สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เมื่อ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นายสรพงศ์ ชาตรี ประธานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์(โต  พรหมรังสี) ถือโอกาสฤกษ์ดีวันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 ( 5 พ.ค.2555 ) ประกอบพิธีมหามงคลเททองสัมฤทธิ์หล่อพระพุทธไสยาสน์จำลององค์ต้นแบบ ร่วมสมโภชสัมพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ปิดทองบูชากราบไหว้ ระหว่างที่ยังต้องรอการสร้างพระพุทธไสยาสน์ เนื้อทองสัมฤทธิ์องค์จริงที่จะถูกสร้างขึ้นที่มูลนิธิฯ และจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
   มีความยาวจากพระบาทถึงพระเกตุรวม 99 เมตร
   โดยพระพุทธไสยาสน์จำลองนี้จะมีความยาว 5.9 เมตร 
   และจะถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่ศาลาทานบารมี หอแก้ว หอพระ ภายในมูลนิธิฯ ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

     สรพงค์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการสร้างพระพุทธไสยาสน์ เนื้อทองสัมฤทธิ์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้เริ่มดำเนินการเตรียมการสร้างมาตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เป็นพุทธบูชากตัญญูบูชาคุณแผ่นดิน และเพื่อเป็นที่เคารพศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนชาวไทย สืบเนื่องไปในอนาคต ซึ่งถือเป็นการช่วยทำนำบำรุงพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง

    โดยพระพุทธไสยาสน์จำลององค์จริงนั้นจะเป็นพระพุทธรูป เนื้อทองสัมฤทธิ์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
    มีความยาวทั้งสิ้น 99 เมตร คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 2,200 ล้านบาทเศษ
    โดยแบ่งเป็นการหล่อองค์พระพุทธไสยาสน์ 500 ล้านบาท
     สร้างวิหารครอบองค์พระพุทธไสยาสน์ 1,700 ล้านบาท

   และในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างองค์หุ่นจำลองเท่าองค์จริงซึ่งได้เริ่มเททองหล่อในวันนี้
   อีก 45 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่นำมาดำเนินการทั้งหมดได้มาจากพลังศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั่วไป
   ที่ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันที่จะสร้างพระคู่ฟ้าคู่แผ่นดินให้เกิดขึ้นที่เมืองย่าโมแห่งนี้
   โดยประเมินระยะเวลาการก่อสร้างคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในอีกประมาณ 20 ปีต่อจากนี้


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek5qSXhNekk0TWc9PQ==&subcatid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek5qSXhNekk0TWc9PQ==&subcatid=)

(http://statics.atcloud.com/files/entries/6/62560/images/1_display.jpg)  (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQEzyAbF2MOX98x2nlMLxSnKTI_vpL6biAU752vNBF1XKhyFZ-hTg)

คุณกรีพงศ์ เทียมเศวตนี้ ผมทึ่งแก่จริงๆที่ขวนขวายสร้างศาสนสถานกึ่งๆจะเป็นวัด แต่กลับเป็นมูลนิธิไปซะงั้น จุด

ประสงค์เนื้อแท้เพื่ออะไร ? เพื่อใคร ? อาศัยชื่อเสียงคนรู้จักกว่าค่อนประเทศทำอะไรดูออกจะกว้างขวาง ศรัทธา

ผู้คนหลั่งไหลเยี่ยมเยือนมูลนิธิหลวงปู่โตไม่ขาดสาย ทำให้ปัจจัยเงินทุนมีมาสมทบอยู่เรื่อยๆขยายสร้างซื้อที่สร้าง

พระใหญ่โต เสียเรื่องเดียวที่ผมไม่ชอบแก่ตรงที่มีเมียเยอะไปหน่อย ถ้าพินิจพิจารณาแล้วคุณกรีพงศ์ เทียมเศวต

นี้แก่มีอาชีพเป็นนักแสดงมายาลวงคน ซึ่งเท่ากับผูกใจผู้คนให้เคลิ้มเพลินในตัณหา ดังนั้นดารานักแสดงจึงต้อง

ล้างมลทินตัวสร้างเสริมบารมีหนีอบาย อาชีพบาปที่ไม่ควรทำเลยนั้นมี ผู้พิพากษา/อัยการ, แพทย์, ตำรวจ, การ

เมือง, และนักแสดง เพราะสังคมนั้นหน่วงเหนี่ยวเอาหลากหลายความต่างของผู้คนมาคละร้อย และดำรงอยู่ด้วย

ความร้าวฉานขุ่นเนืองเนือง ผู้เกี่ยวข้องในทั้ง 5 สาขาวิชาชีพนี้ เสมือนหนึ่งจรรโลงโลก ผยุงโลก แต่อยู่ท่าม

กลางความเขื่องข้องของหมู่ชน ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิคุณค่าวิชาชีพอุปโลก ตกต่ำเพราะเวรไม่เคยระงับด้วยเวร ครับ!



http://atcloud.com/stories/62560
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=467552 (http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=72&t=467552)