หัวข้อ: ทำไมคนยุค ปัจจุบัน และ อนาคต จึงมีปัญญาน้อย เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ กรกฎาคม 23, 2010, 09:59:36 pm ใน พันปีแรก ยังมี พระอรหันต์ ที่ทรงปฏิสัมภิทา ( คือมีฤทธิ์ เช่น เหาะได้ ตาทิพย์ หู
ทิพย์ เป็นต้น ) ใน พันปีที่สอง พ.ศ.1001-2000 ผู้มีคุณธรรมสูงสุด คือ พระอรหันต์ทีเป็นสุกขวิปัสส- กะ ( คือ ไม่ทรงปฏิสัมภิทา ) ใน พันปีที่สาม ตั้งแต่ พ.ศ.2001-3000 (คือในยุคนี้ ) ผู้มีคุณธรรมสูงสุด เป็นเพียง พระอนาคามีบุคคล ใน พันปีที่สี่ พ.ศ.3001-4000 ผู้มีคุณธรรมสูงสุด คือ พระสกทาคามี ใน พันปีที่ห้า พ.ศ.4001-5000 ผู้มีคุณธรรมสูงสุด คือ พระโสดาบัน ดังนั้น เลย พ.ศ.5000 จึงไม่มีพระอริยบุคคล แม้จะมีหนังสือพระไตรปิฎกอยู่ แต่ไม่มี ผู้เข้าใจ จึงกล่าวว่า พุทธศาสนา ก็หมดสิ้นไปด้วย แต่ บนสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น และ พรหมโลก ยังมีพระอริยบุคคล อยู่ ครับ จากข้อความพระไตรปิฏก จักกวัติสูตร ผมก็มาพิจารณา ดูแล้ว ว่า ในยุคนี้ ก็มองเห็นว่าการพัฒนา ทางด้านตำรา ความเข้าใจของมนุษย์นั้น มีความ ฉลาดกว่าคนยุคก่อนมาก แต่ทำไมจึงไม่มีผู้บรรลุธรรมขั้นสูง ทั้งที่ผมมองอย่างปัจจุบัน นี้เช่น พระไตรปิฏก นั้นมีทั้งที่เป็น ซีดี ข้อความ หนังสือ สืื่อต่าง ๆ ซึ่งคนหาอ่านง่าย ถ้าเทียบกับสมัยก่อน ๆ โน้น แค่พระไตรปิฏก นี้ก็แทบหาอ่านไม่ได้แล้ว ไ่ม่ต้องไปกล่าวเรื่องได้ยิน ในยุคก่อน ๆ โน้น ก็เป็นยุคของคนหลง เชื่อ เรื่องไสยศาสตร์ สิ่งลึกลับ แต่ยุคปัจจุบันนั้น กับเป็นยุคที่ปรากฏ ไปในแนววิทยาศาสตร์ ซึ่งที่จริงแล้วผมกับมองว่าในยุคปัจจุับันนี้ คนเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี กว่าเมื่อก่อนอีก แต่ทำไม คนมีความฉลาด และมีิสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา มากขนาดนี้ ทำไมจึงปรากฏข้อความ การเป็น พระอริยบุคคลสูงสุด แค่ พระอนาคามี ซึ่งผมดูจากข้อความขัดแย้ง กับพระพุทธพจน์ ที่ว่า ตราบใดที่มียังมีผู้ปฏิบัติ ตามอริยมรรค ตราบนั้นโลกนี้ก็จักไม่ว่างจากพระอรหันต์ -------------------------------------------------------------------- ผมเองก็คาดหวัง ไว้ว่า ในยุคนี้ น่าจะมีพระอรหันต์ อยู่นะครับ ======================================================== หัวข้อ: Re: ทำไมคนยุค ปัจจุบัน และ อนาคต จึงมีปัญญาน้อย เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กรกฎาคม 24, 2010, 09:05:24 am พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ - หน้าที่ 274
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และสิ่งที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอันยังไม่ถึง ก็บุคคลใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบันไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลนในธรรมนั้น ๆ ได้ บุคคลนั้นพึงเจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบย่อมเรียกบุคคล ผู้มีปรกติอยู่อย่างนี้ มีความเพียร ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวัน และกลางคืน นั้นแลว่า ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ :25: :25: |