สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: suchin_tum ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 05:20:12 pm



หัวข้อ: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 05:20:12 pm

คงต้องบอกให้เพิ่มความสนใจ ในแต่ละขั้น และขอยํ้าว่าทุกลําดับ ตั้งแต่ห้องเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็น พระปีติ 5 พระยุคคล พระสุข รวมทั้ง การเข้าคืบ เข้าสับ ในองค์ธรรม  อนุโลม-ปฎิโลม เข้าวัด-ออกวัด เเละเข้าสะกด ใครได้เรียนมาตามลําดับ มาถึงตรงนี้ ขออนุโมทนาสาธุ จําอารมณ์กรรมฐานเป็นวสี ไว้ให้รู้สึกว่าจําได้บ้างในสิ่ที่ผ่านมา

    เมื่อท่านไต่ถึงระดับหนึ่ง
    กรรมฐานทุกกองจะมารวมกัน โดยอัติโนมัติ ศิษย์กรรมฐานมัชฌิมา จะไม่มีความสงสัยในสภาวะอัดนิ่ง และตายนํ้าตื้นแบบกรรมฐานอื่น เมื่อถึงลมดับ จะไม่มีการกลับมาถาม

     ถึงวันหนึ่ง ในสภาวะ ที่ของเก่าของใหม่รวมกัน ของใหม่เช่นอานาปา กสินของเก่าตั้งเเต่ห้องหนึ่งถูกมัดฟ่อนเข้ามารวม ธาตุไฟมันดิ้น เดี๋ยววิจารย์มันถูกปีตินํ้าเย็นเข้าไปดับวิจารย์มันก็ไม่ดิ้น นั่งฟังเค้าทั้งวันก็ไม่ดิ้น เกิดขึ้นมาเท่าไรมันก็ดับไหลลงหมด หมุนฐาน4 ไหลลงร่องอก อากาสปล่อยลมออกตัวตามจักรที่เปิดอินทรีย์ไว้ตอน เรียนธรม อารมณ์ออกจากทุกข์ออกได้ตามธาตุ ที่ตั้งใจพอกพูน

      เราจะสามารถ แก้สภาวะอัดนิ่งโดยตัวเอง ด้วยตัวเอง
      โดยยึดกายพุทธะเป็นอารมณ์เริ่มต้นเเห่งรูปวัตถุ 16 ส่วนญาณสติก็ค่อยๆอธิบายพระธรรมให้เราได้รู้
     พระธรรมผุด ไม่ใช่สิ่งที่เราปรุงแต่งนั่นเป็นแค่ญาณ ก็ค่อยดูไป บางทีญาณก็หรอก บางทีญาณใหม่มาถล่มญาณเก่า

   เมื่อถึงสภาวะอัดนิ่ง ที่ไม่เคยพบเคยเจอ จงใช้อนุโลมปฏิโลมเข้าวัดออกวัดมาช่วย
     พระอาจารย์บางรูปท่านบอกว่า บางคนหายใจพรวดเดียวเข้าห้อง 4 เลยก็มี บางคนนั่งอธิฐานกรรมฐาน เห็นกายพุทธะ ว๊อบๆแวมก็มี

      การเรียนในฐาน4 ของเก่าเรื่องแผ่เมตตา 8ทิศ 10 ทิศ รวมด้านบน ล่าง นั่นเป็นแค่การเรียน ขั้นตอน แต่ตอนใช้จริง บางทีมัน อาจจะหมุน ได้ ตอนที่ได้ลมหมุนวัฏจักรธาตุ หรือว่าหมุนโลก โลกคือ ดินนํ้าลมไฟอากาส สิ่งเหล่านี้เราต้องจับมันหมุนได้ จะได้อยู่เหนือมัน ไม่ให้มันอยู่เหนือเรา เรียกว่าเราอยู่เหนือกิเลส ก็คือลมอานาปา

     ถึงตอนนั้นกสินก็มาด้วย
          กรรมฐานมัชฌิมา แบบลําดับ พุทธานุสสติ สําคัญที่สุด ได้รู้จักขั้นตอน และรู้จักรูปนาม
        เมื่อถึงสภาวะอัดนิ่ง ก็จะได้เอาตังรอดได้ และไม่ตายในฌาน หรือมีอันต้องล้มกลัว
   ปฏิบัติกรรมฐานมีแต่ สนุก มีแต่ สุข ไต่ระดับ เราได้ตั้งมั่นในความสุข ลูกประคํา 84000 จบ วันนี้เพิ่งได้ 40 จบ

           กรรมฐานมัชฌิมา
ในกรรมฐานยังไม่ให้ไปยุ่งกับความตาย หรืออสุภะ คิดว่าสองพระแรกคงไม่ต้อง ยุ่งรอคําสั่งครูบาอาจารย์ตามลําดับ
       อสุภะของครูบาอาจารย์ที่เคยเล่า ก็น่าจะเป็นทั้งมรณา และอสุภะ เรียกว่าป่าช้า 10สายเจโตป่าช้า 10 อย่างเดียวนะจะ เห็นในนิมิตเลย ครูเล่าว่า เห็นตัวเองตาย จะขอดูภาพ 1วัน หรือตาย1ปี หรือเห็นเป็นกองกระดูก และเห็นสลายไปในดิน เห็นของครูอาจารย์ ท่านสามารถจับต้องได้ และขอให้มีกลิ่นด้วยก็ได้ เรื่องอสุภะ เอาไว้ตอนจะเป็น พระอนาคา นะจ๊ะ

       กรรมฐานมัชฌิมาทุกห้องมีวิปัสสนาอยู่แล้ว ก็คือมีกายานุปัสสนาอยู่แล้ว ขึ้น อานาปา ก็มีความรู้ตัวทั่วพร้อม วิปัสสนาออกโดยความได้ลมนอก ลมใน อุเกขามีเิดทุกวินาที เป็นสติปัฏฐานในองค์ธรรมพระกรรมฐานในตัว ไม่ต้องไปเปรียบเทียบยกให้เป็นแบบสุขวิปัสสก เราเจโตๆๆๆรู้เองไม่ต้องมีใครบอก ได้มาเพราะมีครูกรรมฐานองค์เดียว รักครู และไม่ต้องการให้ครูเหนื่อยกับเราจงตั้งใจ

         อย่าเพิ่งไปยุ่งกับความตาย และ อสุภะ เดี๋ยวจะสลายปีติ เข้าห้องสี่ไม่ได้ กําลังไม่พอ
   เข้าห้องสี่ได้ ต้นจนจบแค่เคี้ยวหมากแหลก ก็อ่านดูตามสโรริกาญาณเลย หรือไม่ก็ไปฟังครูอธิบายในสัญญา 10 ก็ได้

     ศึกษากรรมฐานมัชฌิมาควรหมั่นพอกพูนศรัทธา ศรัทธาในพุทธานุสสติ นําให้ ไปถึงเมตตาเจโตวิมุติได้ ก็คือเชื่อใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
      เรื่องความตายกับอสุภะ เอาไว้ข่มจิต ระงับยับยั้งกิเลส ในชีวิตประจําวันได้ แต่ศิษย์กรรมฐานมัชฌิมาตอนภาวนาไม่ต้อง

          อย่าไปเอากรรมฐานสายอื่นมารวม
มันไม่ละเอียด นั่นไม่ใช่กรรมฐานมัชฌิมา มันไม่หมดจรด
         กรรมฐานบางสายเมื่อถึงลมดับแล้ว มันไปไม่เป็นนะซิจึงไปดึงโน่นดึงนี่มา ของเราไม่ต้อง เราดึงพุทธานุสสติมา ก็ไปได้ จะได้ถึงและขอให้ถึง เมตตาเจโตวิมุติกันทุกองค์ ไปดึงความตายหรืออสุภะมาสลายรูปนามกายจิต สลายกายสลายจิต ไว้รอให้ครูสอนได้เรียนกันหมด เรื่องการเผยแผ่ตอนนี้ต้องเอาชนะสื่อด้วย สื่อมันเเรง เทคโนโลยีมันสูง คนไปยึดสื่อ

