หัวข้อ: ขอรักให้สมหวังกับ..."เจ้าแม่สามมุข" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2012, 12:31:24 pm (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2012/02/13/bcd57akbkbbcceaa65df5.jpg) ขอรักให้สมหวังกับ..."เจ้าแม่สามมุข" "พระตรีมูรติ" หรือ "เทพเจ้าแห่งความรัก" บริเวณด้านหน้าห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจยอดฮิต ที่ไม่ว่าใครต่อใครต่างก็มาอ้อนวอนขอพรกันถ้วนหน้าโดยเฉพาะหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ จากปากต่อปาก กลายเป็นคำเล่าลือถึงอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสามารถดลบันดาลให้คนไม่เคยรักกัน เลิกรักกันไปแล้ว หรือกำลังมีปัญหากับความรัก ได้สมหวังในรสรัก สำหรับเทพเจ้าแห่งความรักของชาวบางแสน ที่มีหนุ่มสาวมาอธิษฐานขอให้ความรักของตนสมหวัง โดยเขียนชื่อตนกับคนรักไว้บนว่าว แล้วแขวนไว้บริเวณศาลโดยเชื่อกันว่าเจ้าแม่สามมุขจะดลบันดาลให้ทุกคู่รักสมหวัง และไม่พลัดพรากจากกันเหมือนดังในตำนานรักของเจ้าแม่สามมุข คือ ศาลเจ้าแม่สามมุกตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา โดยที่มุมหนึ่งของศาล มีผู้เขียนถึงตำนานความรักของท่านไว้ดังนี้ เมื่อปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณบางแสนและเขาสามมุข ยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบันนี้ ‘ณ ตำบลอ่างหิน (อ่างศิลา) มีเจ้าของชื่อโป๊ะ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนามว่า “กำนันบ่าย” มีลูกชายชื่อว่า “แสน” ห่างจากตำบลอ่างหินออกไปพอประมาณ มียายหลานอาศัยกันอยู่คู่หนึ่ง ยายมีชื่อเสียงเรียงนามใดไม่ได้ปรากฏไว้ ส่วนหลานสาวนั้นมีชื่อว่า “สามมุข” อาศัยอยู่ในเมืองปลาสร้อย (จ.ชลบุรีในปัจจุบัน) (http://www.jengsud.com/upload/pic/143563899.jpg) เมื่อบิดามารดาเสียชีวิตลง ก็ได้มาอาศัยอยู่กับยายจนกระทั่งโต “สามมุข” มักจะชอบมานั่งเล่นดูหนุ่มสาวรวมทั้งเด็กที่มาเล่นว่าวในหน้าลมว่าวอยู่ริมเชิงเขาเป็นประจำ และมีเพื่อนที่คอยหยอกล้อเล่นเป็นประจำก็คือลิงป่าที่ลงมาจากเขา" อยู่มาวันหนึ่งขณะที่ “สามมุข” กำลังนั่งเล่นอยู่ ก็ได้มีว่าวตัวหนึ่งขาดลอยลงมาตกอยู่ที่หน้าของสามมุข เธอจึงเก็บว่าวตัวนั้นไว้และมีเด็กหนุ่มชื่อแสนวิ่งตามว่าวที่ขาดลอยมาจึงได้พบกับสามมุข เขาทั้งสองได้รู้จักกันและแสนก็ได้มอบว่าวตัวนั้นไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้พบปะกันเรื่อยมาจนเกิดเป็นความรัก และได้สาบานต่อหน้าขุนเขาแห่งนี้ว่า “ทั้งสองจะครองรักกันชั่วนิรันดร หากใครผิดคำสาบานนี้จะกระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกัน” และแสนได้มอบแหวนวงหนึ่งให้แก่สามมุขไว้เพื่อเป็นพยาน เมื่อกำนันบ่ายซึ่งเป็นพ่อของแสนได้ทราบเรื่องเข้าก็เกิดความไม่พอใจ แสนได้พยายามขอร้องผู้เป็นพ่อให้ไปสู่ขอสามมุข แต่กำนันบ่ายก็กีดกันและกักบริเวณแสนไว้ จึงทำให้ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากัน หลังจากนั้นกำนันบ่ายก็ได้ไปสู่ขอลูกสาวคนทำโป๊ะให้กับแสนและกำหนดพิธีการแต่งงานขึ้น ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอ่างหิน (อ่างศิลา) จนสามมุขเองก็ได้รับรู้ถึงข่าวนี้ด้วย ในวันแต่งงานของแสนได้มีการจัดงานกันอย่างใหญ่โตสมเกียรติกับที่เป็นงานของกำนันบ่าย ตลอดระยะเวลาที่แขกทยอยเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรให้คู่บ่าวสาวทั้งสอง แสนได้แต่ก้มหน้านิ่งเสียใจอยู่กับตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งแสนรู้สึกว่ามีน้ำสังข์ลดลงมาพร้อมกับแหวนวงหนึ่งตกลงมาด้วย แสนจำได้ดีว่าแหวนวงนี้เขาเป็นคนมอบให้สามมุขแต่พอเงยหน้าขึ้นสามมุขก็ได้วิ่งจากออกไปแล้ว แสนได้หวนคิดถึงคำสาบานที่ได้ให้กับสามมุขไว้ จึงรีบวิ่งไปที่เชิงเขาแต่ก็สายไปเสียแล้ว สามมุขได้ขึ้นไปที่หน้าผานั้นแล้วทิ้งร่างที่ไร้หัวใจลงดิ่งสู่ก้นผาสิ้นชีพอยู่ริมทะเล แสนผู้ที่ให้คำสาบานไว้กับสามมุขเขาจึงกระโดดลงหน้าผาตามสามมุขหญิงสาวสุดที่รักไป (http://www.coloroftheeast.com/user-files/new%20chonburi/kohsammook.JPG) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันเศร้าสลดใจเป็นอย่างมาก จึงพากันสาปแช่งกำนันบ่าย ต่อมากำนันบ่ายได้นำถ้วยชามสิ่งของต่างๆ มาไว้ในถ้ำตรงหน้าผาแห่งนั้นและตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า “เขาสามมุข” และชายหาดที่ติดกันว่า “หาดบางแสน” เพื่อเป็นอนุสรณ์รักแด่คนทั้งสองจนถึงปัจจุบัน ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นเล่าว่า “เมื่อตกดึกได้พบเห็นร่างของหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าผานั้นเป็นประจำทุกคืน” ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างศาลนี้ขึ้น เพื่อเป็นที่สิงสถิตและเป็นที่เคารพสักการะแก่ชาวบ้านและชาวประมงเมื่อเวลาที่จะออกเรือไปหาปลามักจะมีการมาจุดประทัดบนบานขอให้ได้ปลากลับมาเต็มลำเรือ อย่าต้องเผชิญกับลมพายุ บางครั้งเจอลมพายุกลางทะเลก็จุดธูปบนเจ้าแม่สามมุขให้รอดปลอดภัยจากอันตรายก็สัมฤทธิผลเรื่อยมา ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.komchadluek.net/detail/20120214/122910/ (http://www.komchadluek.net/detail/20120214/122910/)ขอรักให้สมหวังกับ...เจ้าแม่สามมุข.html http://www.jengsud.com/,http://www.coloroftheeast.com/ (http://www.jengsud.com/,http://www.coloroftheeast.com/) หัวข้อ: Re: ขอรักให้สมหวังกับ..."เจ้าแม่สามมุข" เริ่มหัวข้อโดย: naka-54 ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2012, 03:24:24 pm (http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/397742_337930949558507_100000248144271_1360122_1843681912_n.jpg)
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=337930949558507&set=p.337930949558507&type=1&theater อ่านคำวิจารณ์ แต่ละท่่านที่ลิงก์นะคะ |