หัวข้อ: สมาธิเปรียบเสมือนตะปู ปัญญาเปรียบเสมือนค้อน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2012, 10:17:41 am (http://www.pupasoong.com/DATA/Book/ThanporLee/porlee_cover1.JPG) สมาธิเปรียบเหมือนตะปู ปัญญาเปรียบเหมือนค้อนที่ตอกตะปู (คำสอนของท่านพ่อลี ธัมมธโร) "สมาธิเปรียบเหมือนตะปู ปัญญาเปรียบเหมือนค้อนที่ตอกตะปู ถ้าตะปูเอียงไป....ค้อนก็ตีผิดๆถูกๆ ตะปูนั้นก็ไม่ทะลุกระดานนี้ฉันใด ใจเราจะบรรจุธรรมชั้นสูงทะลุโลกได้ จะต้องมีสมาธิเป็นหลักก่อน แล้วจึงเกิดญาณ" (http://www.nokroo.com/picture/nokroo_1292549122_8515.jpg) ที่มา http://board.palungjit.com/f4/ (http://board.palungjit.com/f4/)สมาธิเปรียบเหมือนตะปู-ปัญญาเปรียบเหมือนค้อนที่ตอกตะปู-ท่านพ่อลี-ธัมมธโร-325751.html ขอบคุณภาพจาก http://www.pupasoong.com/,http://www.nokroo.com/ (http://www.pupasoong.com/,http://www.nokroo.com/) หัวข้อ: ตอแห่งจิต และ กิเลสมัดใจ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2012, 10:54:37 am (http://www.jjmalls.com/original/jjmalls_20100223101450.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ ชื่อมัชนิกาย มูลปัณณาสก์ เป็นสุตตันตะปิฎกเล่มที่ ๔ ๑๖ . เจโตขีลสูตร สูตรว่าด้วยการอนุมาน ๑. พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชวตนาราม ทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย ถึงเรื่องที่ว่า ถ้าภิกษุยังละกิเลสที่เปรียบเหมือนตอของจิต (เจโตขีละ) ๕ ประการ และถอนกิเลสที่เปรียบเหมือนเครื่องผูกมัดจิต (เจตโสวินิพันธะ) ๕ ประการไม่ได้ ก็มิใช่ฐานะที่ภิกษุนั้นจะถึงความเจริญงอกงามไพบูลในพระธรรมวินัยนี้. (http://www.pixpros.net/forums/attachment.php?attachmentid=289004&stc=1&d=1275199023) ตอของจิต ๕ ๒. แล้วทรงแสดงกิเลสที่เปรียบเหมือนตอของจิต ๕ ประการ คือ ๑. สงสัยในพระศาสดา ๒. สงสัยในพระธรรม ๓. สงสัยในพระสงฆ์ ๔. สงสัยในสิกขา (ข้อที่จะต้องศึกษา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา) ๕. โกรธเคืองในเพื่อนพรหมจารี เมื่อมีความสงสัยหรือโกรธเคืองข้อใดข้อหนึ่งนี้แล้ว จิตก็ไม่น้อมไปเพื่อความเพียร. เครื่องผูกมัดจิต ๕ ๓. แล้วทรงแสดงกิเลสที่เปรียบเหมือนเครื่องผูกมัดจิต ๕ ประการ คือ ๑. ไม่ปราศจากความกำหนัดพอใจรักใคร่ในกาม ๒. ไม่ปราศจากความกำหนัดพอใจรักใคร่ในในกาย ๓. ไม่ปราศจากความกำหนัดพอใจรักใคร่ในรูป ๔. กินแล้วก็ประกอบสุขในการนอน ๕. ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยหวังว่าจะไปเกิดในเทพพวกใดพวกหนึ่ง เมื่อมีกิเลสเหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง จิตก็ไม่น้อมไปเพื่อความเพียร. (http://commondatastorage.googleapis.com/static.panoramio.com/photos/original/37041169.jpg) ๔. ถ้าละและถอนกิเลสข้างต้นเสียได้ ก็มีฐานะที่จะถึงความเจริญงอกงามไพบูลในพระธรรมวินัยนี้. ๕. ทรงแสดงภิกษุผู้ประกอบด้วยอิทธิบาท คือ คุณธรรมที่ให้ถึงความสำเร็จ ๔ ประการ คือ ๑. พอใจ ๒. เพียร ๓. คิด ๔. ไตร่ตอง พร้อมทั้งมีความกระตือรือร้น(อุสฺโสฬฺหิ)เป็นที่ ๕ รวมเป็นมีคุณธรรม ๑๕ อย่าง คือ ละกิเลสอย่างละ ๕ สองอย่างข้างต้น กับคุณธรรมอีก ๕ อย่าง ก็สามารถจะตรัสรู้ได้ เปรียบเหมือนแม่ไก่กกไข่ดี แม้ไม่ปรารถนาอะไรมาก ลูกไปก็ออกมาได้ฉะนั้น. อ้างอิง พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน อ.สีชีพ ปุญญานุภาพ http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/4.2.html (http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/4.2.html) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "เจโตขีลสูตร ว่าด้วยตะปูตรึงใจ" พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ บรรทัดที่ ๓๔๕๐ - ๓๖๓๐. หน้าที่ ๑๔๐ - ๑๔๖. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=3450&Z=3630&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=3450&Z=3630&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=226 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=226) ขอบคุณภาพจาก http://www.jjmalls.com/,http://www.pixpros.net/,http://commondatastorage.googleapis.com (http://www.jjmalls.com/,http://www.pixpros.net/,http://commondatastorage.googleapis.com) |