     สมัยโบราณห้ามเผยแผ่ ห้ามตีสื่อ ต้องเรียนกับครู ได้ดีหมด มีสื่อไม่ได้ทําให้ฉลาดนะ โง่ขึ้น ติดอุเพงคาปีติ หลงในความคิดติดปีติองค์ที่ 4 จ้า ทิ้งความคิดเอาไปเพิ่มที่ศรัทธา จะได้มากกว่า ผมเคยเห็น อาจารย์เตือนบ่อย ขอให้เชื่อครูสําเร็จแน่ไม่ต้องไปดิ้น ที่ดิ้นไม่ใช่เราเป็นสังขตะในไฟ ขนิกกา ถ้าไฟมันเป็นไฟนํ้า ไฟสีฟ้า เค้าเรียกไฟเย็น กสินไฟมี 7 สี ครูบอกว่าไฟที่ร้อนที่สุดคือไฟสีฟ้า

พระพุทธเจ้าท่านเอาพญานาคลงบาตรได้ ไฟโกรธไฟสีแดงยังไม่เจ๋งเท่าไฟสีฟ้า ขนาดพญานาคยังต้องยอมสยบพระพุทธะ ถ้าอยากได้ของดี เราดีเองมันไม่หมดจรด ดีเองหลงตัวหลงกายหลงใจไม่หมด ทิ้งความคิด และฟังครู ก็ได้หมดอยู่แล้วไม่ต้องเหนื่อยคิดด้วยแค่ตั้งใจ

        ขอให้มีศรัทธา และเชื่อมั่น ในครูบาอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาอย่าแหกคอกเป็นใช้ได้ เรียนเท่าไหร่ก็สําเร็จหมด
                         ช่วงนี้ครูคงเข้านิโรธ ขอเสริมกําลังใจไว้เท่านี้.
                                                  ขอให้ได้ดีทุกท่าน


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 06:39:43 pm
อยากอิ่มสุขตั้งมั่นในธรรม ก็มาเพิ่มบารมี ที่การสวด เวทาสากุ 84000 จบ นับลูกประคํา
ลูกประคําส่วนใหญ่มี 108 เม็ด จบลูกประคํา 1 เที่ยว ก็ได้ พระคาถา เวทาสากุ= 108 จบ
    อย่างข้าพเจ้า ได้ 40 เที่ยว ก็เท่ากับ
        40 คูณ 108 =4320 จบ ตอนนี้เหลืออีก = 80000 จบ ก็สวดไปเรื่อยๆเพื่อเช็คความมั่นคงศรัทธาตั้งมั่น
ในพระรัตนตรัย ไว้สอบอารมณ์ตัวเองแก้ความเกียจคร้าน ที่ติดความชอบเบรอ ชอบพัก ในธาตุลม อากาศ.
             
         


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2012, 08:43:45 pm
ตัวหนังสือ ใหญ่เกินไปครับ พี่ ทำให้รู้สึกอึดอัดเวลาอ่านครับ

 น่าจะย่อลงอีกหน่อยนะครับ

 เนื้อหา ก็อ่านแล้วก็พอทราบได้ว่า พี่ ปฏิบัติตามแนวทางกรรมฐาน มัชฌิมา อยู่นะครับ

  :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsatorn ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:08:13 am
อนุโมทนา ครับ แสดงว่า มีกำลังใจดีนะครับ ที่พยายาม สวดกันเป็น 84000 จบผมลองสวดแบบเล่น ๆ 108 จบประมาณ 20 นาีที นะครับ

  84000 จบ ต้องอาศัยความขยัน สวดทุกวันอย่างน้อยก็วันละ 3 จบ นะครับ

   :25: :25: :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: สถาพร ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:14:46 am
อ้างถึง
ปฏิบัติ กรรมฐานมีแต่ สนุก มีแต่ สุข ไต่ระดับ เราได้ตั้งมั่นในความสุข ลูกประคํา 84000 จบ วันนี้เพิ่งได้ 40 จบ

อนุโมทนา ด้วยครับ ขอให้สวดสำเร็จ ตามที่ตั้งใจนะครับ

 ว่าแต่การสวด มีอานิสงค์อย่างไร ชี้แจงหน่อยได้หรือไม่ครับ
  :25: :25: :25:


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: nongmai-new ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2012, 12:35:29 am
สาธุครับ อยากทราบเหตุผลการสวดด้วยครับ

  :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 01:17:55 am
 ขอตอบ  อะไรก็แล้วแต่ถ้าลงด้วย แปดหมื่นสี่พัน เท่ากับจํานวน พระธรรมขันธ์
        สิ่งนั้นทําเพื่อถวายเป็น พุทธบูชา เป็นการเจริญพุทธานุสสติ
             
