หัวข้อ: จริงหรือไม่..มาฆบูชา..คือ 'วันแห่งความรัก' เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 02, 2012, 10:22:58 am (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/03/01/242384/hr1667/630.jpg) จริงหรือไม่..มาฆบูชา..คือ 'วันแห่งความรัก' สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รักทุกท่าน คงยังไม่สายเกินไปถ้าคุณครูลิลลี่จะมาถามว่า เมื่อเทศกาลแห่งความรักที่ผ่านมา 14 กุมภาพันธ์ คุณ ๆ ได้ทำอะไรให้คนที่คุณรักกันไปบ้างหรือยังคะ ติ๊กต่อก ๆ ๆ คิดกันใหญ่ บางคนบอกว่าทำแล้ว บางคนบอกว่ายังไม่ได้ทำ บางคนมีบ่นเสียดายที่ไม่กล้าทำ และก็มีบางคนที่อยากทำแต่ไม่มีเวลา แล้วจะทำอย่างไรดีละคะ 14 กุมภาผ่านไปแล้วเสียด้วย ครั้นจะให้รอวันแห่งความรักเวียนกลับมาอีกทีก็ปีหน้าโน่นเลย..เห็นทีจะช้าเกินไป..รอไม่ไหว แต่ถ้าคุณครูลิลลี่จะบอกว่า วันแห่งความรัก(อีกวัน) กำลังจะมาถึง สนใจจะแก้ตัว แสดงความรัก บอกรัก มอบความรัก กันอีกครั้งไหมคะ อ้าว..อย่าทำหน้างงกันอย่างนั้นสิคะ จริง ๆ ค่ะ เรายังมีวันแห่งความรักอยู่อีก 1 วัน ที่สำคัญกำลังจะมาถึงเสียด้วย นั่นก็คือ วันที่ 7 มีนาคมนี้ค่ะ ไม่ใช่อื่นใด ไม่ต้องสงสัย “วันมาฆบูชา” นี่แหละค่ะ ที่คุณครูลิลลี่ขอเรียกว่าเป็น “วันแห่งความรักของพุทธศาสนิกชน” ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะว่าความรักไม่ได้มีความหมายเพียงความรักระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก อาจารย์กับศิษย์ เพื่อนกับเพื่อน รวมไปถึงความรักที่มนุษย์พึงมีต่อเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันอีกด้วย และเพราะ “ความรัก” มีความหมายที่กว้างขวาง ไร้ขอบเขตนี่เอง หลายๆคนจึงถือว่า “วันมาฆบูชา” ที่เป็นวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนาเป็น “วันแห่งความรัก” เพราะอะไรหรือคะ ก็เพราะในวันนี้ได้เกิดเหตุการณ์พิเศษที่เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” ขึ้น ถือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ประกาศหลักธรรมคำสอนแห่งพุทธศาสนา อันมีเนื้อหาหลัก ว่าด้วยการส่งเสริมให้มวลมนุษย์ตั้งมั่นในการทำความดี ละความชั่ว ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน นั่นก็คือ ทรงสอนให้ทุกคนมีความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เพราะสอนให้รู้จักรัก และเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก โดยมีพระสงฆ์เป็นผู้นำพระธรรมคำสั่งสอนดังกล่าวไปเผยแผ่ ชัดเจนขนาด นี้ก็ไม่มีใครสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมคุณครูลิลลี่ถึงเรียกวันมาฆบูชาว่า เป็น “วันแห่งความรัก” ทางพุทธศาสนา พูดมาถึงขนาดนี้แล้วก็ขออนุญาตให้ความรู้เกี่ยวกับวันสำคัญวันนี้อีกสักนิด นะคะ คำว่า “มาฆบูชา” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆะ คือ เดือน 3 หรือพูดง่ายๆว่า เป็นวันที่พระจันทร์ เต็มดวงในคืนขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 นั่นเอง เหตุที่ถือว่า “วันมาฆบูชา” เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ก็เพราะในวันนี้ ได้มีพระสงฆ์ที่พระพุทธองค์ได้ส่งออกไป เผยแผ่พุทธศาสนาตามเมืองต่างๆพร้อมใจกันกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัด หมายกันถึง 1,250 รูป ซึ่งถือว่าเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง และ ว่ากันว่ากลับมารวมกันได้เพราะความรักในพุทธศาสนานั่นเอง และในโอกาส นี้เองพระพุทธเจ้าจึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นการประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติในการเผยแพร่พุทธศาสนาให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม ซึ่งหลักธรรมคำสอนดังกล่าวจะเรียกว่าเป็น ธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือหัวใจของพุทธศาสนา ก็ว่าได้ ทราบความสำคัญและรู้ที่มาที่ไปว่าทำไม มาฆบูชา ถึงเป็นวันแห่งความรัก กันไปแล้ว ก็มาถึงวิธีปฎิบัติและแสดงความรักต่อกันในวันนี้ ไม่ต้องรีบไปหาดอกกุหลาบ หรือ ช็อกโกแลต รสดีที่ไหนนะคะ (ช็อกโกเลตก็สะกดได้นะคะ) คุณครูลิลลี่ขอบอกเลยว่าวันแห่งความรักทางพุทธศาสนานี้ขอแค่จิตใจที่บริสุทธิ์ก็เพียงพอ จำไว้นะคะ ง่าย ๆ 3 ข้อ “ทำความดี – ละเว้นความชั่ว – ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” เท่านี่แหละค่ะ คือ ของขวัญอันมีค่าที่จะให้กับตัวเองและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีในวันสำคัญวันนี้ รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ก็ปฏิบัตินะคะ...สวัสดีวันแห่งความรักค่ะ คุณครูลิลลี่ ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/242384 (http://www.thairath.co.th/content/edu/242384) |