หัวข้อ: สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ เริ่มหัวข้อโดย: SAWWALUK ที่ มิถุนายน 10, 2012, 02:08:24 pm สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ พอดีรับฟังจากรายการ RDN เสียง อาจารย์กิตติวุฑโฒ คะ
อยากทราบว่าหมายถึงอะไรคะ :c017: :c017: :c017: หัวข้อ: Re: สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ มิถุนายน 10, 2012, 03:50:14 pm สำนัก อีกนัยนึง น่าจะหมายถึง สังกัด หรือที่เรียน ที่มีการเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆ มีลูกศิษย์ลูกหา มีครูสอน มีประเพณีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ในระดับหนึ่ง น่าร่วมไปถึงหมายถึง อยู่ในความปกครองของผู้นั้น มีความเคารพในผู้ปกครองนั้นๆ ด้วย
ในสมัยโปราณ หญิงแพศยา หรืิอโสเภณี ก็มีโรงเรียน มีการเรียนการสอนเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีสถานที่อยู่เฉพาะ จะเห็นได้จาก การเป็นตัวแทนรับแขกบ้านแขกเมืองในสมัยพุทธการ และมีการคุ้มครองจากทางราชกาลเพราะจะมีเฉพาะกษัติย์เท่านั้น ที่เข้าถึงโสเภณีนี้ได้ และในส่วนมีประเพณีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง จะเห็นได้จากแม่ของหมอชีวก ซึ่งนำหมอชีวกลูกชายของตัวเองไปทิ้งเพราะ ธรรมดาของหญิงโสเภณี ต้องการลูกผู้หญิงเพื่อจะได้ทำหน้าที่ต่อไปได้ เชิงเป็นคำโปราณ ปัจจุบันไม่มีใครค่อยถือพูด ยกเว้นแต่ทางพระ หรือผู้ที่ปฏิบัติ มักจะใช้พูดคุยกัน แต่ก็มีน้อย ตัวอย่างเช่น ถามกันว่า ท่านเป็นศิษย์สำนักไหน ก็สามารถจะหมายความเอาได้ว่า ท่านเรียนที่ไหน หรือท่านอยู่ในความปกครองของใครท่านไหน ถ้าจะให้เห็นภาพได้ชัดเจน คงต้องดูจากหนังจีน ที่มีเรื่องขัดแย้งระหว่างสำนักกันมาให้ดู คงต้องรพกวนให้คุณ THAWATCHAI173 เล่าให้ฟัง หัวข้อ: Re: สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ เริ่มหัวข้อโดย: tewada ที่ มิถุนายน 10, 2012, 08:20:15 pm ตกลงสรุป ว่าคือ อะไรคะ สำนักแพศยา นี้ แล้วเกี่ยวข้องอย่างไร ต่อการปฏิบัติกรรมฐาน หรือ กับหลักธรรม ด้วยคะ
ขอบคุณมากคะ สงสัยเหมือนกัน :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 11, 2012, 12:50:41 pm (http://www.thaifilm.com/imgUpload/reply208321_%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B5--.jpg) แพศยา [แพดสะหฺยา] น. หญิงหาเงินในทางประเวณี, หญิงถ่อย, หญิงสําส่อน. (ส. เวศฺยา; ป. เวสิยา). ประเวณี น. การเสพสังวาส, การร่วมรส, ในคําว่า ร่วมประเวณี; ประเพณี เช่น ประเวณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทําร้ายเมื่อภายหลัง. (อภัย).ก. ประพฤติผิดเมียผู้อื่น เรียกว่า ล่วงประเวณี. (ส. ปฺรเวณิ; ป. ปเวณิ). ที่มา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ แพศยา หญิงหากิจในทางกาม, หญิงหาเงินในทางร่วมประเวณี ทีมา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) (http://www.bloggang.com/data/myoom/picture/1170220110.gif) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ เรื่องหญิงแพศยา [๗๖] ก็โดยสมัยนั้นแล พวกลิจฉวีกุมารในเมืองเวสาลี จับภิกษุให้ปฏิบัติผิดในหญิงแพศยา ภิกษุยินดี พระวินัยธรพึงให้นาสนะภิกษุเสีย ภิกษุไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ. อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๖๐๖๓ - ๖๐๘๖. หน้าที่ ๒๓๖ - ๒๓๗. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=6063&Z=6086&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=6063&Z=6086&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=48 (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=48) (http://i617.photobucket.com/albums/tt258/auddy228/2C5F2B2938R74GVND8A6VHIUZ79L6001.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ เรื่องนักเลงหญิง [๔๒๖] ก็โดยสมัยนั้นแล พวกนักเลงหญิงหลายคนพากันไปเที่ยวรื่นเริงในสวน ได้ส่งชายสื่อไปในสำนักหญิงแพศยาคนหนึ่งว่า ขอให้นางมา พวกเราจักพากันเที่ยวรื่นเริงในสวนหญิงแพศยานั้นได้ตอบไปอย่างนี้ว่า ข้าแต่นาย ดิฉันไม่ทราบว่า พวกท่านเป็นใคร หรือเป็นพรรคพวกของใคร อนึ่ง ดิฉันมีเครื่องแต่งกายมาก มีเครื่องประดับเรือนมาก และจะต้องไปนอกเมือง ดิฉันไปไม่ได้ ครั้นแล้วชายสื่อนั้นได้แจ้งเรื่องนั้น แก่นักเลงหญิงเหล่านั้น เมื่อชายสื่อแจ้งอย่างนั้นแล้ว บุรุษคนหนึ่งได้กล่าวกะนักเลงเหล่านั้นว่า ท่านทั้งหลายพวกท่านไปอ้อนวอนหญิงแพศยานั้นทำไม ควรบอกท่านพระอุทายีมิดีหรือ ท่านพระอุทายีจักส่งมาให้เอง เมื่อบุรุษนั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว อุบาสกคนหนึ่งได้กล่าวกะบุรุษผู้นั้นว่า คุณอย่าได้พูดอย่างนั้น การกระทำเช่นนั้นไม่สมควรแก่พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร ท่านพระอุทายีจักไม่ทำเช่นนั้น เมื่ออุบาสกนั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว นักเลงหญิงเหล่านั้น ได้พนันกันว่า ท่านพระอุทายีจักทำหรือไม่ทำ แล้วเข้าไปหาท่านพระอุทายีกล่าวดังนี้ว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า พวกข้าพเจ้าพากันไปเที่ยวรื่นเริงในสวนนี้ ได้ส่งชายสื่อไปในสำนักหญิงแพศยาชื่อโน้นว่า ขอให้นางมา พวกเราจักพากันเที่ยวรื่นเริงในสวน นางตอบอย่างนี้ว่า ข้าแต่นาย ดิฉันไม่ทราบว่า ท่านทั้งหลายเป็นใคร หรือเป็นพรรคพวกของใคร อนึ่ง ดิฉันมีเครื่องแต่งกายมาก มีเครื่องประดับเรือนมากและจะต้องไปนอกเมือง ดิฉันไปไม่ได้ ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าได้โปรดส่งหญิงแพศยานั้นไปให้สำเร็จประโยชน์ด้วยเถิด ขอรับ ลำดับนั้น ท่านพระอุทายีเข้าไปหาหญิงแพศยานั้น ครั้นแล้วได้ถามหญิงแพศยานั้นดังนี้ว่า ทำไมเธอจึงไม่ไปหาคนเหล่านี้เล่า? หญิงแพศยานั้นตอบว่า ดิฉันไม่ทราบว่า คนเหล่านี้เป็นใคร หรือเป็นพรรคพวกของใคร อนึ่ง ดิฉันมีเครื่องแต่งตัวมาก มีเครื่องประดับเรือนมาก และจะต้องไปนอกเมือง ดิฉันไปไม่ได้เจ้าค่ะ อุ. จงไปหาคนเหล่านี้เถิด คนเหล่านี้ฉันรู้จัก ญ. ถ้าพระคุณเจ้ารู้จัก ดิฉันจะไป เจ้าค่ะ ครั้งนั้น นักเลงหญิงเหล่านั้น ได้พาหญิงแพศยานั้นไปเที่ยวสวน จึงอุบาสกนั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนท่านพระอุทายีจึงได้ถึงความเป็นผู้ชักสื่ออันจะพึงอยู่ร่วมชั่วขณะหนึ่งเล่า ภิกษุทั้งหลายได้ยินอุบาสกนั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย สันโดษมีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขาต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนท่านพระอุทายีจึงได้ถึงความเป็นผู้ชักสื่ออันจะพึงอยู่ร่วมชั่วขณะหนึ่งเล่า แล้วกราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระผู้มีพระภาค....