มีประวัติมาตั้งแต่ครั้ง พระเจ้าอโศกมหาราช สืบประเพณีกันมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า


หัวข้อ: Re: ศึกษากรรมฐาน มัชฌิมาหากไม่แหกคอก ย่อมถึงสุขตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2012, 01:53:25 pm
อ้างถึง
ปฏิบัติ กรรมฐานมีแต่ สนุก มีแต่ สุข ไต่ระดับ เราได้ตั้งมั่นในความสุข ลูกประคํา 84000 จบ วันนี้เพิ่งได้ 40 จบ

อนุโมทนา ด้วยครับ ขอให้สวดสำเร็จ ตามที่ตั้งใจนะครับ

 ว่าแต่การสวด มีอานิสงค์อย่างไร ชี้แจงหน่อยได้หรือไม่ครับ
  :25: :25: :25:

สาธุครับ อยากทราบเหตุผลการสวดด้วยครับ

  :smiley_confused1:

(http://www.madchima.net/images/308_SAM_0748re.jpg)

อานุภาพของการสวด"พระคาถาไก่เถื่อน" มีดังนี้ครับ

        ๑. พระคาถาไก่เถื่อนนี้ผู้ใดภาวนาได้ 3 เดือน ทุกๆวันอย่าได้ขาด ผู้นั้นจะมีปัญญาดังพระพุทธโฆษาจารย์
      ๒. แม้สวดเทศนาร้องหรือพูดจาสิ่งใดให้สวดเสีย สามที่ มีตบะเดชะนัก
      ๓. แม้สวดได้ถึงเจ็ดเดือนอาจสามารถรู้ใจคน
      ๔. ถ้าสวดได้ครบ 1 ปี มีตบะเดชะนัก ทรงธรรมรู้ยิ่งกว่าคนทั้งหลาย
      ๕. แม้จะเดินทางไกลให้สวด 8 ทีเป็นสวัสดีแก่คนทั้งหลาย

      ๖. ให้เสกหินเสกแร่ไว้สี่มุมเรือน โจรผู้ร้ายเข้าปล้นสะดมมิได้ ผีร้ายมิกล้าเข้ามาในเขตบ้าน คร้ามกลัวยิ่งนัก คนเดินไปถูกเข้าก็ล้มลงแล แพ้อำนาจแก่เรา
      ๗.ให้เขียนอักขระนี้ลงเป็นยันต์ประสาท ลงด้วยเงินก็ดี ทองก็ดี เอาพระคาถานี้เสก 3 คาบไปเทศนาดีนักเป็นเมตตาแก่คนทั้งหลายให้เขียนยันต์ประสาทนี้ไว้กันเรือน กันโจรภัย อันตรายทั้งหลาย

       ๘. เสกปูน ใส่บาดแผลและฝีดีนัก
       ๙. เสกน้ำมันงาใส่กระดูกหัก
       ๑๐. เสกเมล็ดข้าวปลูกงอกงามดีนัก
       ๑๑. เสกน้ำมนต์พรมของกำนัลไปให้ขุนนางท้าวพระยา รักเราแล
       ๑๒. เสกหมาก เมี่ยงทางเมตตา
       ๑๓. ต้องยาแฝด ต้องภัยอันตรายต่างๆก็ดี ให้เสกส้มป่อยหายสิ้นแล
       ๑๔. พระคาถานี้ผู้ใดทรงไว้มีปัญญามาก


(http://www.madchima.net/images/652_SAM_0928re.jpg)

      กระทู้แนะนำให้อ่าน
     ตำนาน "คาถาไก่เถื่อน"
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=18.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=18.0)
     ย้อนรอย "พระคาถาไก่เถื่อน" มหามนต์อันลือลั่นในอดีต
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6490.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6490.0)
     ประสบการณ์ \"ท่องคาถาพญาไก่เถื่อน\" และวิธีการลงอักขระ เลขยันต์
     http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=307 (http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=307)

      เหตุและผลของการสวด"พระคาถาไก่เถื่อน" มาจากบทความข้างต้นและกระทู้ที่แนะนำครับ

      :welcome: :49: :25: ;)