หัวข้อ: อยากพ้นทุกข์ ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า ร่วมปฏิบัติธรรม 29 ก.พ.- 7 มี.ค พ.ศ 2555 เริ่มหัวข้อโดย: paitong ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2012, 07:00:28 am อย่าปฎิเสธสิ่งที่คุณยังไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นเอาจเป็นสิ่งที่คุณค้นหามาทั้งชีวิต
สนใจการปฏิบัติธรรม, อยากพ้นทุกข์, ปฏิบัติธรรมไม่ก้าวหน้า ร่วมปฏิบัติธรรม 29 ก.พ.- 7 มี.ค พ.ศ 2555 ที่สถานปฎิบัติธรรมศิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว) อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ติดต่อที่ อ.แปลง สุวรรณกาญจน์ โทร.086-8548018 มีหัวข้อดังนี้ เนื้อหาหลักสูตร 7 วัน วันแรก… ปัญหาชีวิต รู้จักตน รู้จักธรรมจึงจักทำชีวิตให้มีสุขได้ วันที่ 2 กิเลสวัฏฏะ กรรมวัฏฏะ วิบากวัฏฏะ กฎแห่งกรรม วิธีแก้กรรม วันที่ 3 ภพภูมิอันเป็นที่อยู่ของจิตวิญญาณ 26 ชั้นฟ้า 5 ชั้นดิน วันที่ 4 ทาน ศีล สวรรค์ อาทีนพ เนกขัมมะ วันที่ 5 ศีล สมาธิ ปัญญา อานิสงส์เลิศ ทำได้อย่างไร วันที่ 6 มหาสติ มหาปัญญา พารู้ธรรม เห็นธรรม บรรลุมรรคผลนิพพาน วันที่ 7 อาสวักขยญาณและจิตบริสุทธิ์ ปรัชญาสถาบัน …หาตนให้เห็น…บริโภคให้เป็น..ดำรงตนให้สมควร…จะมีสุขเป็นนิรันดร์ ประสบการณ์ อ.แปลง สุวรรณกาญจน์ - ถือศีลปฏิบัติธรรม 44 ปี - โล่เกียรติยศ ผู้มีผลงานด้านจริยศึกษา ดีเด่น กระทรวงศึกษาธิการ ปี 2536 - รางวัลเสมาทองคำ สาขา การแต่งหนังสือพุทธศาสนาดีเด่น ปื 2542 ผู้เขียนหนังสือ ตายแล้วไปไหน อยู่บ้านนิพพานได้ รู้ทันกรรมนำสุขพ้นทุกข์ อุโบสถศีล พัฒนาจิต - วิทยากรบรรยาย แนวทางปฏิบัติธรรม อย่างฆราวาส 25 ปี - ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติธรรม ศิริอาริโย (ดงยางเดี่ยว) มีกิจกรรมฟังธรรม รักษาศีลแปด เดินจงกรม นั่งสมาธิ ทุกวันพระ ข้อความชวนคิด … ทำจริงจึงได้ผล… ทุกคนมีโอกาส… อย่าประมาทนอนใจ…หาโอกาสให้แก่ตัว… อย่ามัวเมาจนเกินไป… ไม่เอาไปสักสิ่งอัน… สุขเลิศนั้น คือ จิตสงบ ภารกิจประจำวัน 04.00-05.00 ตื่นทำความเพียร/ธรรมรับอรุณ 05.00-06.00 ทำวัตรสวดมนต์เช้า 06.00-08.00 กิจส่วนตัว ทำอาหาร 08.00-10.00 ทานอาหาร เก็บล้าง ทำความสะอาด 10.00-12.00 ทำความเพียร/เดินจงกรม 12.00-14.00 พักผ่อนตามอัธยาศัย 14.00-15.00 ดื่มน้ำปานะ ปานะมัตถ์ 15.00-16.00 สนทนาธรรม ซักถามปัญหา 16.00-18.00 ทำความสะอาดบริเวณอาคารที่พัก 18.00-19.00 เดินจงกรม/นั่งสมาธิ 19.00-20.30 ทำวัตร สวดมนต์เย็น 20.30-23.00 บรรยายเนื้อหาหลักสูตร 23.00-24.00 เดินจงกรม นั่งสมาธิ 24.00-04.00 ปฏิบัติตามอัธยาศัย พักนอน หลายคนอยากมีความสุขตลอดไป ไม่อยากพบกับความทุกข์ยากลำบาก หลายคนอยากพ้นทุกข์เพราะเห็นว่าชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ยากลำบาก แต่จะมีความสุขตลอดไปได้อย่างไร จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร คิดไม่ออกบอกไม่ได้ มองไม่เห็นแนวทาง เนื่องจากอวิชชาปิดบังเอาไว้ ทำให้มืดบอดอยู่เช่นนั้น ใครๆก็คิดว่าความคิดของตนเองถูก ต่างคนต่างก็ดำเนินชีวิตไปตามแนวคิดที่เป็นความเชื่อของตนเอง ซึ่งบางทีก็ผิดบางทีก็ถูก ไม่เป็นสัมมาทิฐิตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ทั้งหมด ชีวิตก็เลยเป็นไปต่างๆ ตามกรรมวัฏฏะ หลายคนคิดว่าการออกบวชเท่านั้น จึงจะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพานได้ หลายคนคิดว่านิพพานเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องยากเย็นเกินกว่าฆราวาสผู้ไม่ได้บวชจะรู้ได้เห็นได้เข้าใจได้ หลายคนคิดว่ามรรคผลนิพพานเป็นเรื่องหมดเขตหมดสมัยแล้ว นักบวชในสมัยนี้ไม่สามารถบรรลุเป็นพระอริยะเจ้าได้ ยิ่งคนไม่ได้บวชยิ่งหมดโอกาสรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน ความ คิดเหล่านี้เป็นความคิดของคนที่ไม่เจริญในไตรสิกขา คือไม่เจริญในศีล สมาธิ ปัญญา หรือไม่ได้ปฏิบัติภาวนา หรือปฏิบัติภาวนาแต่ไม่ถึงขนาดที่จะรู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุมรรคผลนิพพาน อาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เป็นต้นว่า ไม่พบครูอาจารย์ที่รู้จริงเห็นจริงปฏิบัติได้จริง ซึ่งแม้มีอยู่ก็ไม่รู้จักท่านเนื่องจากไม่ได้ทำบุญร่วมกับท่านมาแต่ปางก่อน หรือสะสมบุญบารมียังไม่เต็มรอบ 1 อสงไขย หรือยังไม่พอที่จะบรรลุมรรคผล หรือมีกรรมประมาทต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ หรือครูบาอาจารย์นั้นๆ ในอดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ ทำให้ปิดโอกาสในการคบหาสมาคม แม้รู้จักกันเห็นกันอยู่ก็ไม่รู้ว่าท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน ยิ่งอริยบุคคลที่เป็นฆราวาส ยิ่งเป็นการยากยิ่งขึ้นในการที่จะรู้ว่า ท่านบรรลุคุณธรรมชั้นไหน มีคุณศีลคุณธรรมเพียงใด เนื่องจากผู้มีศีลจะรู้ได้เมื่อได้อยู่ร่วมกัน ผู้มีคุณธรรมจะรู้ได้เมื่อได้สนทนากัน อนึ่ง ผู้ทรงศีลทรงธรรมทรงปัญญาบรรลุมรรคผลนิพพาน ท่านชอบความสงบวิเวกเกื้อกูลต่อการปฏิบัติบำเพ็ญรักษาศีลภาวนา ทำความเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิ ท่านจะมุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญของท่านอยู่เช่นนั้นตามป่า ตามเขา หรือตามบ้านตามเรือน อันเป็นที่อยู่เฉพาะของท่าน โดยไม่ค่อยสนใจเรื่องของทางโลกมากนัก หลายท่านหลายองค์คนจะรู้จักฮือฮาก็ต่อเมื่อท่านละสังขารเสียแล้ว เราหมดโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำสั่งสอนเพื่อการบรรลุมรรคผลนิพพานจากท่านเสียแล้วจึงรู้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับผู้ไม่มีโอกาสได้พบเห็นท่านนานๆ จะมีผู้รู้จริงเห็นจริงเปิดเผยตัวให้เรารู้จักสักครั้งหนึ่ง ผลงานอันยิ่งใหญ่มักจะเป็นเครื่องชี้ถึงบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ กวีนิพนธ์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ท่านจะเปิดเผยให้เราเห็น ผู้ฉลาดน่าจะไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไป การศึกษาบทประพันธ์ที่น่าศึกษาในโอกาสต่างๆ อาจทำให้เรารู้จักผู้รู้ธรรมเห็นธรรมบรรลุธรรมก็ได้ ถ้ามานะทิฐิไม่สูงจนเกินไป การได้เห็นได้รู้ได้พบในครั้งนั้นๆ อาจเป็นบุญมหาศาลสำหรับเรา โอกาสดีมักชักนำให้มีโชคดี ขอให้โอกาสดีโชคดีจงมีแก่ทุกตนทุกคนเทอญ อย่าปฎิเสธสิ่งที่คุณยังไม่รู้ เพราะสิ่งนั้นเอาจเป็นสิ่งที่คุณค้นหามาทั้งชีวิต ติดต่อสอบถาม ได้ที่ท่านอาจารย์แปลง สุวรรณกาญจน์ ที่เบอร์ (086-854-8018) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่ คุณอั้ม โทร.08-5196-5925 http://www.tourwat.com/4378/ (http://www.tourwat.com/4378/) |