สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ปฏิบัติกรรมฐาน แล้วเกิดความเย็นกลางหน้าอกคะ ควรทำอย่างไรต่อดีคะ
นั่งกรรมฐาน ภาวนาพุทโธ แล้ว เกิดความเย็นกลางหน้าอกแล่นขึ้นไปบนศรีษะ และแล่นไปที่ปลายขา และแล่นออกไปซ้ายขวาลงไปที่ฝ่ามือ แล้วก็เย็นอยู่อย่างนั้น ควรทำอย่างไรต่อดีคะ

 แต่มีความรู้สึกสบาย คะ สามารถนั่งกรรมฐานได้นานขึ้นกว่าเดิมคะ
 ทดสอบการทำกรรมฐาน เป็นอย่างนี้มา 3 วันแล้ว คะ

  :s_good: :67:

เคยเป็นหลายครั้งเหมือนกันคะ ตอนที่ภาวนาที่ ฐานจิตที่ 5 พระผรณาปีติ คะ

 ตอนนั้นเองก็เย็น ขึ้น เย็น ลง แ่ผ่ทั้งตัว เหมือนแช่อยู่ในน้ำเลยคะ รู้สึกขนลุกมากคะ

  คิดว่าอ่านำคำแนะนำจากพระอาจารย์ น่าจะดีกว่า นะคะส่วนนี้ ....

  อนุโมทนา ด้วยคะที่มีอาการปีติ ในระดับนี้

  สาธุ
   :25:

รออ่านคำตอบอยู่ นะจ๊ะเรื่องนี้
คิดว่า ศิษย์พี่ ๆ ทุกท่านที่ผ่านแล้ว น่าจะช่วยแนะนำด้วยนะคะ

  :25: :88: :58:

เป็นปีติ ส่วนหนึ่ง นะจ๊ะ
ภาวนา พุทโธ ตั้งมั่นไว้วางอารมณ์ให้อยู่ในนิมิต อย่าไปกังวลหรือสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นะจ๊ะ

 ที่เหลือส่งอารมณ์ มาที่ Email นะจ๊ะ ( วงเล็บไว้ด้วยว่า สอบถามเรื่องกรรมฐาน ) เพราะว่าตอนนี้จดหมายเข้ามามากและ ค้างอ่านแล้ว 6000 กว่าฉบับแล้ว นะจ๊ะ

 เจริญพร

 ;)

 

เสียดายนะครับ แจ้งอารมณ์กรรมบาน เป็นส่วนตัวเลยไม่ทราบข้อความอาจจะเป้นประโยชน์แก่ผู้ได้อ่าน ได้ฟังบ้างนะครับ

 สาธุ

  :25: :smiley_confused1:

แต่อาจจะเป็นเรื่องดี ได้นะครับ เราจะได้ไม่ต้องไปจำผิด จำถูก เพราะไม่ใช่อารมณืกรรมฐาน ส่วนของเรานะครับ ซึ่งอาจจะเหมือนและอาจจะไม่เหมือนกันได้ในส่วนนี้ นะครับ ดังนั้นผมว่า ส่งถามคำถามอย่างนี้เป้นการส่วนตัวก้ดีนะครับ ส่วนคำแนะนำเบื้องต้นเผมเห็น พระ ท่านแนะนำไว้แล้วนะครับ
 

   

เป็นปีติ ส่วนหนึ่ง นะจ๊ะ
ภาวนา พุทโธ ตั้งมั่นไว้วางอารมณ์ให้อยู่ในนิมิต อย่าไปกังวลหรือสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นะจ๊ะ

 :s_hi: :13:

เห็นด้วยอย่างมากๆเลยนะจ๊ะโดยส่วยนี้
เพราะ ที่ผ่านๆมาก็จะเห็นได้ว่า ประโยนช์ที่จะเกิดขึ้นมีน้อยกว่ามาก  มากกว่าผลเสียที่จะตามมาเสียอีก

เราปฏิบัติ เพื่อห่างไกลจากกิเลส เพื่อความหมดแล้ว ซึ้ง ราคะ โทสะ โมหะ มานะทิธฐิความมีตัวตน เห็นว่าตน เก่งกว่าเขา เห็นว่าตนเก่งเ่ท่าเขา เห็นว่าตนเก่งน้อยกว่าเขา  อยากจะไปแข่งเก่งกับเขา  เขานั่งแล้วเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ต้องนั่งแล้วเห็นอย่างเขา  เล่านี้เป็นความเห็นที่ผิด ยังมีมานะทิตฐิอยู่

แต่มีไม่น้อยที่ยังไม่สามารถที่จะชนะตรงนี้ไปได้เลย  แม้แต่่น้อย  จึงถูกิเลสเข้าครอบงำ (อยากจะนั่งให้เห็นแบบเขา)

การปฏิบัติตามลำดับ และกระทำตามที่ครูบาอาจารย์บอกสอน จึงเป็นสิ่งจำเป็น

เพื่อเป็นการปิดกั้นกิเลสที่จะเข้ามา โดยแยบคาย จากพระอาจารย์

เพื่อไม่ให้ศิษย์ที่ปฏิบัติกรรมฐาน หรือผู้ศึกษาไปรู้ไปฟังสิ่งที่เป็นเฉพาะ  เิกิดขึ้นเฉพาะกับบุคคล

ส่่วนหนึ่งเพื่อป้องกันจิตหลอกจิตหลอน คิดไปเองโดยที่ยังไม่ได้ปฏิบัติได้จริง 

ตัวอย่างทางโลก เช่นว่า ไปเห็นแฟนเราเดินอยู่กับคนอื่น  ใจก็คิดไปแล้วว่า จะต้องเป็นชู้มันแน่ๆเลย ชั่งชัวช้านัก  ทั้งๆที่ ยังไม่รู้ความจริงอะไรเลย เป็นเรื่องแตกหักกันไปเลย ก็เพราะจิตไปปรุงตั้งเอาเอง จิตหลอกจิตหลอนตัวเอง  นี้ขนาดทางโลกนะเนี้ย  แล้วถ้าเป็นการปฏิบัติแล้วด้วยละ ไม้รู้ว่า ตัวเราจะหลอกอะไรตัวเรา 

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไปจำมาหลอกตัวเอง  เห็นเขาว่าจะต้องไปเห็นอย่างนั้นเห็นอย่างนี้  ที่นี้ก็เลยมานั่งเพื่อจะให้ได้เห็นแต่อย่างนั้นอย่างนี้  ตามที่เขาพูดบอกกันมา

เพราะฉนั้น  ส่งอารมณ์กรรมฐาน แจ้งกับพระอาจารย์ทาง ช่องทางที่พระอาจารย์แจ้งไว้  จะดีที่สุด นะจ๊ะ   :25:

อันนี้เรียกว่า จิตซ้อนจิต กรรมซ้อนกรรม หรือไม่ คะ

  :58: :88: