หัวข้อ: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 08, 2012, 12:58:11 pm (http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/pic2/106.jpg) ภาพที่ 106 โปรดชายไถนา พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมกับคนไถนา คนไถนาเขาต่อว่าพระสมณโคดมว่า ไม่เห็นทำมาหากิน ทำไร่ไถนาอะไร เที่ยวบิณฑบาตขอเขาอยู่เรื่อยไป พระองค์เมื่อได้ยินชายไถนากล่าวต่อว่าดังนั้น จึงทรงแสดงธรรมโปรดชายไถนาว่า เราก็ทำนาเหมือนกัน มีอมตะเป็นผล คือ มีความไม่ตายนี้เป็นข้าวเปลือกเป็นผล เรามีขันติเป็นงอนไถ มีสติเป็นเหมือนเชือก มีผาลเป็นปัญญาที่ จะไถพลิกความโง่ออกจากจิตใจ พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดสั้น ๆ ครั้นปรากฏว่าพอแสดงธรรมไปแล้ว พราหมณ์ผู้ทำนานี้เกิดเลื่อมใสศรัทธา เพราะว่าไอ้คันไถอย่างนั้น เชือกอย่างนั้น มันหายากเหมือนกันนะ ผาลไถนี่เราก็ทำกันได้ เดี๋ยวนี้ใช้เครื่องผาลไถพลิกกลับดินให้งอกงาม ทำให้ต้นไม้ขึ้นดี แต่ว่าพระองค์นั้นทรงใช้ปัญญา พระผู้มีพระภาคทรงไปโปรดพราหมณ์ผู้ทำนา ปรากฏว่าพราหมณ์ก็ได้พูดกับพระพุทธเจ้าว่า ท่านจะทำนาบ้างไม่ได้หรือไง ผู้ที่ทำนาก็ย่อมได้ข้าวกิน เมื่อไม่ได้ทำนาก็ไม่ควรจะกิน พูดตามภาษาบ้านเราก็ว่าอย่างนั้นเถอะ ปรากฏว่า พระองค์ก็บอกว่าเราก็ทำนาเหมือนกัน ชาวนาผู้เป็นพราหมณ์ก็ถามว่า เอ้า ไหนล่ะเครื่องมือในการทำนาไม่เห็นมีอะไร มีแต่บาตรลูกเดียวจะทำได้อย่างไร พระองค์ก็ทรงตอบว่า เรามีศรัทธาเป็นเสมือนพืชเป็นเหมือนเมล็ดที่จะเพาะปลูกงอกงามเป็นผล เรามีปัญญาเป็นเหมือนแอกและไถ มีหิริเป็นงอนไถ ใจเป็นเชือกชัก สติของเราเป็นผาลและปฏัก เรามีกายคุ้มครอง ดีแล้ว มีทวารมีวาจาอันคุ้มครองดีแล้ว เป็นผู้สำรวมแล้วในการบริโภคอาหาร เราทำการ ดายหญ้าด้วยคำสัตย์ โสรัจจะของเราเป็นเครื่องให้เสร็จงาน ความเพียรของเราเป็นเครื่องนำธุระไปให้สมหวัง นำไปถึงความเกษมจากโยคะ คือ ปราศจากเครื่องผูกพันนั้น ไปไม่ถอยหลังยังที่ซึ่งบุคคลไปแล้วไม่ต้องโศก มีอมตะเป็นผล นี้คือ การทำนาของเรา บุคคลทำนาอย่างนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้เหมือนท่านต้องการข้าวไปแก้หิว เรานั้นก็มีคุณธรรมดังที่ได้กล่าวนี้เป็นเครื่องให้พ้นทุกข์ด้วยเช่นกัน ที่มา http://www.watkoh.com/kratoo/printer_friendly_posts.asp?TID=375 (http://www.watkoh.com/kratoo/printer_friendly_posts.asp?TID=375) ขอบคุณภาพจาก http://www.rmutphysics.com/ (http://www.rmutphysics.com/) หัวข้อ: Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 08, 2012, 01:17:02 pm (http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/20.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต กสิภารทวาชสูตรที่ ๔ [๒๙๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พราหมณคามชื่อเอกนาฬา ในทักขิณาคิรีชนบท แคว้นมคธ ก็สมัยนั้นแล กสิภารทวาชพราหมณ์ประกอบไถประมาณ ๕๐๐ ในเวลาเป็นที่หว่านพืช ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังที่การงานของกสิภารทวาชพราหมณ์ ก็สมัยนั้นแล การเลี้ยงดูของกสิภารทวาชพราหมณ์กำลังเป็นไป ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปถึงที่เลี้ยงดู ครั้นแล้วได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง กสิภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคประทับยืนอยู่ เพื่อบิณฑบาต ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระสมณะ ข้าพระองค์แล ย่อมไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค แม้พระองค์ก็จงไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วจงบริโภคเถิด พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์ แม้เราก็ไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค ฯ กสิ. ข้าแต่พระสมณะ ก็ข้าพระองค์ย่อมไม่เห็นแอก ไถ ผาล ปฏักหรือโค ของท่านพระโคดมเลย ก็แลเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านพระโคดมตรัสอย่างนี้ว่า ดูกรพราหมณ์ แม้เราก็ไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค ฯ (http://www.tatgreenheart.com/wp-content/uploads/2012/03/555000003712003.jpeg) ลำดับนั้น กสิภารทวาชพราหมณ์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า [๒๙๘] พระองค์ย่อมปฏิญาณว่าเป็นชาวนา แต่ข้าพระองค์ไม่เห็นไถของพระองค์ พระองค์อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอได้โปรดตรัสบอกไถแก่ข้าพระองค์ โดยวิธีที่ข้าพระองค์จะพึงรู้จักไถของพระองค์ ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า ศรัทธาของเราเป็นพืช ความเพียรของเราเป็นฝน ปัญญาของเราเป็นแอกและไถ หิริของเราเป็นงอนไถ ใจของเราเป็นเชือก สติของเราเป็นผาลและปฏัก เราคุ้มครองกายคุ้มครองวาจา สำรวมในอาหารในท้อง ย่อมกระทำการถอนหญ้า คือ การกล่าวให้พลาดด้วยสัจจะ ความสงบเสงี่ยมของเราเป็นเครื่องปลดเปลื้องกิเลส ความเพียรของเรานำธุระไปเพื่อธุระนำไปถึงแดนเกษมจากโยคะ ไม่หวนกลับมาย่อมถึงสถานที่ๆ บุคคลไปแล้วไม่เศร้าโศก การไถนานั้นเราไถแล้วอย่างนี้ การไถนานั้น ย่อมมีผลเป็นอมตะ บุคคลไถนานั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ฯ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๗๑๐๒ - ๗๑๗๖. หน้าที่ ๓๑๑ - ๓๑๔. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7102&Z=7176&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7102&Z=7176&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=297 (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=297) ขอบคุณถาพจาก http://www.rmutphysics.com/,http://www.tatgreenheart.com/ (http://www.rmutphysics.com/,http://www.tatgreenheart.com/) หัวข้อ: Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 08, 2012, 01:31:53 pm (http://noknoi.com/board_pics/PB_1_45014.jpg) แอก น. ไม้วางขวางบนคอวัวหรือควายใช้ไถนา คราดนา หรือเทียมเกวียน เป็นต้น; โดยปริยายหมายถึงการถูกกดขี่ ในคำว่า ปลดแอก. ไถ น. เครื่องมือทําไร่ทํานาชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันชัก หางยาม ผาล หัวหมู ใช้ควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน, คันไถ ก็ว่า.ก. เอาไถเทียมควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน; เคลื่อนไปไถลไป เช่น นั่งไม้ลื่นไถลงมา; (ปาก) ขอร้องแกมบังคับ, รีดไถ. งอน น. ส่วนปลายแห่งของบางอย่างที่เป็นรูปยาวเรียวและช้อยขึ้น เช่น งอนไถ. ผาล น. เหล็กสําหรับสวมหัวหมูเครื่องไถ. (ป., ส.). (http://pic90.picturetrail.com/VOL2340/10134202/24002159/400601355.jpg) ภาพปฏักหรือประตัก ปฏัก (แบบ) น. ประตัก. ประตัก น. ไม้ที่ฝังเหล็กแหลมข้างปลายใช้แทงสัตว์พาหนะเช่นวัว ที่มา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ขอบคุณภาพจาก http://noknoi.com/,http://pic90.picturetrail.com/ (http://noknoi.com/,http://pic90.picturetrail.com/) หัวข้อ: Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 01, 2012, 12:04:30 pm ลิงค์แนะนำ ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ..'เนื้อนาบุญของโลก' http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7797.msg28710#msg28710 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7797.msg28710#msg28710) :25: หัวข้อ: Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง?? เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ มิถุนายน 06, 2012, 10:54:39 pm สาธุ ขอบพระคุณมากครับ คุณnathaponson กับธรรมะดีๆที่ท่านโพสท์เราได้อ่านได้ศึกษากันครับ
|