หัวข้อ: ปีนเขาคิชฌกูฏ ไหว้"พระบาทพลวง" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 03, 2012, 09:36:40 pm (http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2012/03/tou01030355p1.jpg&width=360&height=360) ปีนเขาคิชฌกูฏ ไหว้"พระบาทพลวง" นับตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนเป็นต้นมา เรื่อยจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือ "วันมาฆบูชา" ปีนี้ตรงกับวันที่ 7 มี.ค. บรรยากาศบน "เขาคิชฌกูฏ" หรือ "เขาพลวง" ชื่อเดิมที่ชาวบ้าน อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เรียกขานกัน คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนไม่เว้นแม้แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ ต่างดั้นด้นขึ้นเขาเพื่อมานมัสการสักการะรอยพระพุทธ บาทบนยอดเขาแห่งนี้ หรืออีกชื่อ "พระบาทพลวง" ตามชื่อเดิมของภูเขา จากปากต่อปากของผู้คนที่เคยมาต่างพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ จึงส่งผลให้ประชาชนนิยมมานมัสการพระบาท พลวงเป็นจำนวนมากเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ยิ่งตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปีมีประชาชนขึ้นมานมัส การกันทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ถือเป็นรอยพระ พุทธบาทที่สูงที่สุด ของประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ มีพื้นที่ครอบคลุม อ.มะขาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ห่างจากตัวเมืองจันท์ประมาณ 40 กิโลเมตร http://www.youtube.com/watch?v=CSkGmqmIc1Y#ws (http://www.youtube.com/watch?v=CSkGmqmIc1Y#ws) เขาคิชฌกูฏยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี ภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีความหลากหลายทางพันธุ์พืช อุดมไปด้วยสมุนไพร และกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งพันธุ์ไม้หายากอย่าง "กฤษณา" วกกลับมาที่รอยพระพุทธบาท สิ่งคู่กันคือ พระครูธรรมสรคุณ (เขียน ขันธสโร) หรือชาวบ้านเรียกว่า "ท่านพ่อเขียน" เจ้าอาวาสวัดกะทิง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ และอดีตเจ้าคณะอำเภอมะขาม จ.จันทบุรี เนื่องจากท่านถือเป็นผู้หนึ่งที่บุกเบิกให้พุทธศาสนิกชน ขึ้นมาสักการะรอยพระพุทธบาท บนยอดเขาคิชฌกูฏ จนกลายเป็นประเพณีสืบมาจนถึงทุกวันนี้ โดยในปีนี้ทางคณะกรรมการวัดกำหนดในระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 กำหนดระยะ 60 วัน เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 24 มี.ค. เป็นเทศกาลขึ้นเขาแสวงบุญ ก่อนจะเปิดให้ขึ้นเขา ท่านพ่อเขียนจะทำพิธีปิดป่าเพื่อเปิดเขาให้พุทธศาสนิกชนขึ้นมานมัสการพระบาทพลวง ซึ่งพิธีนี้ผ่านพ้นไปแล้ว พิธีปิดป่าในความหมายของท่านพ่อเขียน หมายถึง ปิดตา มิให้ภูตผีปีศาจ หรือสัตว์ร้ายได้มองเห็น หรือเข้ามาในบริเวณเส้นทางเดินขึ้นเขา อีกทั้งยังเป็นการบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินเพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อให้ทุกคนที่มาขึ้นเขาคิชฌกูฏแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ สำหรับการเดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาท บนยอดเขาคิชฌกูฏ มาตามถนนสุขุมวิท เมื่อมาถึงหลักก.ม.ที่ 324 เป็นสี่แยกเขาไร่ยา ให้เลี้ยวซ้ายไปเส้นทางถนนพระบำราศนราดูร มุ่งหน้าไปอ.เขาคิชฌกูฏ ระยะทาง 18 ก.ม. ถึงตลาดกะทิง ผ่านสะพานข้ามคลองกะทิง ตรงหน้า วัดกะทิง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ พบสี่แยกให้เลี้ยวขวาไปวัดพลวง ระยะทาง 3 ก.ม.แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางขึ้นเขื่อนเก็บน้ำบ้านพลวง จุดนี้ต้องจอดรถยนต์ฝากไว้ที่กรรมการวัดพลวง http://www.youtube.com/watch?v=b8m5vtlAPYQ# (http://www.youtube.com/watch?v=b8m5vtlAPYQ#) จากนั้นต้องใช้บริการรถกระบะโดยสารไม่มีหลังคา เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ไต่เขาขึ้นที่สูงได้ คนขับชาวบ้านที่เป็นลูกศิษย์ท่านพ่อเขียนมีความชำนาญขับขี่รถยนต์ และเส้นทางขึ้นเขาระยะทาง 8 ก.ม. แต่ต้องจอดรอเพื่อถ่ายรถยนต์คันที่ 2 หรือระยะที่ 2 เส้นทางลาดยาง และมีจุดจอดรถยนต์รอสวนทางกัน ไม่ขับเร็ว จำกัดความเร็ว ราคาไปกลับขึ้น-ลงรวม 200 บาท การขึ้นเขาพระบาทพลวงเปิดบริการตลอด 24 ช.ม. มีแสงสว่างรายทาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครชาวบ้านสอดส่องดูแลความปลอดภัย จึงมีผู้คนขึ้นลงเขาตลอดเวลา 24 ช.ม. เมื่อสุดเส้นทางรถยนต์แล้วต้องเดินขึ้นเขาไปตามบันไดปูนอีกประมาณ 1.2 ก.ม. ก็ถึงที่จุดหมาย นอกจากจะได้นมัสการพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังจะได้ชมความงดงามแปลกอัศจรรย์ของหินลูกพระบาท ก้อนหินกลมใหญ่ริมหน้าผา และได้รับความสดชื่นจากบรรยากาศบนยอดเขาคิชฌกูฏ นอกจากนี้ หากใครถึงวัดพลวงตอนเย็นสามารถพักค้างคืนเพื่อเริ่มขึ้นยอดเขาในตอนเช้าได้ โดยทางวัดมีที่พักและที่อาบน้ำไว้รองรับคนได้จำนวนมาก http://www.youtube.com/watch?v=b_mvDavHuaw# (http://www.youtube.com/watch?v=b_mvDavHuaw#) ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMGIzVXdNVEF6TURNMU5RPT0=§ionid=TURNeE9RPT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB3TXc9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMGIzVXdNVEF6TURNMU5RPT0=§ionid=TURNeE9RPT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB3TXc9PQ==) หัวข้อ: Re: ปีนเขาคิชฌกูฏ ไหว้"พระบาทพลวง" เริ่มหัวข้อโดย: นาตยา ที่ มีนาคม 04, 2012, 08:22:22 am ก็เป็นโอกาสที่เปิดให้ปี ละครั้ง ก็ขอให้ทุกท่านได้บุญ คะ เคยไปมาแล้วคะ ไปถึงที่นั่น 5 โมงเย็น ลงมาตอน 2 ทุ่่มคะ เดินขึ้นเอาเรื่องเหมือนกันคะ วันนั้นไปฝนตกด้วยยอมเปียกคะ แต่สุดท้ายบอกได้เลยคะว่า หนาว ๆ มาก ๆ คะ นึกว่าเปียกแล้วอากาศไม่เย็น ๆ มาก ๆ คะ สมกับว่าอยู่ในป่า ยอดเขาเลยคะ
แนะนำ วัดเขาสุกิม อีกทีนะคะ ..... ถ้าไปแล้ว เมืองจันทบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวแล้วได้บุญอีกหลายแห่งคะ สาธุ สาธู สาูธุ :25: :25: :25: |