สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

     เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์  ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาควบคุมอาหารปรุงสำเร็จ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่าภายในสัปดาห์นี้กรมการค้าภายในจะประกาศราคาแนะนำขั้นสูง

    สำหรับเมนูอาหารหลักที่คนไทยนิยมบริโภค 7 รายการในพื้นที่ 38 จังหวัด ซึ่ง 32 จังหวัดเป็นจังหวัดที่ประชาชนนิยมบริโภคอาหารนอกบ้านโดยเฉลี่ย 10% ของรายได้ และอีก  6 จังหวัดเป็นจังหวัดที่อาหารปรุงสำเร็จมีราคาแพง

    สำหรับรายการประกอบด้วยข้าวผัดหมู ไก่, กะเพราหมู ไก่, ข้าวราดแกง 1-2 อย่าง, ก๋วยเตี๋ยวหมู ไก่ ,ข้าวพะโล้,ข้าวไข่เจียว,โจ๊กหมู ไก่ โดยกำหนดไม่ให้จำหน่ายกิน 30 บาทต่อเมนู

ยกเว้นภาคใต้ที่ให้เพิ่มเข้าไปได้เมนูละ 5 บาท เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงกว่าภาคอื่นและรายได้ต่อครัวเรือนของภาคใต้สูงกว่าภาคอื่น รวมทั้งร้านอาหารในศูนย์การค้าก็สามารถบวกเพิ่มเข้าไปได้อีก 5 บาท ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องปิดป้ายประกาศให้ลูกค้ารับทราบอย่างชัดเจน

 โดยจะมีผลต่อ ร้านอาหารทั่วไป ศูนย์อาหารในตลาดสด ศูนย์อาหารในสำนักงาน ในห้างสรรพสินค้า  ร้านค้าปลีก-ส่ง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง สถานีขนส่งผู้โดยสาร หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามหรือขายแพงโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรก็จะมีความผิดทางกฎหมาย ส่วนหาบเร่แผงลอย ภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีบริการพิเศษ และร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยว หรือสถานบันเทิง นั้นไม่มีผลบังคับเพราะถือว่าเป็นทางเลือกของผู้บริโภค
 
 นอกจากนี้ในเร็วๆนี้จะเรียกหารือกับห้างร้าน และศูนย์อาหารต่างๆ เพื่อให้ลดส่วนแบ่งรายได้ และค่าเช่าพื้นที่ลงเหลือ 20% จากปัจจุบันที่คิดอยู่ 35% เพราะจะช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการอาหารปรุงสำเร็จลงได้ โดยจะนำข้อสรุปที่ได้สนอต่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงการคลัง และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาต่อไปว่าจะนำเมนูอาหารปรุงสำเร็จดังกล่าวเข้าเป็นสินค้าควบคุมหรือไม่

 “กลัวเหมือนกันว่าผู้ค้าจะไม่ขายเมนูพวกนี้เพื่อเลี่ยงการขายไม่เกิน 30 บาท แต่เมนูเหล่านี้ก็เป็นเมนูยอดนิยมของคนทั่วไป ซึ่งในเบื้องต้นไม่อยากใช้มาตรการบังคับเพื่อประกาศเป็นราคาควบคุมเพราะอยากให้ผู่ค้าให้ความร่วมมือ ซึ่งในห้างสรรพสินค้าหรือร้านอาหารควรแสดงราคาอาหารเหล่านี้ทั้ง 7 เมนู และไม่ควรเกิน 30 บาทไม่ว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือข้างนอกหากแพงกว่านี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณว่าจะกินหรือไม่และจะมีการประเมินผลและรายงานผลดำเนินการทุกสองสัปดาห์”นายยรรยง กล่าว

     สำหรับ 32 จังหวัดที่มีผลต่อราคาแนะนำดังกล่าว เนื่องจากสัดส่วนรายได้ที่นำไปใช้ในการซื้ออาหารเพื่อรับประทานนอกบ้านเกิน 10% ของรายได้รวม คือ
     สมุทรปราการ นครปฐม ภูเก็ต นนทบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทสาคร ปทุมธานี กรุงเทพ พระนครศรีอยุธยา
     นครราชสีมา สตูล สงขลา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ปัตตานี สิงห์บุรี อ่างทอง ขอนก่น ตราด ชัยภูมิ
     ระนอง ลพบุรี ชลบุรี กาญจบุรี พังงา นราธิวาส ยโสธร สระบุรี ลำพูน และเชียงใหม่ 
     และ 6 จังหวัดที่อาหารปรุงสำเร็จเฉลี่ยสูงกว่า 30 บาทต่อเมนู คือ ยะลา สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ตรัง และหนองคาย

ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek9UVTNOVEU1TUE9PQ==&subcatid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek9UVTNOVEU1TUE9PQ==&subcatid=)

จะทำได้หรือไม่ ครับ ต้องรอชมกันตอนต่อไป ครับ...

  :s_hi: :49:

ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป ว่าพ่อค้า แม่ค้า จะทำตามกันหรือไม่ อันที่จริงราคา น้ำมันก็ลงมามากแล้ว แต่ทำไมไม่ลดราคา กันนะคะ

  :c017: :smiley_confused1: