันหลายจริต

  พระอาจารย์แนะนำว่า วิธีที่ดีที่สุด ให้ลองปฏิบัติ ในกรรมฐาน ที่ตนเองชอบ ( ย้ำ ) ว่าชอบนะครับ แล้วให้ลองปฏิบัติดู ถ้าภายใน 7 วัน รู้สึกสบาย มีความปราโมทย์ มีความยินดี จิตสงบได้ไว แสดงว่า กรรมฐานนั้นเหมาะกับจริตของเรานะครับ

  เหมือนจับหนังสือขึ้นมาอ่าน ถ้าจิตชอบ จิตจะอ่านได้จนจบ แต่ถ้าจิตไม่ชอบจิตก็จะอ่านได้สักพัก แล้วก็จะวางหรือหลับ เหมือนดูหนัง ดูละคร เช่นเดียวกันครับถ้าชอบก็จะนั่งดู ถ้าไม่ชอบก็ไม่ดู


  ดังนั้นการเลือกกรรมฐาน ที่เราชอบนั้น เป็นการดีครับ

  สำหรับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ การฝึกพระพุทธานุสสตินั้น เป็นวิธีการฝึกของทุกจริตครับ ถ้าฝึกตามแบบกรรมฐาน มัชฌิมา นะครับแต่ถ้าฝึกเป็นเพียงอนุสสติ เป็น สัทธาจริต เท่านั้นนะครับ

  ขอบคุณพระอาจารย์ที่ได้สอนไว้ครับ

  :) :c017: :25:

                        (http://palungjit.com/feature/data/531/23606438861.jpg)

การเลือกเรียนกรรมฐานให้ถูกจริตตนนั้น หลายต่อหลายท่านสับสนเลือกไม่ถูก ไปไม่เป็น ตัดสินใจไม่ได้ กรณี

อย่างนี้ ผมเองนั้นประสบมาก่อนกล่าวคือ แรกเริ่มเดิมทีผมปฏิบัติแนว “พุท-โธ” สายวัดป่าซึ่งก็สามารถเข้าปิติ

ธรรมได้เร็วสม่ำเสมอ แต่พอมาเรียนกรรมฐาน “มัชฌิมา” ไปไม่เป็นปัคคหะนับหยั่งฐานจิตไม่ได้ยากเหมือนกัน

ล้มลุกคลุกคลานอยู่หนึ่งปีเต็ม พระอาจารย์เรียกว่าไล่เลยกลับไปทำให้ได้ แต่พอทำแล้วก็เห็นผลได้ว่ากรรมฐาน

“มัชฌิมา” ไปตามลำดับง่ายกว่าใครเห็นว่ายากขั้นตอนมากทำไม่ได้อันนี้เรียกว่าขี้เกียจปากพร่ำทำไม่จริง ของ

เก่าครูอาจารย์วางแบบแผนไว้ให้ดีแล้วกลับสู่รู้ว่ายากบาปกินหัวจริงๆ หลากหลายสำนักผมท้าให้ลองทำไปเถอะ

กว่าจะได้เป็นสิบปีโน่นแหละเสียเวลา ผมว่าเราท่านอย่าสู่รู้เกินครู เรียนกรรมฐานไม่ใช่ง่ายว่ากันไปตามลำดับขั้น

ดีกว่าไหม ช้าๆได้คว้าเล่มงาม อยากพ้นทุกข์ แต่สู่รู้เกินครู หรือว่า คนเรานี้ โง่..โครตโครตจริง ยิ่งกว่าลิงสร้างรัง

บนกิ่งไม้สร้างได้สร้างเป็น แต่เร้นกายเข้าอยู่ไม่รู้ นั่งตากแดดลมบนหลังคาซะงั้น เหลือเกิน คน..!



http://board.palungjit.com/f61/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99-257621.html

ผมว่าอยู่ที่ วาสนา บารมี ร่วมกับครูอาจารย์ ด้วยครับ เรื่องอย่างนี้อธิบายกันเป็นตัวอักษร ก็ว่ายากนะครับ
ผมเคยไปนั่งฟังการบรรยาย อานาปานสติ จากครูอาจารย์ มีชื่อเสียงหลายท่าน แต่ไม่โดนใจ เลยครับ

  วันหนึ่งผมไปฟังพระบวชใหม่ แล้วมาแนะนำอานาปานสติ ผมกับฟังเข้าใจครับ ....

  จะให้พูดอย่างไร ก็คือ บารมีสั่งสมยังไม่เต็ม นะครับ

  เรื่องอย่างนี้ต้อง พิจารณาให้ละเอียดครับ ถึงแม้เลือกกรรมฐานได้ตรงจริต แต่จิตไม่ใ่ผ่ เป็นสาวกภูมิ ฝึกแทบตายก็ไม่มีทางเข้าถึงหรอกครับ

  ใช่หรือไม่ โปรดพิจารณา นะครับ
   :25: :25: :25:

ถ้าตอบตามตำรา ก็ ต้องดูที่ จริต นะจ๊ะ

แต่ถ้าจะยอกว่า จะรู้ จริต ตนเองได้อย่างไร ? ก็ตอบว่า บางที ตนเองก็ยังไม่รู้จริต ตนเองว่าไปแนวไหน ? เลยนะจ๊ะ อาตมาเรียนมาก็มาก เรืองจริตเรียนมาตั้งแต่ เป็น สามเณรอายุ 17 ปี ปัจจุับัน ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเอง จริต แนวไหนกันแน่ สับสน ถึงแม้จะนิยามความหมายไว้ให้ทราบในเรื่องจริต แต่บางครั้งจริตมันก็เกิด มากน้อย แตกต่างตามระยะเวลา เช่น

บางทีโกรธ ก็เป็นปี หงุดหงิด คนง่าย ไม่คุยกับคนที่โกรธกันเป็นปี อย่างนี้เป็นโทสะจริต ใช่ไหม

พอไปสักพัก อยากเรียน อยากศึกษาธรรมะ นั่งอ่านตำราพระไตรปิฏก กันเป็นวันๆ เป็นปี สองสามปี ช่วงนี้เป็นพุทธิจริต ใช่หรือไม่ ?

พอมาวัยรุ่นอีกนิด ชอบของสวย ของงาม ฝึกความเป็นเจ้าระเบียบ ชอบติดตามสาวๆ ชอบมอง ชอบดู หนังละคร ตื่นตา ตื่นใจชอบเที่ยว มีแรงนี่ ตอนนี้ก็บอกว่าฉัน มี ราคะจริต ใช่หรือไม่ ?

  ที่กล่าวมานั้น ที่จริง มีตัวอย่างทุกจริต แต่ ละจริต หนัก ๆ ทั้งนั้่น อิน และ อยู่กันเป็นปีในอารมณ์ นั้น ๆ

  ดังนั้นจะตอบให้ตรงก็คือ จริต นั้นเป็นตามวาระ เวลา โอกาส เหตุปัจจัย จริตอันเป็นแก่นนิสัยตนเองนั้น ไม่ใช่เรื่องที่คนปุถุชนอย่างเราจะมาวิเคราะห์ แม้พระอรหันต์ผู้มีปัญญาอย่าง พระอริยะมหาเถราจารย์สารีบุตร ยังต้องพลาดเลยกับ สัทธิวิหาริกของท่่าน ต้องถึงมือ พระพุทธเจ้าเท่านั้น

  ที่จะกล่าวก็คือ จริต อันเป็นอุปนิสัย เดิมแท้กำเนิดนั้นมิใช่วิสัยที่เราจะเข้าใจได้ แต่ เราคงปฏิบัติให้ถูกจริตสภาวะ นั้นเวลานั้น ๆ มากกว่าก็เลือกกรรมฐาน ที่ตรงวาระของจริตนั้น ๆ ก็จะเข้าใจได้

    ยกตัวอย่าง เมื่อก่อนอาตมา ชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ปัจจุบันไม่ชอบอ่าน
                                  ชอบอ่่านหนังสือไอที ปัจจุบันก็ไม่ชอบอ่าน
                                  ชอบอ่านพระไตรปิฏก ปัจจุบันก็เฉย ๆ แล้ว  เป็นต้น

   
    วิธีการเลือกกรรมฐาน ที่เหมาะแก่จริต
      มีเคล็ดง่าย ๆ ก็คือ ลองปฏิบัติภาวนาตามดูแล้ว ถ้าเหมาะก็จะทำได้ แต่ที่สำคัญการขอขมาอย่าขาด เพราะบางครั้งเราถูกปิดกั้นเพราะขาดการขอขมา ก็เป็นไปได้ การถูกปิดกั้นเพราะใจเราไม่บริสุทธิ์ ต่อพระรัตนตรัย ดังนั้น ก่อนภาวนากรรมฐาน ควรกล่าวคำขอขมาต่อพระรัตนตรัยก่อนนะจ๊ะ

  เจริญธรรม

  ;)