ฯลฯ.. .............................. พระอนุบัญญัติ ๙. ๕. ก. อนึ่ง ภิกษุใดถึงความเป็นผู้ชักสื่อ บอกความประสงค์ของบุรุษแก่สตรีก็ดี บอกความประสงค์ของสตรีแก่บุรุษก็ดี ในความเป็นเมียก็ตาม ในความเป็นชู้ก็ตาม โดยที่สุด บอกแม้แก่หญิงแพศยาอันจะพึงอยู่ร่วมชั่วขณะ เป็นสังฆาทิเสส ฯ เรื่องนักเลงหญิง จบ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ บรรทัดที่ ๑๔๖๙๗ - ๑๔๗๕๒. หน้าที่ ๕๖๔ - ๕๖๖. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=14697&Z=14752&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=1&A=14697&Z=14752&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i= (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=) ขอบคุณภาพจาก http://www.thaifilm.com/,http://www.bloggang.com/,http://i617.photobucket.com/ (http://www.thaifilm.com/,http://www.bloggang.com/,http://i617.photobucket.com/) หัวข้อ: Re: สำนักหญิงแพศยา คือ อะไรคะ ฟังแล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจคะ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 11, 2012, 01:01:12 pm (http://anuchit.bus.ubu.ac.th/db/image/017.jpg) เสหิ ทาเรหิ อสนฺตุฏฺโฐ เวสิยาสุปทุสฺสติ ทุสฺสติ ปรทาเรสุ ต์ ปราภวโต มุข์ ผู้ไม่สันโดษด้วยภริยาของตน ย่อมซุกซนในหญิงแพศยา และประทุษร้ายในภริยาของคนอื่น นั่นเป็นเหตุแห่งความเสื่อม (พุทฺธ) ขุ.ส. ๒๕/๓๔๘ ความสงบสุขเริ่มจากจุดเล็กๆคือ เริ่มจากสังคมของผู้ครองเรือนระหว่างสามีกับภรรยา ซึ่งมีอิทธิพลพอที่จะก่อให้เกิดความสงบสุขหรือความทุกข์ร้อนได้เป็นเหตุ ให้ครองชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น หรือจำต้องหย่าร้างแยกทางกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าทั้งสองฝ่ายมีคุณธรรมที่ชื่อว่า สทารสันโดษ ในจิตใจหรือไม่ คำว่าสทารสันโดษ มิได้มุ่งถึงเฉพาะยินดีด้วยภรรยาของตนซึ่งเป็นธรรมปฏิบัติสำหรับฝ่ายชายเท่านั้น แต่ท่านหมายถึงฝ่ายหญิงด้วย คือ หมายเอาความยินดีด้วยภรรยาและสามีของตนๆนั่นเอง ที่ท่านสอนอย่างนี้เพราะต้องการให้เว้นจากหนทางแห่งความเสื่อม เมื่อไม่มีคุณธรรมข้อนี้แล้วนอกจากจะละเมิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารแล้ว ยังเป็นเหตุให้ถลำลงไปสู่อบายมุข คือความเป็นนักเลงหญิง หรือฝ่ายหญิงริคบชู้สู่ชายอื่นนอกจากสามีของตน อันจะทำให้ชีวิตเสื่อมโทรมยากที่จะปรุงแต่งให้คงคืนสภาพเดิม หันเข้าหาสภาวะที่จะทำให้ชีวิตปัจจุบันของเราวิบัติล่มจม คำว่าอบายมุข แปลว่าปากทางที่ตกไปสู่ความเสื่อม ดังนั้น เมื่อมันเพียงปากทางเราจึงมักมองไม่เห็นความเสื่อม เพราะความเสื่อมจริงๆมันเป็นปลายทาง ซึ่งเรามองไม่เห็น เพราะยังไม่ได้ตกไปถึงภูมินั้น หากพูดกันเพียงปากทาง อาจมองเห็นความเจริญด้วยซ้ำ ปากทางที่จะเข้าคุกก็เป็นถนนราบเรียบ แต่ปลายทางเป็นคุกที่ทรมาน ปากทางที่จะตกเหว ก็เป็นป่าหญ้างามดี แต่ก้นเหวลึกมากจนทำให้คนตกแล้วตายได้ ดังนั้นผู้ปรารถนาความสงบสุขจากการครองเรือน ต้องเว้นจากอบายมุขและปฏิบัติตามหลักธรรมคือ สทารสันโดษ เพื่อเป็นเครื่องประสานความสามัคคีต่อไป ที่มา http://www.baanmaha.com/community/thread32697.html (http://www.baanmaha.com/community/thread32697.html) ขอบคุณภาพจาก http://anuchit.bus.ubu.ac.th/ (http://anuchit.bus.ubu.ac.th/) |